13 เหรียญ DeFi ที่น่าซื้อที่สุดในปี 2024

ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา การเงินแบบกระจายศูนย์ (Decentralized Finance หรือ DeFi) ได้เติบโตอย่างก้าวกระโดด ทำให้นักลงทุนรุ่นบุกเบิกหลายคนพอใจกับผลตอบแทนอย่างมาก แม้การหาสกุลเงินดิจิทัล DeFi ที่ดีที่สุดอาจเป็นเรื่องยาก แต่ก็ไม่เสมอไปบทความนี้ เราจะเสนอรายชื่อเหรียญ DeFi ที่ดีที่สุดในการลงทุน อธิบายว่าการลงทุนในเหรียญ DeFi คุ้มค่าหรือไม่ และวิเคราะห์อย่างละเอียดถึงแพลตฟอร์มที่อาจเป็นตัวเลือกยอดนิยมในการซื้อเหรียญ DeFi ที่ดีที่สุดในปี 2024 ว่ามีเหรียญ DeFi มีอะไรบ้าง

วิเคราะห์โทเค็นและโปรเจกต์ DeFi ที่ดีที่สุด

เราได้เลือกโปรเจกต์ DeFi ที่ดีที่สุดมาหลากหลายเพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนหน้าใหม่มีตัวเลือกมากขึ้น แต่ละโปรเจกต์มีแนวโน้มที่ดีและมีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง จึงได้รับการคัดเลือกให้อยู่ในรายการของเรา

1. Dogeverse (DOGEVERSE) – เหรียญ Mulitichain ที่ตั้งใจเปลี่ยนแปลงแนวทางการลงทุนในโลก DeFi

Dogeverse เป็นเหรียญ DeFi ที่กำลังเสนอโอกาสการลงทุนแบบใหม่ในวงการคริปโต โดยมาพร้อมกับตัวมาสค็อตอย่าง Doge ที่เดินทางท่องไปยังเชนต่างๆ ในตลาด เปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถซื้อเหรียญผ่านกระดานเทรด CEX และ DEX อย่างง่ายดาย

โดยปัจจุบัน เหรียญสามารถเข้าถึงได้ผ่าน Ethereum, Binance, และ Polygon โดยทีมงาน ตั้งใจที่จะเชื่อมเหรียญไปยัง Solana, Avalanche และ Base ในอนาคต พร้อมโอกาสเติบโตสูงก่อนวัน Doge Day ที่กำลังจะถึง

Dogeverse เป็นเหรียญในธีม Doge สกุลแรกของโลกที่นำเสนอกลไก Multichain หมายความว่าเหรียญจะเปิดให้เข้าถึงได้อย่างง่ายดายผ่าน Blockchain ทั้งหกข้างต้น เพื่อให้นักลงทุนสามารถซื้อเหรียญได้ผ่านเชนที่ต้องการได้อย่างไร้รอยต่อ

สำหรับใครที่ต้องการซื้อเหรียญในช่วงพรีเซลล์ คุณจะต้องดาวน์โหลด MetaMask Wallet และมี ETH, USDT, BNB, และ MATIC ในกระเป๋าเพื่อทำการซื้อเหรียญให้เสร็จสิ้น ปัจจุบัน Dogeverse เสนอผลตอบแทนต่อปีที่ 600,000% โดยมีเงื่อนไขคือนักลงทุนต้องซื้อเหรียญผ่านเครือข่าย Ethereum เท่านั้น โดยผลตอบแทนดังกล่าวจะลดลงเมื่อเวลาผ่านไป

$DOGEVERSE ถูกจำกัดอุปทานเอาไว้ที่ 200,000,000,000 โทเค็น โดยทีมงานเปิดขาย 15% ของอุปทานทั้งหมดในช่วงพรีเซลล์ และสำรองเหรียญอีก 10% ไว้เป็นรางวัล Staking ทำให้เหรียญมีโอกาสสูงที่ราคาจะดีดขึ้นหลังเปิดตัวบนกระดานแลกเปลี่ยน

นักลงทุนที่สนใจสามารถเข้าร่วม Dogeverse บน X และช่อง Dogeverse Telegram สำหรับข่าวสารล่าสุด

2. WienerAI — เหรียญมีมที่มีโอกาสเติบโต เปิดขายพรีเซลพร้อมโอกาสการ Stake

WienerAI ($WAI) เป็นหนึ่งในเหรียญมีมที่มีโอกาสเติบโต เพราะเมื่อผ่านการขายพรีเซลไปเพียงไม่นาน โครงการนี้ก็สามารถระดมทุนได้อย่างรวดเร็ว และปัจจุบันยอดขายพรีเซลก็ได้ทะลุ 360,000 ดอลลาร์ไปแล้ว

WienerAI ผสมผสานปัญญาประดิษฐ์และเหรียญมีมไว้อย่างลงตัว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้รางวัลแก่ชุมชน นอกจากนี้ ยังมีแผนงานในเชิงกลยุทธ์ที่จะช่วยเสริมให้ผู้ถือโทเค็นเชื่อมั่นได้ว่า โครงการนี้จะกลายเป็นผู้นำในตลาดเหรียญมีมได้อย่างแน่นอน

แม้ว่า WienerAI จะเป็นเหรียญมีมใหม่ แต่ก็มีความโดดเด่นและดึงดูดความสนใจของนักลงทุนคริปโตได้อย่างรวดเร็ว และเชื่อมั่นว่า Wiener AI น่าจะประสบความสำเร็จในตลาดเหรียญ DiFi ในอนาคตได้อย่างแน่นอน

นอกจากการซื้อ Wiener AI จะสร้างโอกาสทำกำไรในตลาดได้แล้ว ผู้ที่ซื้อในช่วงพรีเซลยังสามารถ Stake เพื่อรับรางวัลได้ถึง 1892% ต่อปีอีกด้วย ซึ่งถือเป็นแนวทางในการรับรายได้เพิ่มเติมสำหรับคนที่กำลังมองหาโครงการที่ให้รายได้มากกว่า 1 ทาง

นักลงทุนที่ต้องการมีเหรียญมีมที่มีโอกาสเติบโตสูงในกระเป๋า และต้องการซื้อโทเค็นในราคาพิเศษ เพื่อสร้างโอกาสในการทำกำไรแบบทวีคูณ สามารถติดตาม WienerAI บน Twitter และ Telegram เพื่อหาข้อมูลก่อนการลงทุนได้เลย

3. 99Bitcoins (99BTC) – เหรียญ Learn 2 Earn ที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถทำกำไรจากการเข้าร่วมแพลตฟอร์ม

99Bitcoins ($99BTC) เป็นเหรียญ DeFi จากแพลตฟอร์ม Learn 2 Earn ที่ให้บริการมาตั้งแต่ปี 2010 โดยเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลในตลาดคริปโตได้แบบเจาะลึก พร้อมผู้ติดตามกว่า 700,000 คนบน YouTube ตอนนี้ ทางแพลตฟอร์มกำลังจะนำเทคโนโลยี Blockchain มาเพื่อให้รางวัลผู้ใช้จากการเข้าร่วมหลักสูตรต่างๆ ของแพลตฟอร์ม 

99Bitcoins จะเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถเข้ามามีส่วนร่วมภายในชุมชนได้โดยการสมัครสมาชิกเข้าร่วมหลักสูตรต่างๆ ซึ่งตอนนี้มีผู้สมัครเข้ารับหลักสูตรมากกว่าสองล้านคนเป็นที่เรียบร้อย โดยใครก็ตามที่เข้าร่วมศึกษาบนแพลตฟอร์มจะได้รับคะแนนผ่านระบบ MyPoints ซึ่งจะแจกรางวัลเป็น $99BTC ให้กับผู้ใช้ที่มีคะแนนสูงเป็นอันต้นๆ 

$99BTC เป็นเหรียญที่ถูกสร้างขึ้นบน Ethereum Blockchain และทางทีมงานก็เตรียมเชื่อมเหรียญไปบน Bitcoin Blockchain เพื่อให้เหรียญเข้ามาอยู่ในกลุ่ม BRC-20 ซึ่งมีความมั่นคงและเหมาะสำหรับนักพัฒนา dApp และ NFT เพื่อให้สามารถสร้างสรรค์ผลงานในโลก DeFi ได้อย่างง่ายดาย 

นอกจากนี้ ผู้ถือ $99BTC จะมีโอกาสเข้าถึงกลุ่ม VIP รวมถึงสัญญาณเทรดจากนักลงทุนมืออาชีพ และใช้เหรียญเป็นส่วนลดสินค้าและบริการจาก 99Bitcoins ได้อีกด้วย ถือว่านอกจากจะได้เรียนรู้ข้อมูลเพื่อก้าวนำตลาดแล้ว นักลงทุนยังสามารถรับสิทธิประโยชน์มากมายไปพร้อมๆ กัน 

นักลงทุนยังสามารถ Stake $99BTC เพื่อรับรายได้แบบพาสซีฟได้เพิ่มเติม พร้อมโอกาสรับ Airdrop เป็น $99BTC มูลค่ากว่า 99,999 ดอลลาร์ไปแบบฟรีๆ หากเข้าร่วมเหรียญในช่วงพรีเซลล์ โดยทีมงานสำรองอุปทานทั้งหมดไว้ที่ 99,000,000,000 โทเค็นและเก็บไว้เป็นรางวัลที่ 14% เป็นระยะเวลาสองปี และขายเหรียญในช่วงพรีเซลล์ที่ 15% ของอุปทานดังกล่าว 

99Bitcoins ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามในหมู่นักลงทุน โดยระดมทุนได้แล้ว 117,000 ดอลลาร์ภายในไม่กี่นาทีหลังเปิดตัว นักลงทุนสามารถอ่าน 99Bitcoins Whitepaper และเข้าร่วมช่อง Telegram เพื่อรับข้อมูลข่าวสารล่าสุดที่นี่ 

4. 5th Scape (5SCAPE) – เหรียญที่นำเสนอโลกเสมือนผ่านแว่นและเก้าอี้ VR ในโลก DeFi

อีกหนึ่งเหรียญ DeFi ในรายการของเราคือ 5th Scape ($5SCAPE) ซึ่งเป็นเหรียญที่นำเสนอเกม Metaverse ผ่านเทคโนโลยี VR และ Blockchain อย่างลงตัว เปิดประสบการณ์การเล่นเกมที่ดื่มด่ำและสมจริงผ่านแว่นและเก้าอี้ VR แห่งนวัตกรรม

$5SCAPE เป็นเหรียญหลักของ 5th Scape ซึ่งทำงานในฐานะ Utility Token ชั้นดีที่กำลังเปิดระดมทุนในช่วงพรีเซลล์ในตอนนี้ โดยเหรียญจะสามารถถือเอาไว้เพื่อรับสิทธิพิเศษและเข้าถึงฟีเจอร์ต่างๆ รวมถึงเกม MMA เวอร์ชันทดลองที่เปิดโอกาสให้ผู้ถือเหรียญได้เข้าร่วมเล่นเกมได้ก่อนใครอีกด้วย

นอกจากเกม Metaverse แล้ว ตัวเหรียญยังเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงโหมดการเล่นรูปแบบอื่นๆ รวมถึงดูหนังฟรีผ่านแว่น VR สุดพิเศษจาก 5th Scape ตามที่ระบุไว้ใน Whitepaper ทางโปรเจกต์จะเปิดตัวแพลตฟอร์มที่ผู้เข้าร่วมสามารถเข้าถึงเกมได้แบบลื่นไหลและไร้รอยต่อ

นอกจากเกม MMA แล้ว ทางทีมงานยังวางแผนเปิดตัวเกมแข่งบอลและคริกเก็ตเพิ่มเติม โดย $5SCAPE จะสามารถใช้เป็นส่วนลดสำหรับสินค้าและบริการต่างๆ ภายในเกม นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถซื้อแว่นและเก้าอี้ VR ของทางแพลตฟอร์มได้ในราคาที่ถูกลงอีกด้วย

หลังจากเปิดตัวพรีเซลล์ไปได้ไม่นาน $5SCAPE ก็สามารถระดมทุนได้แล้ว 4.8 ล้านดอลลาร์​ โดยนักลงทุนสามารถซื้อเหรียญได้ในราคา 0.00215 ดอลลาร์ต่อโทเค็น ซึ่งจะมีทั้งหมด 12 รอบด้วยกัน โดยทีมงานขาย 80% ของอุปทานทั้งหมด (5.21 พันล้านโทเค็น) ในช่วงพรีเซลล์

$5SCAPE เป็นเหรียญที่มียูทิลิตี้เป็นของตัวเอง และตั้งใจพัฒนาเกมที่น่าสนใจเพื่อทำให้โปรเจกต์สามารถเติบโตต่อได้ในระยะยาวในโลก DeFi โปรดเข้าร่วมช่อง 5th Scape Telegram เพื่อรับข่าวสารล่าสุดก่อนใคร

5. Sponge V2 – เหรียญมีมฉบับอัปเกรดให้ผลตอบแทน Staking สูงและโอกาสเล่นเกมแบบ P2E

หนึ่งในเหรียญ DeFi น่าสนใจที่สุดในตอนนี้คือ Sponge V2 ($SPONGEV2) โดย Sponge V2 เป็นเวอร์ชันอัปเกรดของ Sponge ซึ่งเป็นเหรียญมีมที่ได้รับความนิยมที่เปิดตัวในปี 2023

โทเค็นเวอร์ชันใหม่นี้จะเปิดโอกาสให้ผู้ถือโทเค็น V1 เข้าถึงโทเค็น V2 ผ่านโมเดล stake-to-bridge ซึ่งผู้ถือ $SPONGE สามารถ stake โทเค็นที่ถืออยู่ใน Smart Contract ของ V2 และได้รับโทเค็น $SPONGEV2 เป็นรางวัลเท่าๆกัน ปัจจุบัน วิธีเดียวที่จะเข้าถึงโทเค็น $SPONGEV2 คือ ผ่านโมเดล stake-to-bridgeตามที่ whitepaper ของ Sponge V2 ระบุ โทเค็นเวอร์ชันใหม่จะเข้าซื้อขายในตลาดแลกเปลี่ยนคริปโตในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ในขณะที่โทเค็น V1 ของคุณจะถูก lock ไว้ใน Smart Contract ของ V2 ทำให้ unstake ไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้สามารถเข้าถึงโทเค็น V2 และได้รับ APY ขั้นต่ำ 246%Sponge ยังจะเปิดตัวระบบ play-to-earn ที่สมาชิกในชุมชนจะสามารถเพิ่มรายได้ด้วย โดยในเกมที่กำลังจะมาถึง ผู้เล่นจะต้องแข่งขันในความท้าทายต่างๆเพื่อปีนขึ้นสู่จุดสูงสุดของลีดเดอร์บอร์ดออนไลน์ ผู้ที่ทำผลงานได้ดีที่สุดจะได้รับรางวัลเป็นโทเค็น $SPONGEV2

ด้วยการเปิดตัวยูทิลิตี้โทเค็นเวอร์ชันใหม่นี้ Sponge V2 อาจกลายเป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตที่มีผลงานดีที่สุดในระยะยาว คอยติดตามข่าวสารเพิ่มเติมจากโปรเจกต์โดยเข้าร่วมช่อง Telegram และ Discord ของ Sponge V2

6. Smog – เหรียญ DeFi ยอดนิยมโดยรวมในการลงทุน มี APY จากการ staking 42% และให้รางวัล Airdrop มหาศาล

Smog ($SMOG) เป็นเหรียญ DeFi ที่ดีที่สุดบน Solana ในปัจจุบัน โดยได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างรวดเร็วตั้งแต่เปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ 2024

Smog เริ่มซื้อขายบน Jupiter DEX ก่อน จากนั้นจึงเข้าสู่เครือข่าย Ethereum ผ่าน Portalbridge โดยมีมูลค่าตามราคาตลาดสูงถึง $100 ล้านเหรียญที่จุดสูงสุดภายในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์

ปัจจุบันอยู่ที่ราว $60 ล้าน แสดงให้เห็นศักยภาพของ Smog ในตลาดเหรียญมีมที่มีการแข่งขันสูง ซึ่งหลายคนเปรียบเทียบกับเหรียญชั้นนำอย่าง Dogecoin และ Shiba Inu

แพลตฟอร์มมีตัวเลือกการ staking ที่น่าสนใจ โดยให้ผลตอบแทนรายปีสูงถึง 42% อัตรา APY ที่สูงเช่นนี้ดึงดูดนักลงทุนจำนวนมากที่กำลังมองหาเหรียญ DeFi ที่ดีที่สุด ปัจจุบันมีการ stake เหรียญไปแล้วกว่า 10.4 ล้านเหรียญ ซึ่งแสดงถึงความมั่นใจของนักลงทุนอย่างสูง

แคมเปญ “Greatest SOL Airdrop” ของโปรเจกต์ก็ให้รางวัลแก่นักลงทุนรุ่นแรกอย่างคุ้มค่าเช่นกัน โดย airdrop นี้ดำเนินการผ่านแพลตฟอร์ม Zealy ซึ่งมีผู้เข้าร่วมกว่า 270,000 ครั้งจนถึงตอนนี้แสดงให้เห็นถึงแรงดึงดูดนักลงทุนอย่างมาก

Smog จัดสรรเหรียญ 490 ล้านเหรียญสำหรับรางวัล airdrop และอีกครึ่งหนึ่งของอุปทาน 1.4 พันล้านเหรียญทั้งหมดสำหรับการตลาด ทำให้ Smog มีศักยภาพในการเติบโตเชิงไวรัลและการยอมรับที่กว้างขวาง

นักลงทุนสามารถอ่าน whitepaper ของ Smog เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแพลตฟอร์ม นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถเข้าร่วมกลุ่ม Telegram ของ Smog และติดตามบน X (Twitter) เพื่อรับข่าวสารและพัฒนาการล่าสุด

7. eTukTuk (TUK) – เหรียญ DeFi สำหรับนักลงทุนที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม พร้อมให้บริการสถานีชาร์จ EV ในศรีลังกา

eTukTuk เป็นโปรเจกต์เหรียญ​ DeFi ที่มาพร้อมยูทิลิตี้มากมาย เปิดโอกาสให้คนขับรถตุ๊กตุ๊กสามารถสร้างรายได้เพิ่มเติมด้วย $TUK

และทำให้นักลงทุนในประเทศกำลังพัฒนาสามารถเข้าถึงโอกาสการลงทุนที่สามารถทำกำไรได้มหาศาล หลังจากเปิดตัว เหรียญก็ระดมทุนได้แล้ว 3 ล้านดอลลาร์และเสนอผลตอบแทนกว่า 105% ต่อปีในตอนนี้ 

eTukTuk จะเน้นไปที่การให้บริการสถานีชาร์จรถ EV เพื่อลดภาวะโลกร้อนและนำเสนอโอกาสการลงทุนแบบใหม่ให้กับคนขับรถตุ๊กตุ๊ก ซึ่งจะใช้ $TUK ในการชำระค่าบริการ พร้อมเสนอรถ EV ให้กับคนขับรถตุ๊กตุ๊กผ่านพันธมิตรในพื้นที่ ซึ่งจะได้รับส่วนแบ่งเป็นค่าคอมมิชชั่นที่เกิดขึ้นบนแพลตฟอร์ม

ตอนนี้ มีรถตุ๊กตุ๊กกว่า 270 คันที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) ซึ่งเป็นต้นตอของการทำให้เกิดภาวะโลกร้อยและเป็นปัญหาหลักๆ ที่ทำให้เกิดมลพิษทางอากาศ ถือเป็นเครื่องยนต์ที่กำลังล้าสมัยและทำให้คนขับไม่สามารถทำเงินได้ตามที่ต้องการ แต่ทางทีมงาน eTukTuk มองเห็นช่องว่างและตั้งใจจะเข้ามาแก้ปัญหาดังกล่าว ด้วยการให้บริการอุปกรณ์จ่ายยานพาหนะไฟฟ้าภายในพื้นที่

อุปกรณ์จ่ายยานพาหนะไฟฟ้าหรือ EVSE จะเปิดตัวในประเทศศรีลังกาก่อนเป็นประเทศแรก เพราะเป็นประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำทางการเงินสูงและเพื่อทำให้นักลงทุนรายย่อยได้มีทางเลือกในการลงทุนมากขึ้น โดยทาง eTukTuk จะร่วมมือกับพันธมิตรภายในพื้นที่เพื่อดูแลเรื่องการติดตั้งสถานีและการบำรุงรักษา

หลังจากที่สถานีชาร์จ EV เปิดให้บริการ คนขับรถตุ๊กตุ๊กก็จะสามารถใช้บริการได้โดยการชำระเงินด้วย $TUK ได้ทันที ซึ่งถือเป็นแนวทางการลงทุนอีกรูปแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

นอกจากนี้ eTukTuk ยังรองรับกลไก Staking ซึ่งเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถ Stake เหรียญเพื่อรับโหนดพลังงานที่จะใช้ในการแลกเปลี่ยนเป็นรายได้แบบพาสซีฟนั่นเอง โดยทางแพลตฟอร์มใช้งาน Binance Smart Cain ซึ่งประหยัดพลังงาน มีความยืดหยุ่น และสามารถขยายเครือข่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง

นักลงทุนที่สนใจสามารถอ่าน eTukTuk Whitepaper สำหรับข้อมูลแบบเจาะลึก และเข้าร่วมช่อง Telegram เพื่อมีส่วนร่วมภายในคอมมิวนิตี้ของโปรเจกต์

8. Chainlink – ผู้ให้บริการโซลูชัน Oracle ชั้นนำ

Chainlink (LINK) เป็นเหรียญดิจิทัล DeFi ที่ทุ่มเทเพื่อนำแหล่งข้อมูลนอกบล็อกเชนเข้ามาใช้ในบล็อกเชนโดยโปรเจกต์ web3 อื่นๆ เพื่อขยายการใช้งานโปรเจกต์คริปโตใหม่ๆอย่างมาก

Chainlink เป็นหนึ่งในโปรเจกต์แรกๆที่เสนอบริการดังกล่าว จึงถูกเลือกใช้โดยผู้เล่นสำคัญๆและกลายเป็นแพลตฟอร์มที่หลายโปรเจกต์คริปโต DeFi ชั้นนำเลือกใช้ เช่น Aave, Hedera และ Compound

เนื่องจากมีความต้องการบริการ Chainlink สูงมาก จึงไม่น่าแปลกใจที่ LINK ยังคงเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในตลาด แม้ในช่วงคริปโตตกต่ำเมื่อไม่นานมานี้

หลายคนมองว่า LINK เป็นหนึ่งในโปรเจกต์คริปโตที่ดีที่สุดสำหรับการลงทุนระยะยาว และราคาสินทรัพย์ก็แสดงความแข็งแกร่งสูงทุกครั้งที่ตลาดมีการปรับตัวขึ้นเล็กน้อย เราจึงจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่ามันจะทำผลงานอย่างไรเมื่อการวิ่งขึ้นของตลาดกระทิงรอบใหม่เริ่มต้นขึ้น

9. XRP – โปรเจกต์มุ่งกระจายศูนย์การแปลงสกุลเงิน

XRP เป็นสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนคริปโตตั้งแต่เปิดตัว ในฐานะเหรียญดิจิทัลเพื่อการชำระเงินที่รวดเร็ว ค่าธรรมเนียมต่ำ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นทางเลือกแทน Bitcoin โทเค็นนี้ถูกสร้างโดย David Schwartz และ Jeb McCaleb ผู้ก่อตั้ง Ripple Labs เพื่อหากรณีการใช้งานให้ XRP

ดังที่ได้กล่าวไป จุดดึงดูดหลักของ XRP คือประสิทธิภาพที่สูงมาก การทำธุรกรรมเสร็จสิ้นได้ภายในไม่กี่วินาทีและมีค่าธรรมเนียมเพียงเศษเซนต์ ทำให้มันเป็นหนึ่งในเครือข่ายที่เร็วและถูกที่สุดในตลาด นอกจากนี้ การเปิดตัว XRP Ledger (XRPL) ในปี 2021 ยังช่วยขยายการใช้งานของโปรเจกต์ โดยเปิดโอกาสให้โปรเจกต์อื่นสามารถสร้างบนเครือข่ายได้

จุดประสงค์หลักของ XRP คือใช้เป็นสกุลดิจิทัลสำหรับทำธุรกรรม โดยได้ร่วมมือกับบริการโอนเงินข้ามประเทศชั้นนำ เช่น Swift และ MoneyGram ส่งผลให้นักลงทุนจำนวนมากถือว่า XRP เป็นหนึ่งในโปรเจกต์คริปโตมาแรงอันดับแรกที่น่าลงทุนในปัจจุบัน

10. Tezos – คู่แข่งของ Ethereum ที่อัพเกรดได้ง่ายกว่า

Tezos (XTC) เป็นเหรียญ DeFi ที่คล้ายกับ Ethereum ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าและอัปเกรดได้ง่ายกว่า ตัวโปรเจกต์ถูกคิดค้นขึ้นในปี 2014 แต่เมนเน็ตของ Tezos เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2018

โปรเจกต์นี้ให้นักพัฒนาสร้างแอปพลิเคชันบนเครือข่าย Tezos ผ่าน Smart Contract Tezos ได้รับการยกย่องอย่างสม่ำเสมอว่าเป็นทางเลือกที่ดีกว่า Ethereum เนื่องจากเครือข่าย Tezos สามารถอัปเกรดได้อย่างง่ายดายโดยไม่มีดาวน์ไทม์ หมายความว่าทีมงานพัฒนาเครือข่ายมีเทคโนโลยีล่าสุดอยู่เสมอ

