12 Decentralized Exchange (DEX) ยอดนิยมประจำปี 2024

Decentralized Exchange (DEX) นั้นให้บริการซื้อขายคริปโตเคอเรนซีโดยไม่ต้องพึ่งพาคำสั่งจากศูนย์กลาง การซื้อขายจะเกิดขึ้นผ่านกลไก Liquidity Pool ซึ่งหมายความว่านักลงทุนสามารถซื้อหรือขายโทเค็นได้โดยไม่ต้องอาศัยคู่ค้าอีกฝ่าย Decentralized Exchange ส่วนใหญ่รองรับการเทรดแบบไม่ระบุตัวตนและไม่จำเป็นต้องสมัครบัญชีก่อน

ถัดไป เราจะจัดอันดับและรีวิว 12 Decentralized Exchange ที่ดีที่สุดสำหรับปี 2024 โดยเปรียบเทียบ Exchange จากค่าธรรมเนียม เหรียญที่รองรับ ความปลอดภัย ระดับสภาพคล่อง และเครื่องมือ DeFi ที่มีอย่างเช่นการกู้ยืม

รีวิว 12 Decentralized Exchange ยอดเยี่ยม

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ DEX ที่กล่าวถึงข้างต้น อ่านต่อไปเราจะรีวิวแพลตฟอร์มแต่ละแห่งโดยละเอียด

1. OKX – DEX ที่ดีที่สุดโดยรวมสำหรับปี 2024

เราจัดอันดับ OKX ให้เป็น Decentralized Exchange ที่ดีที่สุดโดยรวม OKX รองรับเครือข่ายบล็อกเชนมากกว่า 70 เครือข่าย ตั้งแต่ Dogecoin, Litecoin, Ethereum ไปจนถึง Solana, Binance Smart Chain และ Polygon นอกจากนี้ OKX ยังรองรับการทำงานข้ามเครือข่าย ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถแลกเปลี่ยนโทเค็นจากสองมาตรฐานเครือข่ายที่แตกต่างกัน

ตัวอย่างเช่น สวอป MATIC เป็น Litecoin หรือ Tether เป็น BNB ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีในการเริ่มต้นใช้งาน OKX เชื่อมต่อกระเป๋าเงิน ตั้งคำสั่ง และวางคำสั่งเทรด โทเค็นที่ซื้อใหม่จะปรากฏในกระเป๋าเงินที่เชื่อมต่อ นอกจากนี้ OKX ยังเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการสร้างผลตอบแทนจาก DeFi

 

ทั้งนี้เพราะ OKX ใช้ตัวรวม Bridge ซึ่งหมายความว่ามีการเชื่อมต่อกับ Liquidity Pool จาก Exchange อื่นๆ ทำให้มั่นใจได้ว่าผู้ใช้จะได้ผลตอบแทนสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้โดยไม่ต้องออกจากแพลตฟอร์ม OKX ข้อด้อยหลักของ OKX คือค่าธรรมเนียมรวมอยู่ในอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งหมายความว่าคุณจะต้องคำนวณว่าจ่ายแบบเรียลไทม์

หากต้องการอ่านรีวิว OKX เพิ่มเติมจากเราสามารถอ่านได้ที่นี่

2. PancakeSwap – DEX ยอดนิยมสำหรับการเทรดโทเค็นบน BNB

PancakeSwap เป็น Decentralized Exchange ชั้นนำสำหรับโทเค็นบน BNB มีสภาพคล่องระดับพรีเมียมและปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีการซื้อขายมากกว่า 17 ล้านครั้งในช่วง 30 วันที่ผ่านมา PancakeSwap มอบประสบการณ์การใช้งานที่เป็นมิตร หลังจากเชื่อมต่อกระเป๋าเงินแล้ว เพียงแค่เลือกคริปโตเคอเรนซีที่ต้องการแลกเปลี่ยน

PancakeSwap ยังได้เปิดตัวการเทรดข้ามเครือข่ายด้วย ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแลกเปลี่ยนโทเค็น BNB กับมาตรฐานเครือข่ายอื่นๆ เช่น Ethereum, Arbitrum, Aptos, Polygon และ Base สำหรับค่าธรรมเนียม PancakeSwap เก็บค่าคอมมิชชั่น 0.07% ในคำสั่งซื้อและขาย แต่จะลดลงเหลือ 0.02% เมื่อให้ PancakeSwap เป็น Liquidity Provider

