12 เหรียญ Proof of Stake ที่ดีที่สุดสำหรับการลงทุนในปี 2024

Proof of Stake (PoS) คือกลไกฉันทามติบนบล็อกเชนที่ช่วยให้คริปโตเคอเรนซีสามารถยืนยันธุรกรรมได้ เป็นทางเลือกที่ยั่งยืนและประหยัดพลังงานมากกว่ากลไก Proof of Work (PoW) ทำให้บล็อกเชน Proof of stake ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

บทความนี้จะรีวิวเหรียญ Proof of Stake ที่ดีที่สุดสำหรับการลงทุนในปีนี้

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหรียญ Proof of Stake ชั้นนำที่ควรซื้อ

ต่อไปนี้เป็นการวิเคราะห์อย่างละเอียดของ 11 เหรียญ PoS อันดับต้นๆ ที่น่าสนใจในปีนี้ อ่านต่อเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับคุณสมบัติ เศรษฐศาสตร์โทเค็น และการเติบโตของราคาสำหรับเหรียญ Proof of Stake ที่กำลังมาแรงในปี 2024

1. Dogeverse – เหรียญมีม PoS แบบ Multi-Chain ที่ให้ผลตอบแทนประจำปีสูงถึง 15,000%

Dogeverse ($DOGEVERSE) เป็นเหรียญ Proof of Stake ที่ดีที่สุดสำหรับลงทุนในปี 2024 ในขณะที่เหรียญในธีม Doge มักจะมีประโยชน์การใช้งานจำกัด แต่ $DOGEVERSE ให้ผลตอบแทนจากการ Stake ที่สูงและรองรับหลายบล็อกเชน

จากอุปทานรวม 200 พันล้านโทเค็น จะจัดสรร 20 พันล้านโทเค็นให้แก่ผู้ถือ $DOGEVERSE ที่ทำการ Stake เป็นผลตอบแทน ณ เวลาที่เขียน การ Stake โทเค็นนี้สามารถทำให้ได้ APY (Annual Percentage Yields) มากกว่า 15,000%

ในเวลาไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ผู้ใช้บน Dogeverse ได้ทำการ Stake ไปแล้วมากกว่า 104 ล้านโทเค็น หากต้องการร่วมลงทุนใน PoS นี้ คุณสามารถซื้อโทเค็นผ่านการพรีเซลที่กำลังจัดขึ้น ปัจจุบัน $DOGEVERSE มีราคา 0.00029 ดอลลาร์ต่อโทเค็น และจะขาย 30 พันล้านโทเค็นผ่านการพรีเซล

นักลงทุนรายแรกๆ จะได้ประโยชน์จากผลตอบแทนที่สูงเนื่องจาก APY จะลดลงเมื่อมีการ Stake มากขึ้น เหรียญนวัตกรรมนี้รองรับการทำงานแบบ Multi-chain เพราะใช้ได้บน Ethereum, Binance, Polygon, Solana, Avalanche และ Base

ดังนั้นผู้ถือโทเค็นสามารถย้ายระหว่างบล็อกเชนได้อย่างราบรื่นเพื่อใช้ค่า Gas ที่ต่ำที่สุดและทำธุรกรรมที่เร็วที่สุด ในเวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมงหลังเปิดการพรีเซล Dogeverse ได้ระดมทุนไปแล้วกว่า 300,000 ดอลลาร์

ด้วยกระแสที่มาแรงเกี่ยวกับ Doge Day ซึ่งจัดขึ้นทุกปีในวันที่ 20 เมษายน เราคาดว่าการพรีเซลจะขายหมดอย่างรวดเร็ว ติดตามข่าวสารล่าสุดของโปรเจกต์ได้ที่ Whitepaper Dogeverse และเข้าร่วม Telegram channel

2. WienerAI — เหรียญมีมธีมสุนัขพร้อมให้รางวัลการ Stake ที่น่าประทับใจ

WienerAI ($WAI) เป็นโทเค็นมีมธีมสุนัขใหม่ล่าสุดที่มีแนวโน้มจะให้ผลตอบแทนจากการ Stake โทเค็นสูง แม้ว่าในปัจจุบันในตลาดแห่งนี้จะมีการแข่งขันที่สูงเป็นอย่างมากก็ตาม แต่โครงการดังกล่าวก็พยายามที่จะเพิ่มลูกเล่นบางอย่าง เพื่อทำให้ WienerAI กลายเป็นตัวเลือกที่เหมาะแก่การลงทุนในตอนนี้มากที่สุด