กับการรวมตัวของ Ethereum ความต้องการบล็อกเชนที่อัปเกรดได้ทันทีก็ยิ่งทวีความสำคัญขึ้น โดย Tezos มอบฟังก์ชันนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้นักคริปโตมากมายมองว่ามันเป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตที่ดีที่สุดน่าซื้อในปี 2024

11. Avalanche – บล็อคเชนเลเยอร์ 1 ที่มีประสิทธิภาพสูง

เช่นเดียวกับ Tezos, Avalanche (AVAX) ก็เป็นเหรียญคริปโตมาใหม่และบล็อคเชน layer-1 ใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูง โปรเจกต์นี้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในปี 2021 ในช่วงที่กระแสนิยม “Ethereum killer” กำลังแรง ทำให้เกมและโปรเจกต์ web3 P2E จำนวนมากย้ายมาใช้เครือข่าย Avalanche

แม้ความตื่นเต้นเกี่ยวกับโปรเจกต์จะลดลงในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แต่เทคโนโลยีของมันยังคงทรงพลัง หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ Avalanche ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วคือความสามารถในการประมวลผลที่สูงมาก

แทนที่จะจัดการธุรกรรมทุกประเภทเป็นอันเดียวกัน Avalanche ดำเนินการธุรกรรมบน 3 เชนที่แตกต่างกัน โดย C-Chain ใช้สำหรับธุรกรรมที่มาจากเหรียญ DeFi และโปรเจกต์เว็บ 3 ชั้นนำ, X-Chain ใช้สำหรับการส่งและรับ AVA และ P-Chain สำหรับผู้ตรวจสอบเครือข่าย

แม้ราคา AVAX จะลดลงมากจากจุดสูงสุดในปี 2021 แต่ตอนนี้ก็ยังซื้อขายที่ $17 แม้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนอาจสั่นคลอนบ้างหลังจากร่วงลงอย่างมาก แต่เมื่อตลาดกระทิงครั้งต่อไปเริ่มต้นขึ้น เราอาจได้เห็นผลตอบแทนที่น่าประทับใจจาก AVAX

12. Maker – DAO ที่อยู่เบื้องหลัง Stablecoin ชั้นนำ

Maker (MKR) เป็นโทเค็นกำกับดูแลที่นักลงทุนใช้เพื่อตัดสินใจใน Maker decentralized autonomous organization (DAO) ซึ่งควบคุม Stablecoin ยอดนิยม DAI โดยที่ DAI กำลังเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดขึ้นอย่างรวดเร็วหลัง UST  Stablecoin ที่ผูกกับดอลลาร์แบบอัลกอริทึมล้มลง ทำให้ MKR อาจเป็นเหรียญคริปโต DeFi ที่ดีที่สุดน่าซื้อในปีนี้

ตามที่ได้ออกแบบไว้  Stablecoin ไม่ค่อยมีพื้นที่สำหรับการเติบโต (เว้นแต่จะมีบางอย่างผิดพลาดอย่างร้ายแรง) ดังนั้น โทเค็น MKR จึงถูกใช้เพื่อสร้างมูลค่าให้กับนักลงทุนและแฟนๆของโปรเจกต์โดยทุกคนที่ถือ MKR สามารถลงคะแนนเสียงเกี่ยวกับพัฒนาการของ DAI และราคาของ MKR จะเชื่อมโยงกับความสำเร็จของ DAI ในทางทฤษฎีแล้วระบบนี้ควรทำให้มั่นใจได้ว่าจะมีแต่การตัดสินใจที่ดีที่สุดเกี่ยวกับอนาคตของ Stablecoin 

จากโปรเจกต์ DeFi ที่ดีที่สุดน่าลงทุนทั้งหมด Maker เหมาะที่สุดกับภาค DeFi ปัจจุบัน MKR มีราคาอยู่ที่ $665 ต่อโทเค็น ณ มกราคม 2023 เนื่องจากความจำเป็นของ Stablecoin ที่น่าเชื่อถือชัดเจนยิ่งกว่าที่เคย เราอาจได้เห็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่จากเหรียญคริปโต DeFi นี้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

13. Loopring – โซลูชันการปรับขนาด Ethereum Layer-2 ขั้นสูง

ในขณะที่มีความต้องการ Ethereum alternative สูง แต่ตอนนี้จุดสนใจได้เปลี่ยนไปที่โซลูชันการปรับขนาด Layer-2 อย่าง Loopring (LRC) แล้ว โปรเจกต์เหล่านี้ใช้ประโยชน์จากเครือข่าย Ethereum แต่มักจะดำเนินการธุรกรรมในลักษณะที่แตกต่างออกไป ซึ่งหมายความว่าโซลูชัน Layer-2 ได้รับประโยชน์จากความปลอดภัยของ Ethereum แต่ไม่ถูกจำกัดด้วยขีดความสามารถในการรองรับธุรกรรมที่ไม่ค่อยดีนัก

เพื่อให้บรรลุปริมาณธุรกรรมที่สูงกว่าเครือข่ายหลัก Loopring รวมธุรกรรมหลายรายการเข้าด้วยกันแบบออฟเชน ก่อนจะประมวลผลรวมกันบนเชนในภายหลัง วิธีนี้ช่วยให้โปรเจกต์ตรวจสอบธุรกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่า Ethereum มาก ลดค่าธรรมเนียมและความแออัดของเครือข่าย

ด้วยความร่วมมือกับ GameStop Loopring ได้รับการจับตามองเป็นพิเศษ แม้ยังไม่มีการเคลื่อนไหวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่ก็มีกระแสความตื่นเต้นในตัวโปรเจกต์มากมาย หมายความว่ามันอาจกลายเป็นหนึ่งในโปรเจกต์ DeFi ที่ดีที่สุดน่าลงทุนก่อนที่ตลาดจะฟื้นตัว

14. Uniswap – ตลาดกลางแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจและแพลตฟอร์ม DeFi

Uniswap (UNI) ก่อตั้งโดย Hayden Adams อดีตนักพัฒนาของ Ethereum ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังอยู่แล้ว Uniswap เป็นตลาดกลางแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจ (DEX) ที่เป็นแหล่งรวมโปรเจกต์ DeFi ที่ดีที่สุดน่าลงทุนในขณะนี้ ในช่วงที่ DeFi กำลังบูม แพลตฟอร์มนี้ได้รับความสนใจอย่างมากและกลายเป็นหนึ่งใน DEX ที่ใช้งานมากที่สุดในโลกอย่างรวดเร็ว

โทเค็น UNI ถูกสร้างขึ้นเป็นโทเค็นกำกับดูแล ช่วยให้แฟนๆของโปรเจกต์สามารถกำหนดอนาคตของมันได้ ในขณะที่ Uniswap (ควบคู่กับ PancakeSwap) ยังคงเป็นหนึ่งในโปรโตคอลการเทรดแบบกระจายศูนย์ที่ใหญ่ที่สุดในตลาดแสดงให้เห็นว่าโมเดลนี้ใช้ได้ผลจริง

แม้ Uniswap จะไม่ถือเป็นคริปโตมูลค่าต่ำ (low-cap) อีกต่อไปด้วยมูลค่าตลาดหลายพันล้านดอลลาร์ แต่โปรเจกต์นี้ยังคงเป็นที่ชื่นชอบของนักลงทุนที่เน้น DeFi ทั่วโลก ในขณะที่โปรเจกต์ DeFi ขนาดเล็กที่อยู่บน Uniswap ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภาวะตลาดขาลง แต่เมื่อโปรเจกต์เหล่านี้เริ่มได้รับความสนใจอีกครั้ง Uniswap ก็น่าจะมีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล

เหรียญ DeFi คืออะไร?

DeFi ย่อมาจาก Decentralized Finance หรือการเงินแบบกระจายศูนย์ หมายถึงแอปพลิเคชั่นทางการเงินที่ไม่ขึ้นกับส่วนกลางและเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถทำงานด้วยตนเองได้ ตัวอย่างเช่น บนแพลตฟอร์ม PancakeSwap ผู้ใช้ให้สภาพคล่องเพื่อรับดอกเบี้ย โดยแพลตฟอร์มจะใช้อัลกอริทึมเพื่อจับคู่ผู้ซื้อกับผู้ให้สภาพคล่อง

เนื่องจากคริปโตเคอร์เรนซีมุ่งเน้นไปที่การเงินและการกระจายศูนย์อย่างมาก จึงมีโปรเจกต์จำนวนมากที่ถือเป็นเหรียญ DeFi เราได้พูดถึงโปรเจกต์คริปโต DeFi ที่ดีที่สุดน่าจับตามองแล้ว และโปรเจกต์สำคัญอื่นๆ ได้แก่ Aave, The Graph และ Fantom

สรุปได้ว่า เหรียญคริปโตที่มุ่งเน้นด้านการเงินหรือการกระจายศูนย์สามารถถือเป็นเหรียญ DeFi ได้ เนื่องจากการกระจายศูนย์ต้องการให้ไม่มีหน่วยงานกลางคุมแอปพลิเคชัน เหรียญ DeFi จึงมักจะเป็นแบบอัตโนมัติอย่างมาก จึงไม่แปลกที่โปรเจกต์แบบ DAO จะมีอยู่มากมายในรายการของเรา

การลงทุนในเหรียญ DeFi คุ้มค่าไหม?

การเงินแบบกระจายศูนย์ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา จึงทำให้เหรียญ DeFi ที่ดีที่สุดอาจเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า อย่างไรก็ตาม เหมือนอุตสาหกรรมอื่นๆ จะมีโปรเจกต์บางส่วนที่ไม่ได้ผลตามที่คาดหวัง

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีโปรเจกต์ DeFi 2.0 ซึ่งเป็นคำรวมๆสำหรับยุคใหม่ของระบบนิเวศ DeFi สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากบทความของเราเกี่ยวกับโปรเจกต์ DeFi 2.0 ที่ดีที่สุด

กรณีการใช้งานที่หลากหลาย

ดังที่ได้กล่าวไว้แล้วอย่างคร่าวๆ เหรียญ DeFi สามารถรองรับภาคส่วนและกรณีการใช้งานที่หลากหลายมาก ด้วยความหลากหลายดังกล่าว อนาคตของ DeFi จึงมีความเป็นไปได้แทบไม่จำกัด และในขณะที่เทคโนโลยีบล็อกเชนก้าวหน้า โปรเจกต์ DeFi ก็จะพัฒนาตาม ทำให้การลงทุน DeFi ที่ดีที่สุดเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าถึงตลาดที่มีอนาคตไกล

อนาคตของการเงิน

การเงินแบบกระจายศูนย์ยังคงทำลายตลาดการเงินแบบดั้งเดิมอย่างต่อเนื่องและด้วยการยอมรับสกุลเงินดิจิทัลที่เพิ่มขึ้น แนวโน้มนี้ก็น่าจะยังคงดำเนินต่อไป แม้เราจะไม่อาจคาดเดาได้แน่นอนว่าเมื่อตลาด DeFi เติบโตเต็มที่แล้วจะเป็นอย่างไร แต่ก็มีไม่กี่ภาคธุรกิจที่จะแข่งขันกับ DeFi ได้ในแง่ของศักยภาพในอนาคต

ยึดมั่นในจริยธรรมของคริปโต

การกระจายศูนย์คือแก่นแท้ของจริยธรรมคริปโตเคอร์เรนซีซึ่งเชื่อว่าไม่ควรให้บุคคลหรือองค์กรใดมีอำนาจควบคุมทั้งหมด แนวคิดนี้มีความสำคัญสำหรับนักลงทุนคริปโตตัวยงหลายราย ดังนั้นโปรเจกต์ที่เคารพแนวคิดนี้ก็มักจะสร้างกระแสฮือฮาในวงการได้มากกว่า

โอกาสจากการลงทุนแต่แรก

ในขณะที่การเงินแบบดั้งเดิมมีมานานหลายศตวรรษแล้ว แต่การปฏิวัติ DeFi เพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น โดยตลาดคริปโตโดยรวมมีอายุเพียงกว่า 10 ปีและวงการ DeFi ก็มีอายุสั้นกว่านั้นอีก จึงเรียกได้ว่าแทบไม่มีเวลาให้อุตสาหกรรมเติบโตเลย ดังนั้นการลงทุนใน DeFi จึงช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงสิ่งที่อาจกลายเป็นระบบการเงินใหม่ในอนาคตได้ก่อนใคร

บทสรุป

การเงินแบบกระจายศูนย์เป็นหนึ่งในภาคส่วนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกคริปโตเคอร์เรนซีในขณะนี้ ตลอดบทความนี้ เราได้พิจารณาเหรียญ DeFi เหรียญไหนดีที่สุดบางส่วนที่มีให้เลือกลงทุน อธิบายถึงคุณค่าของ DeFi ในฐานะการลงทุน และรีวิวแพลตฟอร์ม DeFi ชั้นนำ

Dogeverse ($DOGEVERSE) เหรียญที่จะเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถซื้อเหรียญได้ผ่านกระดานเทรดชั้นนำมากมาย พร้อมรองรับเครือข่ายหลักๆ กว่าหกรายการ สร้างโอกาสการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และปลอดภัย พร้อมรองรับกลไก Staking เพื่อสร้างรายได้แบบพาสซีฟ

คำถามที่พบบ่อย

เหรียญคริปโต DeFi คืออะไร?

DeFi แปลว่า decentralized finance หรือการเงินแบบกระจายศูนย์ ดังนั้นจึงมีเหรียญคริปโตจำนวนมากที่จัดอยู่ในหมวดนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เหรียญ DeFi คือโทเค็นหลักของโปรโตคอล DeFi เช่น Maker (MKR) ที่ขับเคลื่อนแพลตฟอร์มให้กู้ยืมเงินแบบกระจายศูนย์อย่าง Maker ซึ่งเป็นวิธีที่ผู้คนจะได้รับประโยชน์จากการกู้ยืมโดยไม่ต้องพึ่งหน่วยงานส่วนกลางอย่างธนาคาร แต่บางคนก็นิยามคำนี้อย่างกว้างกว่านั้น

เหรียญ DeFi ใดน่าลงทุนที่สุด?

แต่ละโปรเจกต์ที่เราได้รีวิวล้วนมีโอกาสในการเติบโตขึ้นได้อีก โดยนักลงทุนหลายรายสามารถลงทุนในหลาย DeFi เป็นพอร์ตการลงทุนบนแพลตฟอร์มเทรดภายใต้การกำกับดูแล

การลงทุนในเหรียญ DeFi คุ้มค่าไหม?

สำคัญที่ต้องเข้าใจว่าแต่ละโปรเจกต์ไม่เหมือนกัน แต่เหรียญ DeFi ชั้นนำก็มักจะให้ผลตอบแทนที่ดีเยี่ยมแก่นักลงทุนรุ่นบุกเบิก ดังนั้นแม้จะจำเป็นต้องตรวจสอบอย่างรอบคอบ แต่เหรียญ DeFi ก็ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า

เหรียญ DeFi ที่ดีที่สุดมีอะไรบ้าง?

โปรเจกต์ DeFi ที่ดีที่สุดจะแตกต่างกันไปมากตามเป้าหมายการลงทุนของแต่ละคน โปรเจกต์ DeFi ส่วนใหญ่มีความเชี่ยวชาญในด้านที่แตกต่างกัน ดังนั้นสิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาว่าผู้ลงทุนกำลังมองหาอะไรอยู่ก่อนตัดสินใจลงทุน เหรียญ DeFi อันดับ 1 ที่ดีที่สุดที่เราได้รีวิวคือ Dogeverse ซึ่งให้ผลตอบแทนต่อปีกว่า 600,000% หากซื้อตั้งแต่เนิ่นๆ