DeFi Technologies ยอมรับบิทคอยน์เป็นทุนสำรอง ซื้อไปแล้วถึง 110 BTC
DeFi Technologies ผู้จัดหาการลงทุนที่มุ่งเน้นด้านคริปโต ประกาศว่า เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาได้ซื้อบิทคอยน์ไปถึง 110 BTC เพื่อใช้เป็นกองทุนสำรอง
กลยุทธ์บิทคอยน์ของ DeFi Technologies
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา บริษัทสัญชาติแคนนาเดียนนี้ได้มีแถลงการณ์ว่า ตอนนี้บิทคอยน์จะกลายเป็นกองทุนสำรองอันดับ 1 ซึ่งถือเป็นบริษัทมหาชนแห่งแรกของแคนาดาที่ออกมาแถลงการณ์ ก่อนที่บริษัทอื่น ๆ จะตามกันมา
บริษัทกล่าวว่า ขณะนี้ บิทคอยน์เป็นสินทรัพย์หลักที่มีมูลค่าตลาดเกิน 1 ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐ โดย DeFi Technologies เชื่อว่าเป็นเพราะคุณลักษณะที่โดดเด่นของบิทคอยน์ คือ หายากและมีจำกัด ทำให้สามารถต้านความเสี่ยงจากสภาวะเงินเฟ้อและความเสื่อมถอยทางการเงินได้
หุ้นของ DeFi Technologies ได้ทำการเทรดเช่นเดียวกันกับบริษัทอื่น ๆ ก่อนหน้า โดยเทรดบน Cboe (Chicago Board Options Exchange) ของแคนาดา ผ่านการใช้ ticker ผลคือมูลค่าเพิ่มขึ้น 25% เป็น 220 ดอลล่าร์แคนาดาเมื่อตอนปิดตลาดวันจันทร์ โดยมีมูลค่าราคาตลาดเมื่อสิ้นสุดวันอยู่ที่ 641 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ
ตามเว็บไซต์ของบริษัท DeFi Technologies ได้เปิดเผยสินทรัพย์ดิจิตอลในระดับสถาบันผ่าน ETPs, กิจการเชิงกลยุทธ์ และโครงสร้างพื้นฐาน Web3 ที่สำคัญ Valour ซึ่งเป็นผู้ให้บริการ ETF ในเครือของบริษัท ได้ถือครอง 837 ล้านดอลล่าร์แคนาดา (607 ดอลล่าร์สหรัฐ) เป็นทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการ
บริษัทได้จัดหาคริปโต ETP จำนวนมาก รวมถึงบิทคอยน์ ETF ที่ไม่มีค่าธรรมเนียม และตัวที่ให้ผลตอบแทนแก่นักลงทุนกว่า 5% ต่อปี
บริษัทยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ด้วยความแตกต่างอย่างมากด้านมูลค่านี้ DeFi Technologies เชื่อว่าบิทคอยน์มีศักยภาพที่จะให้ผลตอบแทนเกินขนาด เนื่องจากได้รับการยอมรับมากขึ้นเรื่อย ๆ
มาตรฐานบิทคอยน์ขององค์กรที่กำลังเติบโต
บริษัทเป็นเจ้าของ Reflexivity Research ซึ่งเป็นบริษัทข่าวกรองด้านตลาดคริปโต ก่อตั้งโดยอินฟลูด้านคริปโตชื่อดัง อย่าง Anthony Pompliano และ Will Clemente โดย Anthony ได้ทวีตเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า เขายืนยันว่าบริษัท Pomp Investments ของเขายังคงเป็นนักลงทุนของ DeFi Technologies และมองว่าบริษัทดังกล่าวถูกประเมินค่าต่ำไป
กว่า 2 เดือนที่ผ่านมา นอกจาก MicroStrategy แล้ว ยังมีบริษัทอีกจำนวนมากที่เลือกบิทคอยน์เป็นเครื่องมือในการออมหลักสำหรับเงินสดส่วนเกิน ไม่ว่าจะเป็นบริษัทด้านการดูแลสุขภาพของสหรัฐ อย่าง Semler Scientific และบริษัทลงทุนของญี่ปุ่นอย่าง MetaPlanet เป็นต้น
ทั้ง MetaPlanet และ Semler ต่างแสดงให้เห็นว่าเต็มใจที่จะใช้ตลาดทุนในการระดมทุน เพื่อนำมาซื้อบิทคอยน์มากขึ้นไปอีก แทนที่จะแค่ใช้กำไรบริษัท อย่างไรก็ตาม DeFi Technologies ยังไม่มีแพลนดังกล่าว
MicroStrategy ยังคงเป็นนักลงทุนบิทคอยน์รายใหญ่ที่สุดอย่างถล่มทลาย โดยถือเหรียญที่น่าลงทุนที่สุด อย่าง บิทคอยน์ภายใต้การบริหารถึง 214,400 BTC
