ตลาดกระทิงและตลาดหมีคืออะไร?

ตลาดกระทิงและตลาดหมีเป็นคำศัพท์ที่ใช้อธิบายถึงภาวะหรือสถานการณ์ของตลาดการลงทุน 

หากคุณสนใจที่จะก้าวเข้าสู่วงการการลงทุนในตลาดคริปโทเคอร์เรนซีหรือตลาดการลงทุนใดก็ตาม นอกเหนือไปจากความรู้แล้ว การสังเกตหรือการจับสัญญาณภาวะตลาดให้ออกก็เป็นสิ่งสำคัญ

บทความนี้จะมาอธิบายถึงความหมายของคำว่าตลาด ‘กระทิง’ และตลาด ‘หมี’ ว่าคืออะไร สิ่งที่ควรทำและข้อควรระวังในภาวะตลาดเหล่านี้ และวิธีการสังเกตสัญญาณของตลาด

ตลาดกระทิงและตลาดหมีสัมพันธ์กับทฤษฎีดาว

ตลาดกระทิงและตลาดหมีได้ถูกนำมาประยุกต์ใช้ร่วมกับทฤษฎีดาวในการสังเกตสัญญาณของตลาดจากวัฏจักรราคาของหุ้นและได้ถูกนำมาใช้กับตลาดลงทุนหลายตลาด เช่น การเกร็งค่าเงิน Fiat Money ทองคำ และคริปโทเคอร์เรนซี

ทฤษฎีดาว (Down Theory) เป็นทฤษฎีการลงทุนในหุ้นด้วยเทคนิคการสังเกตกราฟ ถูกคิดค้นขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 19 โดยชาร์ลส์ เฮนรี่ ดาว (Charles Henry Dow) นักข่าวชาวอเมริกันผู้ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Dow Jones & Company กับ Edward Jones และ Charles Bergstresser

 

หลักการณ์ของทฤษฎีดาวคือ ราคาของหุ้นจะขึ้นและลงเป็นวัฏจักรคล้ายคลื่น โดยปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาหุ้นมีหลายปัจจัย เช่น เศรษฐกิจ ภาวะเงินเฟ้อ และผลประกอบการของบริษัท 

นักลงทุนควรสังเกตวัฏจักรราคาของหุ้นให้ออก จากนั้นเข้าซื้อหุ้นในช่วงที่ราคาหุ้นลดต่ำลงให้ได้มากที่สุดและขายหุ้นที่ราคาขึ้นสูงให้ได้มากที่สุด

กล่าวโดยง่ายคือ ซื้อหุ้นที่ราคาท้องคลื่นและขายหุ้นที่ราคาหลังคลื่นของวัฏจักร!

ตลาดกระทิงคืออะไร

ตลาดกระทิง (Bull Market) คือคำศัพท์ที่ใช้อธิบายถึงภาวะของตลาดลงทุนที่อยู่ในช่วงขาขึ้นอย่างต่อเนื่องหรือก้าวกระโดด 

ตัวอย่าง:

• เหรียญ Bitcoin ได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากประมาณ 1.09 ล้านบาท (25 มกราคม 2024) ไปเป็นประมาณ 2.55 ล้านบาท (14 มีนาคม 2024)
• เหรียญ Ethereum ได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากประมาณ 86,000 บาท (8 กุมภาพันธ์ 2024) ไปเป็นประมาณ 143,000 บาท (12 มีนาคม 2024)
• เหรียญ Dodge ได้เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากประมาณ 3 บาท (24 กุมภาพันธ์ 2024) ไปเป็นประมาณ 6 บาท (15 มีนาคม 2024)

สิ่งที่ควรทำในภาวะตลาดกระทิง

สิ่งนักลงทุนควรทำในภาวะนี้มีขั้นตอนดังต่อไปนี้ 

1. หาเหตุผลว่าทำไมราคาเหรียญอยู่ในช่วงขาขึ้นจากเว็บไซต์ข่าวและเพจการลงทุนที่เชื่อถือได้
2. ตรวจสอบกราฟราคาเหรียญย้อนหลังอย่างน้อย 1 เดือนตามทฤษฎีดาว
3. ตรวจสอบอุปทานของเหรียญที่มีอยู่ในบล็อกเชน (Blockchain)
4. เมื่อนักลงทุนมั่นใจแล้ว ให้ทำการซื้อเหรียญคริปโตเพิ่ม 

สิ่งที่ต้องระวังในภาวะตลาดกระทิง

นักลงทุนควรคำนวณราคาเฉลี่ยของเหรียญที่มีอยู่ในกระเป๋าดิจิทัลของตนเองและราคาเหรียญในตลาดให้ดี เพื่อให้แน่ใจว่าเมื่อซื้อเหรียญใหม่เพิ่มแล้ว ราคาถัวเฉลี่ยของเหรียญในกระเป๋าจะยังคงต่ำกว่าราคาตลาด

ตลาดหมีคืออะไร

ตลาดหมี (Bear Market) คือคำศัพท์ที่ใช้อธิบายถึงภาวะของตลาดลงทุนที่อยู่ในช่วงขาลงอย่างต่อเนื่องหรือราคามีการเปลี่ยนแปลงช้ามาก 