นอกจากการสวอปโทเค็นแล้ว PancakeSwap ยังมีฟีเจอร์อื่นๆ อีกมาก รวมถึง Staking และ Yield Farming ช่วยให้ผู้ใช้สร้างรายได้แบบ Passive Income ได้ อย่างไรก็ตาม ผลตอบแทนยังไม่สามารถแข่งขันได้เท่ากับ Decentralized Exchange อื่นๆ

ตัวอย่างเช่น PancakeSwap จ่ายเพียง 1.1% เมื่อ Stake Tether นอกจากนี้ PancakeSwap ยังมีลอตเตอรีคริปโตด้วย โดยรางวัลแจ็คพอตปัจจุบันมีมูลค่ามากกว่า 38,000 ดอลลาร์

3. dYdX – เทรดคริปโต Derivatives ขั้นสูงด้วยเลเวอเรจสูง

dYdX คือ Decentralized Exchange ที่เชี่ยวชาญใน Cryptocurrency Derivatives ช่วยให้คุณสามารถเทรดคริปโตได้โดยไม่ต้องถือครองโทเค็นจริง ประโยชน์ของการเทรด Derivatives คือคุณจะมีเลเวอเรจให้ใช้ dYdX มีเลเวอเรจสูงสุดถึง 20 เท่าสำหรับสกุลคริปโตหลายสิบสกุล

รวมถึง Bitcoin, Dogecoin, Cardano, Ethereum และ Litecoin dYdX มาพร้อมกับเครื่องมือการเทรดขั้นสูง ไม่ว่าจะเป็นชาร์ตราคาแบบเรียลไทม์ Technical Indicator และประเภทคำสั่งซื้อขายหลากหลาย เช่น Limit, Stop-Loss และ Take-Profit สามารถเข้าถึง dYdX ได้จากอุปกรณ์หลายประเภท

ทั้งเว็บเบราว์เซอร์ มือถือ และ App หลัก ค่าธรรมเนียมการเทรดเริ่มต้นที่ 0.05% ต่อรายการสำหรับ Market Taker ซึ่งแค่ 0.50 ดอลลาร์ต่อการเทรดทุกๆ 1,000 ดอลลาร์ dYdX ยังเสนอค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่าสำหรับบัญชีขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม คุณจะต้องเทรดมากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ใน 30 วันเพื่อลดค่าธรรมเนียมเหลือ 0.04%

4. Uniswap – ผู้นำตลาดในการเทรดโทเค็น ERC-20

Uniswap เป็น Decentralized Exchange ที่มีชื่อเสียงซึ่งได้รับความนิยมกับโปรเจกต์บน Ethereum โดยรองรับโทเค็น ERC-20 นับพันรายการ รวมถึง Aave, DAI, USD Coin, Tether และ Wrapped Bitcoin Uniswap มักจะเป็น Exchange แรกที่ลิสโทเค็นของแคมเปญ ICO เนื่องจากใครก็ตามสามารถลิสบน Uniswap ได้ เพียงแค่เพิ่ม Liquidity เข้าไป

นอกจากนี้ Uniswap ยังรองรับการซื้อขายข้ามเครือข่าย เครือข่ายที่รองรับ ได้แก่ Binance Smart Chain, Celo, Arbitrum และ Base โดยโทเค็นบนเครือข่ายเหล่านี้สามารถสวอปได้แบบไม่ระบุตัวตน เรายังพบว่า Uniswap มอบประสบการณ์การใช้งานที่ยอดเยี่ยม การค้นหาโทเค็นและการตั้งคำสั่งซื้อขายนั้นง่ายมาก

Uniswap ยังเป็นที่นิยมในการสร้างผลตอบแทน DeFi เช่น การ Staking มอบ APY ที่สูงสำหรับคริปโตเคอเรนซีหลายสกุล ฟีเจอร์อีกอย่างคือรูปแบบการกำกับดูแลของ Uniswap ผู้ที่ถือโทเค็น UNI สามารถลงคะแนนเสียงในข้อเสนอสำคัญๆ ได้

ซึ่งทำให้มั่นใจว่าระบบนิเวศมีความยุติธรรมและครอบคลุมทุกคน Uniswap คิดค่าธรรมเนียมการซื้อขาย 0.03% ต่อครั้ง

5. Jupiter – ซื้อขายโทเค็นบน Solana ด้วยเครื่องมือขั้นสูง

Jupiter เป็น Decentralized Exchange ที่ดำเนินการบนเครือข่าย Solana ได้รับประโยชน์จากธุรกรรมบน lightning ซึ่งมีค่าธรรมเนียมต่ำ และความสามารถในการขยายขนาด Jupiter รองรับโทเค็นส่วนใหญ่ที่อยู่บน Solana เพียงเชื่อมต่อกระเป๋าเงินและเลือกว่าต้องการเทรดคริปโตเคอเรนซีใด

เรายังชอบที่ Jupiter มีเครื่องมือ Dollar-Cost Averaging (DCA) ด้วย ช่วยให้คุณลงทุนจำนวนเงินคงที่ในคริปโตเคอเรนซี ตัวอย่างเช่น คุณอาจต้องการซื้อ SOL มูลค่า 100 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ Jupiter ยังรองรับคำสั่งแบบ Limit ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถเปิดสถานะเทรดใหม่ในราคาที่คุณต้องการได้

Jupiter ยังรองรับเครื่องมือการเทรดขั้นสูงด้วย มีชาร์ตแบบเรียลไทม์พร้อมการปรับแต่งเต็มรูปแบบ และยังมีสัญญา Perpetual Swap ด้วย Jupiter มีคริปโตเคอเรนซีของตัวเองคือ JUP แม้ว่า JUP จะติดอันดับ Exchange Crypto ชั้นนำหลายแห่ง แต่ราคาก็ลดลง 67% นับตั้งแต่เปิดตัวในเดือนมกราคม 2024

6. SushiSwap – DEX ที่ใช้งานง่ายสร้างบน Ethereum Framework

SushiSwap เป็น Decentralized Exchange ที่ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่ ไม่จำเป็นต้องสมัครบัญชีเพียงเชื่อมต่อกระเป๋าเงิน SushiSwap สร้างขึ้นบน Ethereum Framework จึงรองรับโทเค็น ERC-20 นับพันรายการ ตั้งแต่ Wrapped Bitcoin, USD Coin ไปจนถึง Yearn.finance และ Chainlink

เหมือนกับ Decentralized Exchange หลายแห่ง SushiSwap ก็รองรับการทำงานข้ามเครือข่าย โดยรองรับเครือข่ายยอดนิยม เช่น Arbitrum, Polygon, Binance Smart Chain และ Optimism นอกจากนี้ ยังรองรับ ThunderCore, Base, Gnosis และ Fantom ค่าธรรมเนียมการเทรดมาตรฐานที่ SushiSwap อยู่เพียง 0.3% ต่อครั้ง

อย่างไรก็ตาม การสวอปโทเค็นต่างมาตรฐานบล็อกเชนจะมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม ซึ่งกำหนดโดยผู้ให้บริการสภาพคล่อง SushiSwap ยังเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์ม Yield Farming ชั้นนำอีกด้วย มอบอัตราผลตอบแทนที่ดี โดยเฉพาะในคู่ที่มีระดับสภาพคล่องต่ำกว่า นอกจากนี้ SushiSwap ยังรองรับ Staking ด้วย

7. Raydium – ลงทุนในโปรเจ็กต์ Solana ใหม่ๆ ตั้งแต่เริ่มต้น

Raydium เป็นอีกหนึ่ง Decentralized Exchange ชั้นนำที่สร้างขึ้นบนเครือข่าย Solana เป็นหนึ่งในกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดสำหรับปริมาณการเทรดโทเค็นบน Solana โดย Raydium มีการซื้อขายมากกว่า 131 ล้านดอลลาร์ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา แพลตฟอร์ม Raydium นั้นใช้งานง่ายมาก เหมือนกับ Decentralized Exchange หลายแห่งเพียงแค่เชื่อมต่อกระเป๋าเงิน

Raydium ยังเป็นตัวเลือกที่ดีในการลงทุนในโปรเจ็กต์ Solana ใหม่ๆ ตั้งแต่เริ่มต้น เนื่องจาก Raydium มีแพลตฟอร์มระดมทุนสำหรับสตาร์ทอัพด้านคริปโต Raydium ไม่เพียงช่วยในเรื่องกระบวนการระดมทุนเท่านั้น แต่ยังช่วยเรื่องการลิสบนกระดานเทรดด้วย

Raydium ยังเป็นตัวเลือกที่ดีในการสร้างผลตอบแทนจากโทเค็นบน Solana เช่น คุณจะได้ APY 9.52% บน Liquidity Pool ของคู่ RAY/SOL นอกจากนี้ Raydium ยังมีข้อได้เปรียบ โดย Market Taker จ่ายเพียง 0.25% ต่อครั้งเท่านั้น ผู้ที่ถือโทเค็นหลักของ Raydium คือ RAY จะได้รับส่วนแบ่งจากค่าคอมมิชชั่นการซื้อขายด้วย

8. ApeSwap – Swap, Stake และกู้ยืมคริปโต ในศูนย์กลาง DEX เดียว

ต่อไปคือ ApeSwap ซึ่งเป็น Decentralized Exchange ใหม่ที่มีฟีเจอร์มากมาย รองรับคริปโตเคอเรนซีหลายพันสกุลใน 9 มาตรฐานเครือข่าย ได้แก่ Binance Smart Chain, Polygon, Optimism, Ethereum, Arbitrum, Gnosis, zkEVM, Fantom และ Avalanche

ApeSwap มีค่าใช้จ่ายย่อมเยา คุณจ่ายเพียง 0.2% ในคำสั่งซื้อและขาย ApeSwap ยังรองรับ Yield Farming Pool มากมาย ครอบคลุม Cross-Chain Pool เช่น IOTA/BNB, ADA/ETH และ BTC/BNB นอกจากนี้ ApeSwap ยังเป็นตัวเลือกที่ดีในการกู้ยืมคริปโตเคอเรนซีอีกด้วย

การวางหลักประกัน ซึ่งคุณสามารถเลือกจากสกุลเงินสินเชื่อหลากหลาย ได้แก่ Ethereum, Tether, USD Coin และ BNB ApeSwap ยังมีโทเค็นหลักคือ ABOND ซึ่งมีมูลค่าตลาดเพียง 3.7 ล้านดอลลาร์ ทำให้เป็นหนึ่งในคริปโตเคอเรนซี Micro-Cap (มูลค่าตลาดยังน้อย) ที่ดีที่สุดในการซื้อ

9. Trader Joe XYZ – DEX ชั้นนำสำหรับเทรดโทเค็นบน Avalanche

Trader Joe XYZ เป็น Decentralized Exchange ที่ดีที่สุดสำหรับการเทรดโทเค็นบน AVAX ซึ่งสร้างขึ้นบนเครือข่าย Avalanche มอบเงื่อนไขการเทรดที่มีประสิทธิภาพ นักเทรดจ่ายค่าคอมมิชชั่น 0.3% ต่อครั้ง ซึ่งสอดคล้องกับค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรม ในขณะที่ Trader Joe XYZ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเทรดโทเค็นบน AVAX แต่ก็ยังรองรับเครือข่ายอื่นๆ อีก 3 เครือข่าย

ได้แก่ Binance Smart Chain, Ethereum และ Arbitrum โดยรองรับการสวอปข้ามเครือข่าย เพื่อให้คุณสามารถเทรดคริปโตได้บนหลายเครือข่าย

Trader Joe XYZ ยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการสร้างผลตอบแทนอีกด้วย ตัวอย่างเช่น ผู้ที่ Staking โทเค็นหลักของ Exchange อย่าง sJOE จะได้รับ APY 5.56% อย่างไรก็ตาม Trader Joe XYZ ยังขาดเครื่องมือวิเคราะห์ระดับสูงอยู่บ้าง นอกจากนี้ ยังมีชาร์ตราคาจำกัด และรองรับเฉพาะประเภทคำสั่งพื้นฐานเท่านั้น

10. THORChain – ตัวเลือกที่ดีสำหรับบัญชีออมทรัพย์แบบกระจายศูนย์

THORChain เป็น Decentralized Exchange ยอดนิยมที่รองรับคริปโตเคอเรนซีที่ดีที่สุดในการซื้อ ได้แก่ Ethereum, Cosmos, Bitcoin Cash, Litecoin, Dogecoin และ BNB คุณสามารถสวอปโทเค็นที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องสร้างบัญชี รวมถึงการสวอปข้ามเครือข่ายด้วย

สำหรับค่าธรรมเนียมการเทรด THORChain คิด 0.3% ต่อครั้ง ซึ่งเป็นอัตราเดียวกันสำหรับคำสั่งซื้อขายข้ามเครือข่ายด้วย นับว่าคุ้มค่ามาก ยิ่งไปกว่านั้น คุณสามารถลดค่าธรรมเนียมการเทรดได้ด้วยการถือโทเค็น vTHOR

ยิ่งคุณถือ vTHOR มากเท่าไร ก็จะได้ส่วนลดมากขึ้นเท่านั้น THORChain เป็นตัวเลือกที่ดีมากสำหรับการฝากโทเค็นที่ไม่ได้ใช้งานเข้าบัญชีออมทรัพย์แบบกระจายศูนย์ คุณจะได้ APY 16.05% และ 21.30% จาก BNB และ Cosmos ตามลำดับ และยังได้ 5.12% สำหรับเงินฝาก Dogecoin อีกด้วย

11. QuickSwap – เครื่องมือชาร์ตขั้นสูงพร้อม Technical Indicator

QuickSwap เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับนักเทรดมือฉมังที่ต้องการเครื่องมือชาร์ตขั้นสูง โดยมีชาร์ตราคาเต็มรูปแบบพร้อมราคาแบบเรียลไทม์ รวมถึง Technical Indicator ครบชุด ไม่ว่าจะเป็น MACD, MA Cross, Chop Zone, Parabolic SAR และ Trend Strength Index

อีกหนึ่งข้อดีคือ QuickSwap สร้างขึ้นบนเครือข่าย Polygon ซึ่งหมายความว่าธุรกรรมจะได้รับการประมวลผลอย่างรวดเร็วและคุ้มค่า

อย่างไรก็ตาม QuickSwap ยังรองรับมาตรฐานเครือข่ายอื่นๆ ด้วย ได้แก่ Ethereum, DogeChain, Kava และ zKatana QuickSwap ยังได้รับความนิยมจาก Perpetual Swap โดยมีตลาดรองรับ Bitcoin, Ethereum และ Polygon ซึ่งแต่ละคู่จับคู่กับดอลลาร์สหรัฐ แม้ว่า QuickSwap จะมีระบบเชื่อมต่อกับเงินเฟียต แต่จะต้องผ่านขั้นตอน KYC

12. Helix – ใช้บอทอัตโนมัติในการเทรดแบบกระจายศูนย์

สุดท้ายในรายการ Decentralized Exchange คือ Helix เราพบว่า Helix ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างและใช้บอทอัตโนมัติได้ ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถเทรดบน Decentralized Exchange ได้โดยไม่ต้องลงมือทำเอง เพียงแค่ตั้งค่าพารามิเตอร์บอทและปล่อยให้บอทเทรดแทนคุณ

บอท Helix สามารถเทรดคริปโตเคอเรนซีได้มากมาย รวมถึง Cosmos, Solana, Tether และ Injective นอกจากนี้ Helix ยังมีเครื่องมือชาร์ตพร้อมหลายช่วงเวลา รวมถึง Order Book แบบกระจายศูนย์

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังไม่รองรับ Technical Indicator และเครื่องมือวาดกราฟ แม้ว่า Helix จะเหมาะสำหรับนักเทรดคริปโตที่มีประสบการณ์ แต่ก็มีฟีเจอร์สำหรับการสวอปแบบง่ายๆ ด้วย เพียงแค่เลือกว่าต้องการแลกเปลี่ยนคริปโตเคอเรนซีใด เชื่อมต่อกระเป๋าเงิน แล้วยืนยันคำสั่ง

เราเลือก Decentralized Exchange ที่ดีที่สุดได้อย่างไร

ตาม CoinMarketCap มี Decentralized Exchange อยู่หลายร้อยแห่งในตลาด โดยมีปริมาณการซื้อขายรายวันตั้งแต่ไม่กี่ดอลลาร์ไปจนถึงกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งหมายความว่าคุณมีตัวเลือกมากมายเมื่อเลือก Exchange

ในส่วนนี้ เราจะเปิดเผยวิธีการจัดอันดับ Decentralized Exchange ที่ดีที่สุดสำหรับหน้าการเปรียบเทียบนี้

เครือข่ายที่รองรับ

อย่างแรก เราประเมินว่า Decentralized Exchange แต่ละแห่งรองรับเครือข่ายบล็อกเชนใดบ้าง ตัวอย่างเช่น หากรองรับเครือข่าย Ethereum Exchange ก็น่าจะลิสต์โทเค็น ERC-20 นับพันรายการ ในทำนองเดียวกัน คุณจะพบโทเค็น BEP-20 นับพันรายการ หาก Exchange รองรับ Binance Smart Chain 

เหตุผลคือทุกคนสามารถเพิ่มโทเค็นคริปโตเคอเรนซีเข้าไปใน Decentralized Exchange ได้ ตราบใดที่มี Liquidity Pool ผู้ซื้อและผู้ขายก็สามารถเทรดได้ นอกจากนี้ Decentralized Exchange ชั้นนำยังรองรับการซื้อขายข้ามเครือข่ายด้วย ตัวอย่างเช่น คุณอาจสามารถเทรด Ethereum กับ BNB ได้ แม้ว่าจะทำงานบนคนละเครือข่ายก็ตาม

สภาพคล่อง

สภาพคล่องมีความสำคัญมากเมื่อศึกษาเกี่ยวกับ Decentralized Exchange ตามที่เราได้กล่าวมาแล้ว จะมีการใช้ Liquidity Pool แทน Order Book แบบรวมศูนย์ ดังนั้น หากมีโทเค็นไม่เพียงพอใน Liquidity Pool นักลงทุนจะไม่สามารถทำการสวอปให้เสร็จสิ้นได้

• ตัวอย่างเช่น พิจารณา Liquidity Pool ของ ETH/USDT
• สมมติว่ามี ETH 2 เหรียญและ USDT 5,500 ดอลลาร์
• อย่างไรก็ตาม คุณต้องการสวอป ETH 3 เหรียญเป็น USDT
• ในกรณีนี้ จะมีสภาพคล่องไม่เพียงพอ

ถึงแม้ว่าปัญหานี้จะไม่ค่อยเกิดขึ้นเมื่อเทรดคริปโตเคอเรนซีที่มีมูลค่าตลาดสูงอย่าง Ethereum, Tether, USD Coin, BNB หรือ Solana แต่อาจเป็นปัญหาได้เมื่อลงทุนในโทเค็นที่มีมูลค่าตลาดต่ำ

ค่าธรรมเนียม

Decentralized Exchange หารายได้โดยการเก็บค่าธรรมเนียมการซื้อขาย ซึ่งมักจะเป็นค่าคอมมิชชันที่เล็กมาก โดยเฉลี่ยประมาณ 0.1% – 0.3% ของจำนวนเงินที่ซื้อขาย

คุณควรตรวจสอบค่า Spread เฉลี่ยในคู่ที่คุณชอบด้วย หากระยะห่างระหว่างราคาซื้อและขายห่างเกินไป คุณอาจไม่ได้ราคาที่ดีมากนัก

Slippage เป็นอีกหนึ่งค่าธรรมเนียมทางอ้อมที่ต้องคำนึงถึงเมื่อเลือก Decentralized Exchange สิ่งนี้เกิดขึ้นเมื่อคุณวางคำสั่งเทรด แต่มีการดำเนินการในราคาที่แตกต่างเล็กน้อย ตัวอย่างเช่น คุณอาจซื้อ Solana ที่ 117 ดอลลาร์ แต่พบว่าจ่ายจริง 118 ดอลลาร์

ความปลอดภัย

Decentralized Exchange ได้รับการพิจารณาว่าปลอดภัยกว่ากระดานเทรดคริปโตแบบดั้งเดิมมาก เนื่องจากโทเค็นคริปโตเคอเรนซีของคุณจะไม่ถูกถือครองโดยแพลตฟอร์ม แต่ทุกอย่างจะถูกดำเนินการโดย Smart Contract และ Liquidity Pool