WienerAI เป็นเหรียญมีมที่หลายคนพูดถึง เพราะทีมพัฒนาที่อยู่เบื้องหลังโครงการนี้อาศัยการโฆษณาเพื่อเรียกกระแส และทำให้เกิดไวรัลที่หลายคนพูดถึง อย่างไรก็ตาม ในตลาดที่มีผู้เข้าแข่งขันจำนวนมากเช่นนี้ การพิจารณาความเหมาะสมอาจต้องใช้เวลานาน ดังนั้น ทีมพัฒนาของ WienerAI จึงเสนอรางวัลแบบพาสซีฟให้กับผู้ถือที่ Stake โทเค็น $WAI ของตนเอง

การซื้อโทเค็นเป็นเรื่องที่ง่ายมาก เพียงไปที่เว็บไซต์พรีเซลอย่างเป็นทางการและเชื่อมต่อกระเป๋าเงิน Ethereum จากนั้นเลือกจำนวนโทเค็นที่คุณต้องการซื้อ ก่อนที่จะคลิกตกลงเพื่อดำเนินการซื้อให้เสร็จสิ้น โทเค็นของคุณจะถูกส่งถึงคุณเมื่อการขายพรีเซลสิ้นสุดลง โดยมีการจัดสรรโทเค็นมากถึง 27.6 พันล้านโทเค็นในช่วงการขายพรีเซลนี้ 

หากต้องการซื้อโทเค็น $WAI โปรดไปที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ WienerAI และหากต้องการรับรู้ข่าวสารและข้อมูลล่าสุดทั้งหมด โปรดติดตาม WienerAI บน Twitter และ Telegram เพื่อไม่ให้พลาดการรับรู้ข้อมูลที่จำเป็น

3. 99Bitcoins – เหรียญ Learn2Earn ที่ให้ผลตอบแทนจากการ Stake 70,000% และแอร์ดรอปรางวัล

99Bitcoins เป็นแพลตฟอร์มการศึกษาเรื่องคริปโตที่ได้รับความนิยม มีผู้ใช้งานกว่า 700,000 คนและคอร์สเทรดมากกว่า 79 ชั่วโมง ตอนนี้แพลตฟอร์มได้เปิดตัวโทเค็น Learn-to-earn ชื่อ $99BTC

โดยถูกสร้างบนบล็อคเชน Ethereum โทเค็นแบบ Proof-of-stake นี้สามารถใช้ Stake เพื่อสร้างรายได้ passive income ได้ ขณะนี้ 99Bitcoins Token กำลังจัดสรรให้กับสาธารณชนครั้งแรกผ่านการพรีเซล

นักลงทุนที่สนใจสามารถซื้อ $99BTC ในราคา 0.001 ดอลลาร์ระหว่างการพรีเซลและนำโทเค็นไป Stake บน smart contract ที่ปลอดภัย ณ เวลาที่เขียน ผู้ที่ล็อก 99Bitcoins Token ไว้จะได้รับ APY (Annual Percentage Yields) มากกว่า 70,000% โดยมีผู้ทำการ Stake บน smart contract ไปแล้วกว่า 15 ล้านโทเค็น

เพื่อรับรางวัลเพิ่มเติมกับ 99Bitcoins ผู้ใช้สามารถเข้าร่วมในการเรียนรู้โดยแลกรับโทเค็น (Learn-to-Earn) อย่างมีส่วนร่วม ทำแบบประเมิน เข้าร่วมกิจกรรมคำถาม และเรียนหลักสูตรให้ครบถ้วนเพื่อรับ $99BTC เป็นรางวัล

สมาชิกชุมชนยังสามารถเข้าร่วม 99Bitcoins airdrop และมีสิทธิ์ชนะรางวัลมูลค่า 99,000 ดอลลาร์เป็นโทเค็นได้ โทเค็น $99BTC มีอุปทานรวม 99 พันล้านโทเค็น 14% จะจัดสรรเป็นรางวัล Stake และอีก 17% เป็นรางวัลชุมชน

พรีเซลที่กำลังดำเนินอยู่ระดมทุนได้กว่า 115,000 ดอลลาร์ภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถอ่าน 99Bitcoins whitepaper และเข้าร่วม Telegram channel

4. 5th Scape – โปรเจกต์ AI และ VR ที่มาแรงที่สุดในตลาดตอนนี้

5th Scape ($5SCAPE) เป็นเหรียญ VR ใหม่ล่าสุดที่นำเสนอระบบนิเวศการเล่นเกมพร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงประสบการณ์การเล่นเกม เนื้อหาเพื่อการศึกษา และอีกมากมาย โดย ทางแพลตฟอร์ม 5th Scape จะเปิดตัวห้าเกม VR ทันทีหลังเปิดตัวอย่างเป็นทางการ

5th Scape จะเข้ามาลดกำแพงระหว่างโลกความจริงและโลกเสมือนออกไป ช่วยสร้างความน่าดื่มด่ำและให้ประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อสำหรับผู้ใช้ โดยผู้ใช้จะสามารถใช้ $5SCAPE เพื่อเข้าถึงเกมต่างๆ มากมาย โดย $5SCAPE จะเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงคอนเทนต์ VR ในระบบนิเวศของ 5th Scape ได้ตลอดชีพ 

ใครที่ถือ $5SCAPE เอาไว้จะสามารถรับส่วนลดสินค้าของ 5th Scape ได้ โดยอุปทานทั้งหมดอยู่ที่ 5,210,000,000 โทเค็นและเปิดขาย 80% ของอุปทานทั้งหมดในพรีเซลล์ทั้งสิบสองรอบ โดยราคาในรอบสุดท้ายจะอยู่ที่ 0.0087 ดอลลาร์ นักลงทุนจึงควรเริ่มซื้อเหรียญตั้งแต่เนิ่นๆ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ผู้ใช้สามารถไปยังหน้าเว็บหลักอย่างเป็นทางการ  และเพื่อติดตามข่าวสารและสินค้าล่าสุด โปรดเข้าร่วมกลุ่ม Telegram ของโปรเจกต์

5. Sponge V2 – เหรียญ PoS ที่มีระบบ Stake-to-Bridge และเกม P2E เฉพาะ ให้ APY 246% ณ ขณะนี้

Sponge V2 เป็นเวอร์ชันอัพเกรดใหม่ของเหรียญมีม $SPONGE ที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามหลังเปิดตัวในปี 2023 มูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นจาก 1 ล้านดอลลาร์เป็นเกือบ 100 ล้านดอลลาร์ ตอนนี้ Sponge V2 พร้อมที่จะสร้างสรรค์บนผลงานนี้ต่อ

เวอร์ชันใหม่นี้มีกลไกและองค์ประกอบเกมที่ล้ำสมัยเพื่อมอบคุณค่าและการมีส่วนร่วมให้กับชุมชน

จาก Whitepaper ของ Sponge V2 แพลตฟอร์มเสนอรูปแบบ Stake-to-Bridge ที่เป็นเอกลักษณ์ รูปแบบนี้กำหนดให้ผู้ใช้ทำการ Stake โทเค็น V1 ที่มีอยู่ ซึ่งจะล็อกไว้อย่างถาวรเพื่อแลกกับโทเค็น V2 วิธีนี้ทำให้การเปลี่ยนผ่านไปยังเวอร์ชันใหม่เป็นไปอย่างราบรื่นและสร้างความรู้สึกเหมือนเป็นการลงทุนระยะยาวให้กับชุมชน

ในช่วงแรก การได้มาซึ่งโทเค็น V2 จะทำได้เฉพาะผ่านการ Stake โทเค็น V1 เท่านั้น โดยมีแผนที่จะนำเวอร์ชันใหม่ไปเปิดบนเว็บเทรดชั้นนำ (CEX) ในที่สุด ช่วงเวลาการเข้าถึงพิเศษผ่านการ Stake นี้เป็นกลยุทธ์เพื่อตอบแทนผู้ถือโทเค็นปัจจุบัน

สิ่งที่เพิ่มเข้ามาใน Sponge V2 ที่สำคัญคือระบบนิเวศเกม Play-to-Earn ที่มีทั้งเวอร์ชันฟรีและแบบจ่ายเงิน เกม P2E นี้ช่วยให้ผู้เล่นสามารถรับโทเค็น V2 เพิ่มประโยชน์การใช้งานโทเค็นและเป็นช่องทางที่น่าสนใจให้ชุมชนมีส่วนร่วมกับโทเค็น

อุปทานรวมของโทเค็น Sponge V2 กำหนดไว้ที่ 150 พันล้าน ส่วนที่มากกว่า 51% จะถูกจัดสรรสำหรับรางวัลการ Stake และการให้รางวัล P2E แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะตอบแทนการมีส่วนร่วมและสร้างประโยชน์การใช้งานโทเค็นในระยะยาวของชุมชน

ด้วย APY ที่สูงถึง 246% ณ เวลานี้ โปรเจกต์ให้ความสำคัญกับการกระตุ้นการมีส่วนร่วมและการลงทุนอย่างมากจากชุมชน

Sponge V2 มุ่งหวังที่จะต่อยอดความสำเร็จของเวอร์ชันก่อนหน้า โดยใช้ฐานชุมชนที่แข็งแกร่งกว่า 30,000 คน

ทีมงานต้องการขยายชุมชนนี้ต่อไปด้วยการใช้กลยุทธ์ทางการตลาดเฉพาะกลุ่มและดึงดูดใจด้วยคุณสมบัติใหม่ของโทเค็น

ผู้ที่สนใจ Sponge V2 และความคืบหน้าที่กำลังดำเนินอยู่สามารถเข้าร่วมช่องทาง Discord และ Telegram

แพลตฟอร์มเหล่านี้จะให้ข้อมูลและข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับโปรเจกต์ รวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบ Stake-to-Bridge, เกม P2E และการลิสต์บนเว็บเทรดที่จะมีขึ้น

6. Smog – ตัวเลือกชั้นนำของเหรียญ Proof of Stake ที่ให้รางวัลแอร์ดรอปจำนวนมากและให้ APY 42% จากการ Stake

Smog ($SMOG) ปัจจุบันเป็นตัวเลือกอันดับ 1 ของเราสำหรับเหรียญ Proof of Stake เป็นเหรียญมีมใหม่บนบล็อกเชน Solana ที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างมากด้วยผลงานทางตลาดที่น่าประทับใจตั้งแต่เปิดตัวเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2024 บน Jupiter DEX

โทเค็นนี้มีแคมเปญแอร์ดรอปขนาดใหญ่และให้ APY 42% จากการ Stake โทเค็น $SMOG ทำให้น่าดึงดูดสำหรับนักลงทุนที่มองหาเหรียญ Stake ที่ให้ผลตอบแทนสูง โดยมูลค่าพุ่งขึ้นกว่า 2000% ในเวลาแค่หนึ่งสัปดาห์ โดยมูลค่าตลาดเพิ่มจาก 2 ล้านดอลลาร์เป็นกว่า 60 ล้านดอลลาร์

Smog มีรูปแบบการเปิดตัวที่ยุติธรรมโดยหลีกเลี่ยงการพรีเซลเพื่อให้นักลงทุนทุกคนเข้าถึงได้เท่าเทียม แคมเปญ “Greatest SOL Airdrop” ของแพลตฟอร์มจัดสรร 490 ล้านโทเค็นจากทั้งหมด 1.4 พันล้านโทเค็นสำหรับรางวัลและกระตุ้นการมีส่วนร่วมผ่านการโต้ตอบบนโซเชียลมีเดียและกิจกรรมออนเชนเช่นการซื้อ ถือ และ Stake

ด้วยการจัดสรร 50% ของอุปทานทั้งหมดสำหรับความพยายามทางการตลาด Smog มุ่งมั่นที่จะเป็นโทเค็นมีมชั้นนำใน Solana

นอกจากนี้ การเข้าถึงได้แบบข้ามบล็อกเชนกับบริดจ์ Ethereum และแผนการลิสบนเว็บเทรดแบบรวมศูนย์และกระจายศูนย์แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Smog ในการขยายการเข้าถึงและความสามารถในการใช้งาน

นักลงทุนที่สนใจติดตามความคืบหน้าของ Smog สามารถตรวจสอบ Smog whitepaper และมีส่วนร่วมกับชุมชนผ่านกลุ่ม Telegram และ X (Twitter)

7. eTukTuk (TUK) – เหรียญคริปโตสำหรับสถานีชาร์จที่กำลังเสนอกลไก Proof of Stake เพื่อรับผลตอบแทน

eTukTuk เปิดเหรียญ Proof of Stake ที่มีเหรียญหลักคือ $TUK โดยตั้งใจที่จะมาเพิ่มโอกาสการลงทุนในโลกคริปโตและทำให้นักลงทุนรายย่อยในประเทศกำลังพัฒนาสามารถทำกำไรได้มากยิ่งขึ้น

โดยให้ผลตอบแทนต่อปีที่ 105% จากการ Stakingทีมงาน eTukTuk จะมุ่งเน้นไปที่การเปิดให้บริการสถานีชาร์จรถ EV ซึ่งจะช่วยลดภาวะโลกร้อนและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนลงไป ทำให้เป็นตัวเลือกการลงทุนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมนั่นเอง

ตอนนี้ มีรถตุ๊กตุ๊กกว่า 270 ล้านคนที่ใช้งานเครื่องยนต์สันดาปภายในซึ่งกำลังล้าสมัย เพราะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดภาวะโลกร้อนและกินพลังงานที่ใช้แล้วหมดไปมหาศาล ทั้งยังไม่สามารถทำกำไรได้มากเท่าที่ควรจะเป็น แต่ทางทีมงาน eTukTuk จำนำเสนอรถและสถานีชาร์จซึ่งช่วยให้คนขับรถตุ๊กตุ๊กสามารถสร้างรายได้เพิ่มเติมมากขึ้น

สถานีชาร์จรถ EV จะถูกเปิดให้บริการในประเทศกำลังพัฒนา เช่น ศรีลังกา ก่อนเป็นอันดับแรก โดยทางทีมงานจะทำงานร่วมมือกับพันธมิตรในพื้นที่เพื่อลดค่าใช้จ่ายและค่าบำรุงรักษาของสถานีชาร์จลงไปอย่างมีนัยสำคัญ

สถานีชาร์จรถ EV จะถูกเปิดให้บริการตามสถานที่ต่างๆ ในพื้นที่พันธมิตร ซึ่งจะเริ่มติดตั้งอุปกรณ์ที่จำเป็นและบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง โดยคนขับรถตุ๊กตุ๊กจะสามารถชำระค่าบริการชาร์จได้ด้วย $TUK และทางพัฒนาจะได้รับส่วนแบ่งรายได้จากค่าคอมมิชชั่นที่เกิดขึ้นบนแพลตฟอร์ม

eTukTuk ยังมาพร้อมกลไก Proof of Stake ซึ่งจะเปิดให้นักลงทุนสามารถล็อคเหรียญได้บน Binance Smart Cain ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องความเร็วและการประหยัดพลังงาน ทั้งยังสามารถขยายเครือข่ายไปได้อีกมาก เปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถสร้างรายได้แบบพาสซีฟได้เพิ่มเติมนั่นเอง

นักลงทุนที่สนใจสามารถอ่าน eTukTuk Whitepaper และเข้าร่วมช่อง Telegram เพื่อติดตามข่าวสารล่าสุดได้ที่นี่

8. Cardano – เหรียญ PoS แบบกระจายศูนย์ที่มีค่าธรรมเนียมต่ำ

Cardano (ADA) คือแพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์สที่สร้างขึ้นบนบล็อกเชนโดยใช้ฉันทามติแบบ Proof of Stake (PoS) เพื่อให้บริการแพลตฟอร์มแบบกระจายศูนย์ที่ขับเคลื่อนโดยชุมชน

Cardano ใช้โพรโตคอล PoS ที่ชื่อว่า Ouroboros ซึ่งทำให้เครือข่ายสามารถรองรับพูลการ Stake ที่ผู้ถือ ADA สามารถมอบหมายการมีส่วนร่วมของพวกเขาได้ พูลการ Stake จะดูแลการบำรุงรักษาของสินทรัพย์ที่ Stake ไว้และยืนยันธุรกรรมบน Cardano เนื่องจากโพรโตคอล PoS รองรับการทำธุรกรรมที่ราคาถูกกว่า ดังนั้นค่าธรรมเนียมเฉลี่ยต่อธุรกรรมของ Cardano อยู่ที่ประมาณ 0.16 ADA ($0.064) ทำให้เป็นหนึ่งในเหรียญที่ประหยัดพลังงานมากที่สุดในตลาด

หลังจากเปิดตัวในปี 2017 Cardano ได้ทำการ hard fork ที่ชื่อว่า Alonzo ในปี 2021 ซึ่งทำให้บล็อกเชนสามารถรองรับ smart contract และใช้งาน NFTs และ DApps (แอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์) ต่างๆ ได้

Cardano ปล่อย smart contract มากกว่า 100 รายการภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากการอัพเกรด Alonzo ส่งผลให้ราคา ADA ปรับตัวสูงขึ้นในเดือนกันยายน 2021 Cardano ใช้พลังงานน้อยกว่าเหรียญ Proof of Work ชั้นนำ คล้ายกับเครือข่าย PoS อื่นๆ นี่คือเหตุผลที่ทำให้หลายคนมองว่า Cardano เป็นหนึ่งในเหรียญดิจิทัลที่ยั่งยืนที่สุดในตลาด

ปัจจุบันซื้อขายอยู่ที่ 0.47 ดอลลาร์ Cardano ADA ได้ปรับตัวลดลงจากจุดสูงสุดตลอดกาล (ATHs) ที่ 3.10 ดอลลาร์ในปี 2021 อย่างไรก็ตาม การใช้งานที่เพิ่มมากขึ้นและประสิทธิภาพด้านต้นทุนที่ต่ำทำให้ Cardano เป็นหนึ่งในเหรียญดิจิทัลที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงที่สุด

9. BNB – เหรียญประจำของแพลตฟอร์มการซื้อขายระดับโลก

BNB (Binance Coin) เป็นโทเค็นที่ใช้ในการกำกับดูแลของ Binance ซึ่งเป็นกระดานเทรดเหรียญดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในแง่ของปริมาณการซื้อขาย ดำเนินการบน Binance Smart Chain (BSC) โดย BNB ใช้มาตรฐาน BEP เพื่อรวม smart contract เข้าด้วยกัน

BNB ใช้ฉันทามติแบบ Proof of Stake Authority ซึ่งช่วยให้ผู้ตรวจสอบสามารถ Stake BNB จำนวนหนึ่งเพื่อยืนยันธุรกรรมบนเครือข่าย โทเค็นดังกล่าวเป็นสินทรัพย์เหรียญดิจิทัลอันดับที่ 5 โดยมีมูลค่าตลาด 45 พันล้านดอลลาร์

ในฐานะโทเค็นหลักของเว็บเทรด Binance BNB มอบประโยชน์มากมายให้กับลูกค้า Binance นักลงทุนสามารถได้รับส่วนลด 25% จากค่าธรรมเนียมการซื้อขายสปอตบน Binance ซึ่งปกติจะคิดค่าธรรมเนียม 0.1% ต่อธุรกรรม นักลงทุนที่ถือ BNB ยังสามารถประหยัดได้ 10% ในการซื้อขาย Futures อีกด้วย

โทเค็นยอดนิยมนี้ยังถูกใช้เป็นกลไกการสวอปสำหรับนักลงทุนที่ต้องการซื้อเหรียญดิจิทัลอื่นๆ ที่ใช้มาตรฐาน BEP เช่น หากนักลงทุนต้องการซื้อ Battle Infinity ซึ่งเป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตมาใหม่ที่ดีที่สุด พวกเขาจะต้องซื้อโทเค็นด้วย BNB

หลังจากแตะ ATH ที่ 690 ดอลลาร์ในปี 2021 ตอนนี้ BNB มีราคาซื้อขายเพียง 280 ดอลลาร์เท่านั้น

10. Solana – เหรียญคริปโตที่รองรับการทำธุรกรรมได้ถึง 65,000 รายการต่อวินาที

Solana (SOL) เป็นบล็อกเชนแบบกระจายศูนย์ที่รวดเร็วและปลอดภัย โดยใช้โพรโตคอลที่เป็นนวัตกรรมในการตรวจสอบความถูกต้องของบล็อก Solana ใช้โพรโตคอล Proof of History (PoH) ที่ล้ำสมัย ซึ่งทำให้เครือข่ายสามารถประมวลผลธุรกรรมได้ทันทีที่ได้รับ

สถาปัตยกรรมของโพรโตคอลช่วยให้ Solana สามารถบรรลุปริมาณการทำธุรกรรมได้สูงถึง 65,000 รายการต่อวินาที (TPS) ในขณะที่บล็อกเชน Ethereum ประมวลผลได้เพียง 17 TPS โดยเฉลี่ย ความสามารถในการปรับขนาดที่สูงทำให้ Solana เป็นเครือข่ายที่เหมาะสำหรับแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (DApps) โดยนักพัฒนาสามารถบรรลุระดับความสามารถในการปรับขนาดที่สูงกับ Solana ได้

แม้ว่า PoH จะเป็นโพรโตคอลที่ Solana ใช้เพื่อปรับปรุงความเร็ว แต่ SOL ยังคงใช้กลไกฉันทามติแบบ Proof of Stake และรองรับโพรโตคอลการ Stake SOL ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นหนึ่งใน Altcoin ที่น่าลงทุนที่สุด โดยราคาโทเค็นเพิ่มขึ้นจาก 0.78 ดอลลาร์ในปี 2020 เป็น 33 ดอลลาร์ในเดือนกันยายน 2022

แม้จะมีการเติบโตอย่างมหาศาล แต่ SOL ก็ต่ำกว่า ATH ถึง 87% และอาจเป็นโอกาสการลงทุนระยะยาวที่น่าสนใจ

11. Avalanche – เหรียญ PoS ที่มีบล็อกเชนย่อย 3 เครือข่าย

Avalanche (AVAX) เป็นเครือข่าย Layer-1 อีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่รองรับ smart contract และทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางสำหรับแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์และเครือข่ายบล็อกเชนที่กำหนดเอง เป็นเหรียญ Proof of Stake ยอดนิยมที่สามารถรองรับ 6,500 TPS

ความเร็วในการทำธุรกรรมที่สูงเป็นไปได้เนื่องจากสถาปัตยกรรมบล็อกเชนที่เป็นเอกลักษณ์ของ Avalanche เหรียญนี้ประกอบด้วยบล็อกเชนย่อยที่แตกต่างกันสามเครือข่าย แต่ละเครือข่ายมีบทบาทในการยืนยันกระบวนการทำธุรกรรมที่แตกต่างกัน Exchange Chain (X-Chain) รับผิดชอบในการส่งและรับเงินบน Avalanche

Contract Chain (C-Chain) จัดการธุรกรรมที่เกิดจาก DApps หรือ smart contract ในขณะที่ Platform Chain (P-Chain) ดูแลการทำธุรกรรมการ Stake /ผู้ตรวจสอบบนเครือข่าย Avalanche AVAX ซึ่งเป็นโทเค็นหลักของเครือข่ายซื้อขายอยู่ที่19 ดอลลาร์โดยมีมูลค่าตลาด 5.6 พันล้านดอลลาร์

12. Algorand – เหรียญดิจิทัลที่มีมุมมองเฉพาะต่อโพรโตคอล Proof of Stake

Algorand (ALGO) เป็นเครือข่ายบล็อกเชนแบบยั่งยืนได้ด้วยตัวเองที่ใช้ฉันทามติแบบ Pure Proof of Stake (PPoS) ซึ่งแตกต่างจากอัลกอริทึม PoS เล็กน้อย

ด้วยเครือข่าย PPoS ผู้ใช้แพลตฟอร์มจะถูกเลือกแบบสุ่มเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของบล็อกและลงคะแนนเสียงในข้อเสนอต่างๆ โอกาสที่ผู้ใช้จะถูกเลือกนั้นเชื่อมโยงกับจำนวน ALGO ที่พวกเขา Stake

ดังนั้น ฉันทามติเฉพาะของ Algorand จึงมุ่งเน้นที่จะเพิ่มความปลอดภัย โดยทำให้มั่นใจว่าผู้ถือส่วนน้อยจะไม่มีอำนาจในการทำร้ายระบบทั้งหมด

ในปี 2022 Algorand ยังได้พัฒนา London Bridge ซึ่งเป็นบริดจ์ที่ไม่ต้องอาศัยความไว้วางใจ ทำให้เครือข่ายสามารถใช้งานร่วมกับบล็อกเชน Ethereum ได้ ในระยะยาว Algorand มุ่งมั่นที่จะสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบนิเวศ DeFi ของตน ปัจจุบัน ALGO ซื้อขายที่ 0.3 ดอลลาร์ต่อโทเค็น

Proof of Stake คืออะไร

Proof of Stake (PoS) คือฉันทามติของเครือข่ายที่ใช้เพื่อตรวจสอบธุรกรรมบนบล็อกเชนที่แตกต่างกัน เนื่องจากเหรียญคริปโตมีเป้าหมายที่จะเป็นเครือข่ายแบบกระจายศูนย์ ธุรกรรมจึงได้รับการตรวจสอบความถูกต้องในฐานข้อมูลแบบกระจายที่เรียกว่าบล็อกเชน แต่ละบล็อกประกอบด้วยธุรกรรมใหม่ที่ได้รับการตรวจสอบความถูกต้องบนเครือข่ายแล้ว

ในการยืนยันธุรกรรมโดยใช้ฉันทามติ Proof of Stake เจ้าของเหรียญสามารถทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจสอบธุรกรรมได้ โดยเจ้าของเหรียญจะ Stake โทเค็นของตนเองเพื่อรับหน้าที่ในการตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรมบนเครือข่าย

เจ้าของเหรียญหรือ “ผู้ตรวจสอบ” เหล่านี้จะถูกเลือกแบบสุ่ม โดยแต่ละเครือข่ายคริปโตจะมีกฎในการเป็นผู้ตรวจสอบที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น Ethereum กำหนดให้เจ้าของเหรียญต้อง Stake ETH อย่างน้อย 32 ETH (51,000 ดอลลาร์ ณ เวลาที่เขียน) ก่อนที่จะมีโอกาสได้เป็นผู้ตรวจสอบเครือข่าย

Proof of Work กับ Proof of Stake

เมื่อ Bitcoin เปิดตัวในปี 2008 โดยเป็นหรียญคริปโตที่ใช้ฉันทามติแบบ Proof of Work (PoW) ด้วย Proof of Work ฉันทามตินี้ให้วิธีการที่เป็นรูปธรรมสำหรับผู้ถือ Bitcoin ในการจัดการธุรกรรมบนแพลตฟอร์ม

Proof of Work ทำให้เกิดแนวคิดของแฮช ซึ่งประกอบด้วยตัวเลขสตริงยาวที่กำหนดให้กับบล็อกแต่ละบล็อก เมื่อชุดข้อมูลที่กำหนดถูกส่งผ่านฟังก์ชันแฮช ระบบจะสร้างแฮชเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น แฮชจะเปลี่ยนแปลงจนไม่สามารถจำแนกได้หากข้อมูลถูกเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไข

แต่ละบล็อกจะมีแฮชที่ไม่ซ้ำกัน และบล็อกหนึ่งจะเชื่อมต่อโดยตรงกับอีกบล็อกหนึ่งบนบล็อกเชน ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเปลี่ยนแปลงชุดแฮชที่แตกต่างกันเนื่องจากหนึ่งแฮชจะตรวจสอบอีกแฮชหนึ่ง การสร้างแฮชเพียงหนึ่งอันต้องใช้พลังการประมวลผลจำนวนมหาศาล ดังนั้น ผู้ตรวจสอบของเครือข่าย Proof of Work จึงเรียกว่า “Miners”

ตัวอย่างเช่น ต้นทุนการผลิตในการขุด Bitcoin หนึ่งเหรียญคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 13,000 ดอลลาร์ ต้นทุนการผลิตที่สูงร่วมกับอุปทานโทเค็นที่จำกัดของ Bitcoin เป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญของราคา Bitcoin ที่สูง

อย่างไรก็ตาม เครือข่าย Proof of Work ถูกตำหนิว่าต้องใช้พลังงานในปริมาณที่ไม่ยั่งยืนเพื่ออำนวยความสะดวกในกระบวนการนี้ ดังนั้น Proof of Stake จึงถือกำเนิดขึ้นเป็นทางเลือกที่รวดเร็วและคุ้มค่ากว่าในการยืนยันธุรกรรม

คุณควรลงทุนในเหรียญ Proof of Stake หรือไม่

ก่อนลงทุนในเหรียญคริปโต PoS นักลงทุนควรวิเคราะห์ว่าทำไมกลุ่มสินทรัพย์นี้จึงอาจเป็นการลงทุนที่ดี ส่วนต่อไปนี้จะกล่าวถึงข้อดีบางประการของเหรียญคริปโต Proof of Stake

ประหยัดพลังงาน

นักขุด Bitcoin ต้องแก้สมการทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อนเพื่อรับ Bitcoin กระบวนการนี้ต้องใช้พลังงานจำนวนมาก ซึ่งทำให้นักขุดจำนวนมากต้องหันไปใช้แหล่งพลังงานสีเขียว นับตั้งแต่ปี 2015 ความต้องการพลังงานในการขุด Bitcoin หนึ่งเหรียญได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งหมายความว่ามีเพียงเครื่องขุด Bitcoin ที่ดีที่สุดเท่านั้นที่เพียงพอต่อการแข่งขัน

การเติบโตของฉันทามติ

ด้วยฉันทามติ PoS บล็อกเชนจำนวนมากสามารถเพิ่มความสามารถในการปรับขนาดและสร้างบล็อกใหม่บนบล็อกเชนได้อย่างรวดเร็ว ในความเป็นจริง Ethereum ได้พบคู่แข่งที่ใกล้เคียงจากเหรียญใหม่ๆ อย่าง Cardano, Solana และ Algorand ซึ่งทั้งหมดนี้ได้นำฉันทามตินี้ไปใช้

ความนิยมของฉันทามติ Proof of Stake ขณะนี้อยู่ในจุดสูงสุด เนื่องจาก Ethereum กำลังจะอัพเกรดเครือข่ายซึ่งจะเปลี่ยนจากฉันทามติ Proof of Work เป็น Proof of Stake ในระยะยาว โทเค็น PoS มีแนวโน้มที่จะยั่งยืนมากขึ้น

บทสรุป

หลังจากรีวิวเหรียญ Proof of Stake ที่ดีที่สุดแล้ว เราแนะนำ Dogeverse ($DOGEVERSE) ที่เป็นเหรียญพรีเซลใหม่ที่กำลังมาแรงซึ่งให้ APY จากการ Stake มากกว่า 15,000% ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงนับตั้งแต่เปิดตัวพรีเซล มันสามารถระดมทุนได้มากกว่า 300,000 ดอลลาร์ แสดงให้เห็นถึงความสนใจอย่างมากจากนักลงทุน

คำถามที่พบบ่อย

เหรียญ Proof of Stake ที่เป็นที่นิยมมีอะไรบ้าง

เหรียญ Proof of Stake บางส่วนที่ได้รับความนิยม ได้แก่ Dogeverse (DOGEVERSE), WienerAI ($WAI), 99Bitcoins ($99BTC), 5th Scape (5SCAPE) และ Sponge V2 (SPONGE)

Shiba Inu เป็นเหรียญ Proof of Stake หรือไม่

ใช่ ก่อนหน้านี้เป็นเหรียญ PoW แต่หลังจากที่ Ethereum Merge – ซึ่งทำให้ ETH เปลี่ยนเป็น PoS – Shiba Inu ตอนนี้ก็เป็น PoS เช่นกัน

XRP token เป็นเหรียญ PoS หรือไม่

ต่างจากเครือข่ายบล็อกเชนส่วนใหญ่ Ripple (XRP) ไม่ได้ใช้ฉันทามติแบบ PoS หรือ PoW เครือข่ายนี้อาศัยระบบฉันทามติที่ควบคุมโดยเซิร์ฟเวอร์ของธนาคารหลายแห่ง อย่างไรก็ตาม เหรียญใหม่อย่าง $XRP20 เป็นโทเค็นแบบ Proof-of-Stake และมอบประโยชน์จากการ Stake ให้กับผู้ถือโทเค็น