ตัวอย่าง:

• เหรียญ Luna ได้เปลี่ยนแปลงลดลงอย่างต่อเนื่องจากประมาณ 45 บาท (25 มีนาคม 2024) ไปเป็นประมาณ 21 บาท (14 กุมภาพันธ์ 2024)
• เหรียญ Shiba ได้เปลี่ยนแปลงลดลงอย่างต่อเนื่องจากประมาณ 0.000000037 บาท (11 มกราคม 2024) ไปเป็นประมาณ 0.000000013 บาท (14 กุมภาพันธ์ 2024)

สิ่งที่ควรทำในภาวะตลาดหมี

หากนังลงทุนพบว่าเหรียญคริปโตที่มีอยู่ในกระเป๋าดิจิทัลของตนเองเข้าสู่ภาวะตลาดหมี เราขอแนะนำให้นักลงทุนทำการขายเหรียญที่มีทั้งหมดในทันที

อย่างไรก็ตาม หากนักลงทุนเชื่อมั่นว่าราคาเหรียญจะกลับมาสู่จุดเดิมหรือดีขึ้นในอนาคต นักลงทุนสามารถเข้าซื้อเหรียญเพิ่มเพื่อทำการถัวเฉลี่ยราคา

สิ่งที่ต้องระวังในภาวะตลาดหมี

หากนักลงทุนถือเหรียญคริปโตที่ไม่ใช่เหรียญหลักที่เป็นที่รู้จักในระดับสากล เช่น Bitcoin แต่เป็นเหรียญคริปโตใหม่และนักลงทุนเลือกที่จะถือเหรียญต่อไปและ/หรือซื้อเหรียญเพิ่มเพื่อถัวเฉลี่ยราคา 

นักลงทุนควรตระหนักถึงความเสี่ยง ดังนี้

• เหรียญอาจถูกขายเป็นจำนวนมากโดยวาฬคริปโตซึ่งอาจจะเป็นนักพัฒนาเหรียญ เจ้าของโครงการ หรือนักลงทุนรายใหญ่
• หากราคาเหรียญสู่จุดต่ำสุดอย่างต่อเนื่อง เหรียญอาจถูกนำออกจากกระดานเทรดและทำให้เหรียญที่นักลงทุนมีอยู่ไม่มีมูลค่าใด ๆ

วิธีสังเกตสัญญาณ ตลาดกระทิงและตลาดหมี คริปโต

นักลงทุนสามารถสังเกตหรือจับสัญญาณของภาวะตลาดในการลงทุนคริปโทเคอร์เรนซีได้ยากมาก เนื่องจากการขึ้นลงของราคาเหรียญดิจิทัลนั้นคาดเดาและหาเหตุผลไม่ได้

ซึ่งจะแตกต่างจากการลงทุนประเภทอื่น เช่น หุ้น ทองคำ และกองทุนรวม ที่มีปัจจัยทางเศรษฐกิจ ผลประกอบการ ภาวะเงินเฟ้อ และอื่น ๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง

อย่างไรก็ตาม เทคนิคการสังเกตแท่งเทียนที่ใช้สำหรับการลงทุนในหุ้นอาจสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการลงทุนในตลาดคริปโทเคอร์เรนซีได้เช่นเดียวกัน

วิธีการก็คือ หากมีแท่งเทียนสีเขียวจำนวน 2-3 แท่งติดต่อกัน ให้นักลงทุนเตรียมตัวให้พร้อมกับ Bull Run คือราคาเหรียญมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้น

แต่ถ้าหากมีแท่งเทียนสีแดงจำนวน 2-3 แท่งติดต่อกัน ให้นักลงทุนเตรียมตั้งรับกับราคาเหรียญที่จะลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ โปรดพึงระลึกไว้เสมอว่า ‘การขึ้นลงของราคาเหรียญดิจิทัลนั้นคาดเดาและหาเหตุผลไม่ได้’!

สรุป

ตลาดหมี ตลาดกระทิงคือคำศัพท์ที่ใช้อธิบายถึงภาวะหรือสถานการณ์ของตลาดลงทุน ซึ่งในวงการคริปโทเคอร์เรนซี ตลาดกระทิงหมายถึงราคาเหรียญเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และตลาดหมีหมายถึงราคาเหรียญลดลงอย่างต่อเนื่องหรือมีการเปลี่ยนแปลงที่ช้ามาก

ทั้งนี้ การสังเกตหรือจับสัญญาณในภาวะตลาดสำหรับการลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซีอาจจะใช้ไม่ได้ผล 

เนื่องจากการขึ้นลงของราคาเหรียญดิจิทัลนั้นคาดเดาและหาเหตุผลไม่ได้ซึ่งจะแตกต่างจากการลงทุนประเภทอื่น ๆ เช่น หุ้น ที่มีปัจจัยต่าง ๆ เช่น เศรษฐกิจ ผลประกอบการ และภาวะเงินเฟ้อเข้ามาเกี่ยวข้อง

อย่างไรก็ตาม การลงทุนทุกประเภทมีทั้งโอกาสและความเสี่ยง นักลงทุนโปรดศึกษาและทำความเข้าใจให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน