Altcoin คืออะไร? 7 ประเภทอัลท์คอยน์ พร้อมตัวอย่าง  แนะนำ!   

ภาคภูมิ เกิดปราบ
| 17 min read

Altcoin คือเหรียญคริปโตเกือบทุกสกุลในปัจจุบันคือ Altcoin หรือเหรียญทางเลือก แต่ Altcoin คือ? นี่เป็นเหรียญคริปโตทุกสกุลที่ไม่ใช่บิทคอยน์

อย่างไรก็ตาม หลายคนมองว่า Altcoin ทุกสกุล นอกเหนือจากสองเหรียญหลักอย่าง Bitcoin และ Ethereum ซึ่งรวมกันแล้วคิดเป็นมูลค่าตลาดคริปโตที่มากกว่า 70% โดย Altcoin ครอบคลุมเหรียญคริปโตสกุลอื่นๆ หลายพันสกุล ซึ่งหลายๆ สกุลก็ได้ไม่มีความคลุมเครือเท่ากับที่หลายคนมอง Altcoin

ในขณะที่เขียนบทความนี้ Solana ซึ่งเป็น Altcoin ชั้นนำ มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 58 พันล้านดอลลาร์ Ripple (XPR) เป็นอีกหนึ่งเหรียญคริปโตทางเลือกที่มีชุมชนที่คึกคัก โดยมีมูลค่าตลาดรวมเกือบ 36 พันล้านดอลลาร์ แต่ละเหรียญได้สร้างเศรษฐี Altcoinไป มากมายตลอดช่วงฤดูกาล Altcoin

ในคู่มือนี้ เราจะพูดถึง Altcoin เจ็ดประเภทและเหรียญเหล่านี้สามารถเข้ามาอยู่ในตลาดคริปโตที่กำลังเติบโตได้อย่างไร ก่อนอื่น เราจะมาอธิบายว่า​Altcoin เกิดขึ้นได้อย่างไร พร้อมตัวอย่างเหรียญสกุลแรกๆ บางส่วน

อธิบาย Altcoin: เหรียญทางเลือกแทนบิทคอยน์


ในช่วงแรก บิทคอยน์ถือเป็นเหรียญคริปโตสกุลแรกในตลาด ตามคำจำกัดความที่รู้กันดี เหรียญคริปโตสกุลอื่นๆ ทั้งหมดก็คือ Altcoin ซึ่งรวมถึง Ethereum ซึ่งเป็นเหรียญคริปโตที่มีมูลค่าตลาดเป็นอันดับสอง โดยปกติจะใช้เป็นทางเลือกแทนบิทคอยน์และสกุลเงินทั่วไป (Fiat)

Altcoin ชั้นนำในวันนี้ ได้แก่:

  • Ethereum (ETH): Ethereum ได้นำการสนับสนุนที่ถูกพัฒนาสำหรับสัญญาอัจฉริยะ ซึ่งเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ทำงานบน Blockchain
  • Tether (USDT): โทเค็น Tether ตรึงกับมูลค่าของดอลลาร์ และยังคงเป็นหนึ่งในเหรียญ Stablecoin ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
  • BNB (BNB): เปิดตัวโดย Binance ซึ่งเป็นกระดานเทรดคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในโลก BNB เป็นโทเค็นสำหรับ BNB Smart Chain (BSC)
  • Solana (SOL): เครือข่าย Solana ขึ้นชื่อในด้านความเร็ว โดยมีธุรกรรมสูงถึง 65,000 รายการต่อวินาที และใช้เพื่อขับเคลื่อนเครือข่าย
  • Ripple (XRP): เหรียญ XRP เป็นเหรียญคริปโตหลักของเครือข่าย Ripple
  • USDC (USDC): US Dollar Coin ตรึงกับมูลค่าของเงินดอลลาร์ เช่นเดียวกับ USDT
  • Cardano (ADA): เครือข่าย Cardano ใช้ ADA เป็นโทเค็นหลักที่มาพร้อมกับผู้ติดตามที่ภักดี
  • Dogecoin (DOGE): Dogecoin ใช้ธีมสุนัขที่เริ่มต้นมาจากมีมเมื่อปี 2013 และยังคงได้รับความนิยมจนถึงปัจจุบัน

ประวัติโดยย่อ: ต้นกำเนิดของ Altcoin คืออะไร?


บิทคอยน์เปิดตัวในเดือนมกราคมปี 2009 แม้ว่าแนวโน้มระยะยาวของเหรียญจะยังไม่เป็นที่รับรู้ในวงกว้างก็ตาม ส่วนโปรเจกต์ก่อนบิทคอยน์ ได้แก่ eCash, B-money, Bit Gold, และ Hashcash ซึ่งทั้งหมดนี้มีอิทธิพลต่อการสร้างบิทคอยน์ และทำให้เครือข่ายบิทคอยน์มีพัฒนาการได้เหมือนกับที่ปฏิวัติตลาด แต่กลับไม่มีโปรเจกต์ใดที่ประสบความสำเร็จเลย

อีกหลายปีถัดมา ตลาดก็มี Alternative Coin ​ที่เด่นๆ หลายสกุล ซึ่งหลายสกุลยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน และหลายโปรเจกต์ยังปูทางสำหรับโปรเจกต์ในอนาคตด้วย

มาเจาะลึกตัวอย่างที่สำคัญที่สุดของ Altcoin สกุลแรกๆ กันบ้าง

  • Namecoin (2011): Namecoin Blockchain คือ Fork แรกที่แยกมาจาก Bitcoin และมุ่งเน้นไปที่การต่อต้านการเซ็นเซอร์โดยการบริการ DNS แบบกระจายอำนาจ
  • Litecoin (2011): นอกจากที่ Litecoin จะถูกพัฒนามาเป็น Fork ของโค้ดบิทคอยน์ แต่เหรีญญก็มีเป้าหมายเพื่อจัดการกับข้อกังวลด้านความเร็วและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับบิทคอยน์
  • Peercoin (2012): Peercoin Blockchain เป็นเหรียญแรกที่ใช้ Proof of Stake (PoS) เป็นกลไกฉันทามติ ต่อมา Ethereum ก็ได้นำ PoS มาใช้เป็นวิธีการตรวจสอบธุรกรรมในปี 2022 หลังจากใช้ Proof of Work (PoW)
  • Ripple (2012): XRP ซึ่งเป็นเหรียญคริปโตหลักของเครือข่าย Ripple ถูกใช้เพื่อชำระการชำระเงินข้ามประเทศ
  • Dogecoin (2013): เหรียญมีม DOGE ที่ยังได้รับความนิยมเป็นการอัพเกรด Fork มาจาก Luckycoin ซึ่งถูกแยกเป็น Litecoin
  • Tether (2014): แม้ว่าจะไม่ใช่ Stablecoin สกุลแรก แต่ Tether ก็เป็นเหรียญ Stablecoin ที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังอยู่ในตลาด
  • Ethereum (2015): การเปิดตัว Ethereum Blockchain ได้จุดความนิยมให้อุตสาหกรรม DeFi โดยใช้สัญญาอัจฉริยะ
  • Cardano (2017): ถูกสร้างโดยผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum เชนe Cardano ยังรองรับสัญญาอัจฉริยะและใช้ ADA เป็นเหรียญคริปโตหลัก
  • Solana (2020): Solana Blockchain ใช้ SOL เป็นเหรียญคริปโตหลักบนเครือข่ายที่รวดเร็ว

หลายปีหลังจากบิทคอยน์เปิดตัว ก็ได้มีโทเค็นเปิดตัวจำนวนมาก (โทเค็นคือสินทรัพย์คริปโตที่อยู่บน Blockchain)

โดย Augur เป็นเหรียญระดมทุน ICO สกุลแรก ที่เปิดตัวบน Ethereum Blockchain ในปี 2015 หลังจากนั้นไม่นาน เครือข่าย Ethereum ก็ได้เปิดตัว โดยเราจะพูดถึงโทเค็นสำคัญๆ ในอีกไม่ช้า

สกุลเงินดิจิทัลมีกี่ประเภท อะไรบ้าง?


เพื่อตอบว่า “Altcoin คือ?” อาจจะตอบได้ยากกว่าตอบว่า Altcoin คือเหรียญทุกสกุลที่ไม่ใช่บิทคอยน์ แต่ Altcoin ก็สามารถถูกในจัดกลุ่มเพิ่มตามแต่วัตถุประสงค์การใช้งาน, เทคโนโลยี Blockchain, หรือสถานะทางการตลาด

ตัวอย่างเช่น Altcoin อย่าง ETH และ SOL ใช้เพื่อขับเคลื่อนแพลตฟอร์มสัญญาอัจฉริยะ กลับกัน Monero (XMR) และ Dash (DASH) ทำหน้าที่เหมือนบิทคอยน์มากกว่า โดยให้บริการเครือข่ายเพื่อการชำระเงินที่เพิ่มฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวเข้าไปด้วย

ด้านล่างนี้ เราได้จัดประเภทเหรียญ Altcoin สำคัญๆ เอาไว้ แต่ด้วยเหรียญคริปโตที่มีมากกว่า 9,000 สกุลในตลาด ก็มี ​Altcoin อีกหลายสกุลที่ถูกจัดเหมาะกับหลายประเภท

แพลตฟอร์มสัญญาอัจฉริยะ

Blockchain บางแบบทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มสัญญาอัจฉริยะ ซึ่งเป็นเครือข่าย Blockchain ที่สามารถรันโปรแกรมที่มีเงื่อนไขการใช้งาน สัญญาอัจฉริยะเป็นหัวใจสำคัญของการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi), Decentralized Exchange, และแม้แต่การเล่นเกมบน Web 3.0

แต่ละแพลตฟอร์มใช้งานเหรียญคริปโตเพื่อใช้ทำธุรกรรมบน Blockchain ตามพลังการคำนวณที่จำเป็นสำหรับการทำธุรกรรมแต่ละครั้ง

แพลตฟอร์มสัญญาอัจฉริยะที่ใช้มากที่สุด มีดังต่อไปนี้

  • Ethereum
  • BSC
  • Solana
  • Cardano
  • Avalanche
  • Polkadot
  • Tron

Stablecoin (เหรียญที่มีมูลค่าคงที่)

Stablecoin จะตรึงกับมูลค่าของสินทรัพย์อื่นๆ โดยส่วนใหญ่ สินทรัพย์เหล่านี้เป็นสกุลเงินทั่วไป เช่น ดอลลาร์ โดย Stablecoin จะทำหน้าที่สำคัญในตลาดคริปโต เนื่องจากมูลค่าของเหรียญเหล่านี้จะไม่ผันผวนเมื่อเทียบสกุลเงินทั่วไปที่ตรึง (Peg) ไว้ ความเสถียรลักษณะนี้เปิดโอกาสให้ทำธุรกรรมได้ง่าย พร้อมมอบที่หลบภัยสำหรับนักลงทุนคริปโตในระหว่างการเทรด

Tether (USDT) เป็น Stablecoin ที่มีมูลค่าตลาดมากที่สุด ตามมาด้วย US Dollar Coin และ USDC โทเค็นทั้งสองได้รับการสนับสนุนจากเงินสดหรือรายการเทียบเท่าเงินสด เช่น Tether สนับสนุนโทเค็น USDT ด้วยเงินสด พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และสินทรัพย์อื่นๆ ส่วน USD Coin มีบริษัท Circle อยู่เบื้องหลังที่เก็บเงินสำรองไว้กับ Blackrock

ผู้ออกเหรียญ Stablecoin ทั้งสองรายยังเสนอเหรียญ Stablecoin สำหรับสกุลเงินหลักอื่นๆ ด้วยเช่นกัน ตัวอย่างเช่น Tether เสนอ EURT ซึ่งตรึงกับเงินยูโร เช่นเดียวกับ EURC ของ Circle

เหรียญ Stablecoin อีกหนึ่งประเภทเรียกว่า Algorithmic Stablecoin (เหรียญที่มีมูลค่าคงที่แบบอัลกอริทึม) ซึ่งใช้สัญญาอัจฉริยะเพื่อคงการตรึงมูลค่า ตัวอย่างเช่น DAI Stablecoin ซึ่งถูกยืมมาผ่านสัญญาอัจฉริยะโดยใช้ ETH, USDC, และเหรียญคริปโตที่ถูกอนุมัติให้เป็นหลักประกัน

Privacy Coin (เหรียญเพื่อความเป็นส่วนตัว)

Blockchain สาธารณะส่วนใหญ่เช่น Bitcoin และ Ethereum ไม่มีความลับ โดยเครือข่ายคริปโตจะใช้ที่อยู่กระเป๋าเงินเป็นตัวตน อย่างไรก็ตาม ซึ่งในหลายกรณี เป็นไปได้ที่ผู้อื่นจะเชื่อมต่อที่อยู่กระเป๋าเงินของคุณกับข้อมูลระบุตัวตนในโลกจริง ซึ่งอาจสร้างข้อกังวลด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยได้

ด้วยธุรกรรมทั้งหมดที่สามารถดูได้บน Blockchain Explorer ตลาดสำหรับ Privacy Coin จึงกว้างขึ้น ซึ่งเหรียญเหล่านี้ก็คือ Monero (XMR) ที่เปิดตัวในปี 2014 ซึ่งครองตำแหน่งสูงสุด

กลยุทธ์เบื้องหลัง Privacy Coin จะแตกต่างกันไป แต่มักจะข้องเกี่ยวกับการปิดบังจำนวนเงินธุรกรรมหรือที่อยู่ของธุรกรรม ในตัวอย่างด้านล่าง จำนวนเงินของธุรกรรมจะปกปิดโดยผู้ร่วมธุรกรรมที่สามารถดูรายละเอียดในส่วนของตนได้ใน ​Crypto WalletPrivacy Coin​ ยอดนิยมบางส่วน ได้แก่

  • Monero (XMR)
  • Zcash (ZEC)
  • Dash (DASH)
  • Oasis Network (ROSE)
  • Decred (DCR)

ในปี 2020 กรมสรรพากรได้เผยแพร่เอกสารสอบถามและชี้แจง (RFI) ที่ส่งเสริมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถช่วยเหลือพวกเขาในการติดตามธุรกรรมสำหรับ Monero, Dash, และเหรียญคริปโตที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย, เชน, และเชนรองอื่นๆ

Gaming Coin (เหรียญเกม)

เกม Web 3.0 ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยมีเหรียญเกมเป็นศูนย์กลางของความตื่นเต้น แล้ว Altcoin สำหรับเล่นเกมคืออะไร? โดยทั่วไปแล้ว Altcoin สำหรับการเล่นเกมจะแบ่งออกเป็นสองประเภทด้วยกัน

โทเค็น เช่น SAND ซึ่งถูกใช้โดย The Sandbox ทำหน้าที่เป็นสกุลเงินภายในเกมที่ใช้ซื้อสินทรัพย์ภายในเกม เช่น NFT หรือการทำธุรกรรมกับผู้เล่นอื่น ส่วนเหรียญอื่นๆ บน Blockchain ถูกใช้โดยเกมบน Web 3.0ตัวอย่างเช่น ปัจจุบันโทเค็น Immutable X (IMX) มีมูลค่าตลาดมากกว่า 4.3 พันล้านดอลลาร์Immutable X (IMX)เหรียญเกมยอดนิยมที่ควรพิจารณา มีดังต่อไปนี้

  • Immutable X (IMX)
  • Multiverse X (EGLD)
  • Beam (BEAM)
  • The Sandbox (SAND)
  • Axie Infinity (AXS)
  • Gala (GALA)
  • Decentraland (MANA)

ในหลายกรณี เหรียญเกมยังทำหน้าที่เป็นทั้งโทเค็นที่ใช้เพื่อกำกับดูแล ที่เปิดโอกาสให้ผู้ถือโทเค็นสามารถโหวตข้อเสนอพัฒนาสำหรับโปรโตคอลหรือเชนได้

Utility Token (เหรียญยูทิลิตี้)

Utility Token ครอบคลุมถึงแอพพลิเคชันมากมาย แต่จะมีวัตถุประสงค์ที่ต่างกันไปภายในโปรโตคอลหรือ Blockchain นั้นๆ เช่น ETH เป็น Utility Token ที่ใช้ในการจ่ายค่าพลังการประมวลผลที่ใช้โดยธุรกรรมบน Ethereum Blockchain ในระดับที่เล็กลง

Basic Attention Token (BAT) ใช้เพื่อให้คำแนะนำแก่ผู้สร้าง ผู้โพสต์ หรือผู้แสดงความคิดเห็นผ่านเบราว์เซอร์ Brave

ตัวอย่างอื่นๆ ของ Utility Token  ได้แก่ Uniswap (UNI) และ Abitrum (ARB) ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ทำหน้าที่เป็นโทเค็นที่ใช้เพื่อกำกับดูแลที่เปิดโอกาสให้ผู้ถือสามารถโหวตข้อเสนอได้

โดยข้อเสนอล่าสุดทำให้ผู้ถือโทเค็น UNI ได้รับการแบ่งรายได้จาก Decentralized Exchange อย่าง Uniswap ส่งผลให้มูลค่าค่าโทเค็น UNI เพิ่มขึ้น 50% ภายใน 24 ชั่วโมง

Utility Token ชั้นนำหลายสกุล ได้แก่

  • Fantom (FTM): โทเค็นหลักสำหรับเครือข่าย Fantom Blockchain
  • Polygon (MATIC): ถูกใช้เพื่อควบคุมเครือข่าย Polgon และชำระค่าธรรมเนียมบนเครือข่าย
  • Aave (AAVE): ถูกใช้ในการกำกับดูแลและ Staking เพื่อเปิดให้กองทุนประกันสำหรับโปรโตคอล Aave
  • Radiant (RDNT): ให้การกำกับดูแลและการเข้าถึงโปรโตคอลรายได้
  • Injective (INJ): ขับเคลื่อนเครือข่าย Injective Blockchain ที่เน้นไปที่ด้านการเงิน

DeFi Token (เหรียญสำหรับการเงินแบบกระจายอำนาจ)

DeFi Token คือโทเค็นที่ใช้ในแอพพลิเคชันทางการเงินแบบกระจายอำนาจ ตั้งแต่โปรโตคอลปล่อยและกู้สินเชื่อและการยืมและการแลกเปลี่ยน ไปจนถึง Decentralized Exchange

อย่างไรก็ตาม คุณจะพบว่ามีการทับซ้อนระหว่าง Utility Token เช่นกัน โดยความแตกต่างก็คือโทเค็น DeFi มุ่งเน้นไปที่ยูทิลิตี้ที่มีความเฉพาะ (DeFi) และยังครอบคลุมกรณีการใช้งานที่หลากหลาย รวมถึงเหรียญ Staking, เหรียญที่ใช้เพื่อกำกับดูแล, และ Utility Token

ตัวอย่างเช่น Lido Staked Ether (STETH) ซึ่งเป็นโทเค็น DeFi ที่เพิ่งเข้ามาอยู่ในเหรียญคริปโตสิบอันดับแรก โดยโปรโตคอล Lido ใช้สัญญาอัจฉริยะเพื่อแลกเปลี่ยน ETH ที่ถูกนำไป Stake (ซึ่งจะต้องไม่มีการถอนเหรียญ Stake เพื่อนำไปใช้หรือขาย)

สำหรับโทเค็นเพื่อสภาพคล่องที่สามารถขาย ใช้ หรือเป็นหลักประกันได้

LINK ซึ่งเป็นโทเค็นสำหรับ Chainlink ได้เสนอหนึ่งตัวอย่าง โดย Chainlink ให้บริการโปรโตคอล DeFi ด้วยข้อมูลจากตลาดในโลกจริง เช่น ราคาปัจจุบัน ส่วนโปรโตคอล DeFi เช่น Aave จะพึ่งพาข้อมูลดังกล่าวเพื่อใช้งานในสัญญาอัจฉริยะChainlinkในกรณีของ Aave ข้อมูลการกำหนดราคาเปิดโอกาสให้โปรโตคอล Aave สามารถจัดการอัตราส่วนการให้สินเชื่อ (LTV) สำหรับสินเชื่อที่ได้รับการสนับสนุนจากการเหรียญคริปโตได้

Meme Coin (เหรียญมีม)

เหรียญมีมเป็นเหรียญที่ถูกสร้างมาเพื่อความตลกของโลกคริปโต — สนุกและเป็นที่นิยม แต่ก็ไม่ใช่การลงทุนระยะยาวที่ดีที่สุดเสมอไป ส่วนใหญ่เหรียญจะมีธีมของตน เช่น แฟนด้อม Shiba Inu ของ Dogecoin หรือ PEPE สุดชิลล์ที่ตั้งชื่อตาม Pepe the Frog โทเค็น BONK บน Solana แล Shiba Inu ก็เป็นตัวอย่างเพิ่มเติมของเหรียญมีมในธีมสุนัข

แต่การไม่ทำตามแนวทางเหรียญ Altcoin ทั่วไปของเหรียญมีมไม่ได้หมายความว่าเหรียญและโทเค็นเหล่านี้ไม่สามารถเติบโตได้ในระยะยาวหรือไม่สามารถให้ผลตอบแทนที่จริงจังได้ เพราะ Dogecoin ก็ได้สร้างเศรษฐีมาแล้วหลายคน

dogecoin

Shiba Inu ซึ่งเป็นโทเค็นที่ได้รับแรงบันดาลใจจากมาสคอต Dogecoin ที่เริ่มต้นมาจากเหรียญราคาไม่ถึงบาท มาเป็นเหรียญที่ใช้ในการสร้าง Shibarium Blockchain ที่มาพร้อมโทเค็นของตัวเอง แม้ว่า SHIB จะยังคงมีราคาไม่ถึงบาทก็ตาม

การเคลื่อนไหวของราคาเหรียญมีมสามารถทำกำไรได้สูง ระหว่างเขียนบทความ ผู้ถือ SHIB ได้ทำกำไรมาจากราคาที่เพิ่มขึ้น 221% ในช่วงเจ็ดวันที่ผ่านมา เนื่องจากมูลค่าของ SHIB แต่ละเหรียญพุ่งขึ้นจาก 0.0000159 เป็น 0.000034 ดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาอาจมีความสำคัญกว่ามากสำหรับเหรียญมีม และเพื่อใช้ SHIB เป็นตัวอย่างอีกครั้ง หลังจากแตะระดับ All Time High ที่ 0.00008616 ดอลลาร์ ในปี 2022 ราคา SHIB ก็ร่วงลงต่ำสุดที่ 0.000006754 ในปี 2023 ดอลลาร์ โดยสูญเสียมูลค่าไป 80%

Altcoins ที่ใหญ่ที่สุดคืออะไร?


หากคุณกำลังพิจารณาที่จะลงทุนในอัลท์คอยน์เหรียญคริปโตทางเลือกที่มีมูลค่าตลาดมากที่สุดก็อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี สินทรัพย์คริปโตเหล่านี้มีฐานการซื้อขายทั่วโลก

เปิดโอกาสให้คุณสามารถเทรดได้ตามต้องการ และหลายๆ เหรียญก็ได้แตะมูลค่าตลาดหลักพันล้านด้วยการเสนอกรณีการใช้งานที่มั่นคงนั่นเอง

  • Ethereum (ETH)
  • BNB (BNB)
  • Solana (SOL)
  • Ripple (XRP)
  • Lido (STETH)
  • Cardano (ADA)
  • Dogecoin (DOGE)
  • Shiba Inu (SHIB)
  • Avalanche (AVAX)
  • Polkadot (DOT)
  • Tron (TRX)

เป็น Alternative Coin ที่ดีที่สุดที่ถูกพิสูจน์แล้วว่ามีสถิติมูลค่าราคาที่ดีและมีสภาพคล่องที่ยอดเยี่ยม แต่ก็อาจมีโอกาสน้อยที่เหรียญจะสามารถเติบโตได้ในระดับเดียวกับครั้งก่อน ​เช่นเดียวกับบิทคอยน์ที่ราคาเริ่มเติบโตช้าลง

คุณควรลงทุนในอัลท์คอยน์หรือไม่?


ราคาบิทคอยน์อาจยังคงเพิ่มขึ้นต่อไป ทว่า การเลือกลงทุนใน Alternative Coin ก็อาจให้ผลตอบแทนได้มากกว่าเมื่อเวลาผ่านไป Altcoin ยังเสนอแนวทางการกระจายความเสี่ยงและอาจทำกำไรได้ในหลายๆ Time Frame

เหรียญดังกล่าวยังมักจะมีการเคลื่อนไหวของราคาในเวลาที่แตกต่างจากบิทคอยน์ ทำให้เกิดคำว่า Altcoin Season ขึ้นมา ซึ่งหมายถึงเมื่อ Altcoin ชั้นนำมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Bitcoin โดยมีเปอร์เซ็นต์การทำกำไรที่เพิ่มขึ้น

การกระจายความเสี่ยงในพอร์ต

เนื่องจากราคา Altcoin อาจพุ่งขึ้นสูงในเวลาที่แตกต่างจากบิทคอยน์ การแบ่งส่วนหนึ่งของพอร์ตให้กับ Altcoin ก็อาจช่วยให้พอร์ตการลงทุนของคุณเติบโตได้บ่อยขึ้น

นอกจากนี้ ข่าวต่างๆ อาจส่งผลต่อราคาเหรียญคริปโตได้ในเวลาที่ต่างกันไป ตัวอย่างเช่น UNI ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 50% ภายใน 24 ที่ทำให้มีประสิทธิภาพเหนือกว่า Bitcoin และเหรียญคริปโตส่วนใหญ่

มีโอกาสเติบโตสูง

Bitcoin ถูกคาดการณ์ว่าจะสามารถทำกำไรได้ต่อไป แม้ว่าผลตอบแทนในอนาคตอาจไม่เท่ากับช่วงแรกๆ ที่ราคา Bitcoin เพิ่มขึ้นจากไม่กี่ดอลลาร์เป็นมากกว่า 1,000 ดอลลาร์

และต่อมาแตะเกือบ 70,000 ดอลลาร์ ส่วน Altcoin ที่มีขนาดเล็กกว่าแต่มีโอกาสเติบโตก็อาจเป็นโอกาสในการทำเงิน หากคุณเลือกซื้อเหรียญได้ดี

กรณีการใช้งานเพิ่มเติม

เหรียญคริปโตบางสกุลสามารถช่วยแก้ปัญหาได้ ตัวอย่างเช่น Ethereum ที่เปิดโอกาสให้แอพพลิเคชันการเงินแบบกระจายอำนาจเจริญรุ่งเรือง อย่างไรก็ตาม Ethereum กลับทำธุรกรรมได้ช้ากว่าและมีราคาสูงกว่า ​Blockchain หลายๆ ตัว ซึ่งสร้างโอกาสให้กับเครือข่ายอย่าง Solana

เช่นเดียวกันกับ Bitcoin ซึ่งมีเวลาบล็อก 10 นาทีที่ถือว่าช้าและมีค่าใช้จ่ายสูงอย่างเห็นได้ชัด สิ่งนี้อาจทำให้มีที่ว่างสำหรับเครือข่ายแบบเพียร์ทูเพียร์ที่รวดเร็วและมีราคาไม่แพงอย่าง Kaspa ที่จะได้เจอช่องทางการตลาดสำหรับแอพพลิเคชันชำระเงินที่มีขนาดเล็กกว่านั่นเอง

บทสรุป


Altcoin มีโอกาสเติบโตที่ Bitcoin อาจไม่สามารถทำได้ และเป็นวิธีในกระจายความเสี่ยงในการลงทุนในเหรียญคริปโต อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องศึกษากรณีการใช้งาน

รวมถึงอัตราการนำเหรียญไปใช้จริงและปัญหาที่อาจเกิดขึ้นก่อนตัดสินใจลงทุนระยะยาวความผันผวนของราคาสำหรับ Altcoin ยังสร้างโอกาสในการเทรด โดยเฉพาะกับเหรียญมีม ซึ่งสามารถเคลื่อนไหวได้ 20% หรือมากกว่านั้นในระหว่างการเทรด

คำถามที่พบบ่อย

Altcoin คืออะไร?

Altcoin คือเหรียญคริปโตทุกสกุลนอกจากบิทคอยน์

5 อันดับ Altcoin คืออะไรบ้าง?

5 อันดับ Altcoin คือ Ethereum (ETH), BNB, Solana (SOL), Ripple (XRP) และ Cardano (ADA) ตามมูลค่าตลาด แม้รายการดังกล่าวไม่มี Stablecoins ที่ตรึงกับมูลค่าของสกุลเงินอื่น เช่น ดอลลาร์ แต่เหรียญ Stablecoin ชั้นนำ ได้แก่ Tether (USDT) และ US Dollar Coin (USDC)

Solana คือ Altcoin หรือไม่?

Solana คือ Altcoin เนื่องจากเหรียญคริปโตทั้งหมดที่ไม่ใช่ Bitcoin ถือเป็น Altcoin

Ethereum คือ Altcoin หรือไม่?

Ethereum คือ Altcoin เนื่องจากเหรียญคริปโตทั้งหมดที่ไม่ใช่ Bitcoin ถือเป็น Altcoin

ประโยชน์ของ Altcoin คืออะไร?

เคยถามตัวเองว่า ‘Altcoin ใช้ทำอะไรหรือไม่?’ กรณีการใช้งานของ Altcoin นั้นมีตั้งแต่ Utility Token ที่ทำหน้าที่เฉพาะบน Blockchain หรือโปรโตคอล ไปจนถึงเหรียญมีม ซึ่งเหรียญหลายสกุลถูกสร้างขึ้นเพื่อความสนุกสนานเท่านั้น ส่วนใหญ่ Altcoin อาจให้ผลตอบแทนได้สูงกว่าบิทคอยน์ แต่ก็อาจมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน

ความแตกต่างระหว่าง Bitcoin และ Altcoin คืออะไร?

Bitcoin เป็นเหรียญคริปโตสกุลแรกที่มีกรณีการใช้งานที่เป็นประโยชน์ ส่วนเหรียญคริปโตสกุลอื่นๆ เช่น Ethereum, Bitcoin Cash, หรือ Solana ถือเป็นเหรียญคริปโตทางเลือก Bitcoin

อ้างอิง