BRC20 Token คืออะไร ? และทำงานอย่างไรบ้าง
เมื่อปี 2023 ที่ผ่านมา เรียกได้ว่าเป็นปรากฎการณ์สำหรับตลาดคริปโตเลยทีเดียว เมื่อบิทคอยน์ได้ถูกนำมาเป็นมาตรฐานโทเค็นหรือที่เรียกว่า BRC20 Token จึงทำให้มีโครงการคริปโตหลายหมื่นโครงการหลั่งไหลสร้างบนเชนดังกล่าว และกลายเป็นความนิยม ทำให้ตลาดคริปโตคึกคักอย่างมาก
บทความนี้จะพาไปทำความรู้จักเกี่ยวกับ BRC20 และ เหรียญ BRC-20 ว่าคืออะไร พวกเขาทำงานอย่างไร และทำไมจึงได้รับความนิยม รวมไปถึงข้อดีและข้อจำกัดที่ผู้ใช้งานอาจพบระหว่างการใช้งาน
BRC20 Token คืออะไร?
BRC20 Token คือมาตรฐานโทเค็นที่อยู่บนเครือข่ายของบิทคอยน์ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าสูงที่สุดและมีการซื้อขายมากที่สุดบนกระดานเทรดคริปโต ทำให้เป็นสกุลเงินที่มีสภาพคล่องสูงที่สุด
แต่อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ บิทคอยน์ไม่ได้ถูกออกแบบไว้สำหรับการรองรับสำหรับการสร้างโทเค็นตั้งแต่แรกจึงทำให้เกิดความหนาแน่นหลังจากเปิดตัวมาตรฐานโทเค็นดังกล่าว และส่งผลให้ค่าธรรมเนียมที่สูงขึ้นเนื่องจากต้องรองรับการทำธุรกรรมหลายธุรกรรมในเวลาเดียวกัน
BRC20 นั้นย่อมาจาก Bitcoin Request for Comment 20 ซึ่งคาดว่าได้รับแรงบันดาลใจมาจาก ERC-20 ของ Ethereum นั่นเอง
เหรียญ BRC-20 ปรากฎตัวครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคมปี 2023 ทื่ผ่านมา นำเสนอโดยนักพัฒนาที่มีนามแฝงว่า Demo ซึ่งได้นำแนวคิดจาก Bitcoin Ordinals นำมาต่อยอดให้กลายเป็นมาตรฐานโทเค็นบนบล็อกเชนของบิทคอยน์ ให้นักพัฒนาสามารถสร้างและถ่ายโอน แลกเปลี่ยนโทเค็นดิจิทัลทุกประเภทได้
BRC20 ทำงานอย่างไร?
BRC20 Token ทำงานผ่านโปรโตคอล Ordinals ซึ่งได้ถูกเปิดตัวมาก่อนที่จะมี BRC20 โปรโตคอลดังกล่าวถูกพัฒนาขึ้นโดย Casey Rodarmor โดยมีลักษณะในการระบุอัตลักษณ์ของ Satoshi หรือ Sats ที่เป็นหน่วยย่อยของบิทคอยน์เพื่อไม่ให้ซ้ำกัน
นอกจากนี้ยังสามารถบันทึกข้อมูล ข้อความ รูปภาพ หรือวิดีโอที่มีขนาดไม่เกิน 4MB ลงบน Sats กระบวนการนี้ถูกเรียกว่า Inscription ซึ่งจะมีการฝังไฟล์ JSON ลงไปทำให้มีคุณลักษณะเหมือน Fungible Token มากที่สุด ในการสร้าง โยกย้าย และปรับใช้โทเค็นต่าง ๆ
อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก BRC-20 คือมาตรฐานโทเค็นของบิทคอยน์ จึงทำให้หลังจากที่เปิดตัวได้ไม่นานก็มีการสร้างโทเค็นและซื้อขายบิทคอยน์กันอย่างล้นหลาม เพียงแค่ระยะเวลาสั้น ๆ ก็มีเหรียญเกือบสองหมื่นสกุลแล้ว ทำให้เครือข่ายเกิดการทำงานที่ค่อนข้างหนัก และส่งผลกระทบต่อมาภายหลังที่เราจะกล่าวในหัวข้อต่อไป
ข้อดีและข้อจำกัดของเหรียญ BRC-20
ทุกอย่างย่อมมีสองด้านเสมอ เรามาดูกันว่าข้อดีและข้อจำกัดของ BRC20 Token คืออะไรบ้าง ซึ่งแบ่งเป็นข้อ ๆ ได้ดังนี้
ข้อดี:
- ความปลอดภัย : BRC20 เป็นโทเค็นที่อยู่บนบล็อกเชนบิทคอยน์ซึ่งแน่นอนว่าจะได้รับความปลอดภัยจากกลไกฉันทามติแบบ Proof-of-Work ที่ทำงานอยู่บนเชนของบิทคอยน์ และขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัยและการกระจายศูนย์มากที่สุดอีกรูปแบบหนึ่ง
- ส่งเสริมระบบนิเวศของบิทคอยน์ : การเกิด BRC20 Token ส่งผลให้นักพัฒนาต่างพากันสร้างโทเค็นบนบล็อกเชนบิทคอยน์เป็นจำนวนมาก ซึ่งส่งผลให้เกิดการสร้าง NFT และอื่น ๆ ที่มีส่วนช่วยให้ขยายขีดความสามารถของ Bitcoin เป็นการกระตุ้นให้เกิดการใช้งาน และดึงดูดเหล่านักลงทุน ผู้ประกอบการต่าง ๆ เข้ามามีส่วนร่วมในระบบนิเวศของบิทคอยน์มากขึ้น
ข้อด้อย:
- ค่าธรรมเนียมที่สูง : เนื่องจาก BRC20 เป็นไม่ได้ถูกรองรับการใช้งานบนสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contact) ทำให้ในการทำธุรกรรมต่าง ๆ จะต้องดำเนินการด้วยตัวเองทั้งหมด ซึ่งแต่ละขั้นตอนจะมีค่าธรรมเนียมเรียกเก็บ ส่งผลให้กว่าจะได้เหรียญในแต่ละครั้งจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมที่ค่อนข้างสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีโทเค็นเกิดใน BRC20 เป็นจำนวนมาก
- สภาพคล่องต่ำ : ถึงแม้จะมีผู้สร้างและผู้ใช้งาน BRC20 ค่อนข้างมาก แต่ก็ยังไม่ได้เปิดให้ใช้งานบนแพลตฟอร์มของ DeFi จึงทำให้เข้าถึงยาก จนเกิดเป็นสภาพคล่องต่ำตามมา แต่อย่างไรก็ตามนี่คือช่วงเริ่มต้นของ BRC20 ในอนาคตคาดว่าจะมีการพัฒนาและเข้าถึงได้มากขึ้น
[/su_note]
สรุป
BRC20 Token เป็นอีกหนึ่งมาตรฐานโทเค็นที่น่าสนใจ ซึ่งเกิดมาจากการต่อยอดของบิทคอยน์ที่แต่เดิมไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างโทเค็นหรือมีความสามารถอื่น ๆ นี่จึงเป็นความท้าทายของนักพัฒนาที่จะเพิ่มขีดจำกัดของ BRC20 ให้สามารถใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น
และการพัฒนาเหล่านี้น่าจะส่งผลต่อราคาของบิทคอยน์อย่างมากในอนาคต แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่นักพัฒนาควรรีบเร่งแก้ไขคือการอัดแน่นของการทำธุรกรรมที่ส่งผลไปยังค่าธรรมเนียมที่สูง ข้อจำกัดนี้ทำให้สภาพคล่องของเหรียญค่อนข้างต่ำ และยังไม่เป็นที่น่าประทับใจนัก
แต่นี่เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้น โอกาสในการพัฒนา BRC20 ยังคงอีกยาวไกล และเราได้แต่หวังว่ามาตรฐานโทเค็นนี้จะกลายเป็นอีกหนึ่งบรรทัดฐานที่ดีที่สุดที่น่าเลือกใช้ในการสร้างโทเค็นอนาคต
About the Author
ภาคภูมิ เกิดปราบ 