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องตรวจสอบว่า Decentralized Exchange ผ่านการตรวจสอบแล้ว ซึ่งจะช่วยให้มั่นใจว่า Smart Contract ที่ใช้นั้นปลอดภัย มั่นคง และปราศจากช่องโหว่

นอกจากนี้ เรายังชอบ Decentralized Exchange ที่มีโปรแกรมรางวัลสำหรับนักพัฒนา (Bug Bounty Program) ซึ่งจะให้รางวัลแก่นักพัฒนาเมื่อพวกเขาพบบั๊กและช่องโหว่ที่แฮกเกอร์อาจใช้ประโยชน์ได้

ผลิตภัณฑ์ DeFi และผลตอบแทน

เราให้ความสำคัญกับ Decentralized Exchange ที่มีผลิตภัณฑ์ DeFi พร้อมผลตอบแทนที่ได้เปรียบ ซึ่งควรรวมถึง Yield Farming ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถนำคริปโตเคอเรนซีที่ว่างอยู่ไปใส่ใน Liquidity Pool แล้วพวกเขาจะได้รับส่วนแบ่งจากค่าธรรมเนียมการซื้อขายที่เกิดขึ้น

Staking ก็ได้รับความนิยมใน Decentralized Exchange ด้วยเช่นกัน ลองศึกษาปัจจัยต่างๆ เช่น เหรียญที่รองรับ Staking ผลตอบแทนเฉลี่ย และเงื่อนไขการล็อกขั้นต่ำ

Decentralized Exchange บางแห่งยังให้บริการกู้ยืมด้วย ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถกู้ยืมคริปโตเคอเรนซีจากผู้ใช้อื่นได้โดยไม่ต้องผ่านบุคคลที่สาม โดยคุณจะต้องฝากหลักประกันเพื่อขอสินเชื่อและชำระคืนเงินพร้อมดอกเบี้ย

เทรดคริปโตบน DEX Exchange ได้อย่างไร: 3 ขั้นตอน

การเทรดบน Decentralized Exchange เป็นครั้งแรกอาจทำให้รู้สึกเหนื่อยใจได้ ต่อไป เราจะอธิบายวิธีวางคำสั่งเทรดคริปโตแบบกระจายศูนย์อย่างง่ายๆ ใน 3 ขั้นตอน

ขั้นตอนที่ 1: เชื่อมต่อกระเป๋าเงินของคุณ

หนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดของ Decentralized Exchange คือคุณไม่จำเป็นต้องเปิดบัญชี และไม่ต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคล รายละเอียดการติดต่อ หรือเอกสารยืนยันตัวตนใดๆ แต่เพียงแค่เข้าไปที่ Exchange ที่คุณชื่นชอบและเชื่อมต่อกระเป๋าเงิน 

กระเป๋าเงินคริปโตที่ดีที่สุดสำหรับการเทรดแบบกระจายศูนย์คือ Trust Wallet และ MetaMask แต่ก็มีอีกหลายตัวเลือก คุณอาจต้องยืนยันคำขอการเชื่อมต่อจากในกระเป๋าเงินของคุณ ซึ่งจะช่วยให้มั่นใจว่าเป็นตัวคุณจริงๆ ที่ส่งคำขอ

ขั้นตอนที่ 2: เลือกคู่ซื้อขายและจำนวนเงิน

ตอนนี้กระเป๋าเงินของคุณเชื่อมต่อแล้ว คุณสามารถเลือกว่าจะเทรดคริปโตเคอเรนซีใดบ้าง อย่างแรก คุณจะต้องเลือกคริปโตเคอเรนซีที่ต้องการสวอป โดยควรเป็นคริปโตเคอเรนซีที่อยู่ในกระเป๋าเงินของคุณในปัจจุบัน ต่อมา ให้เลือกคริปโตเคอเรนซีที่ต้องการได้รับ คุณยังต้องพิมพ์จำนวนเงินที่ต้องการเทรดด้วย 

ซึ่งควรแสดงเป็นจำนวนโทเค็น จากนั้นจำนวนโทเค็นที่เทียบเท่าจะแสดงแบบเรียลไทม์ โดยสิ่งสำคัญ คุณอาจต้องเพิ่มเปอร์เซ็นต์ Slippage นี่คือความแตกต่างสูงสุดระหว่างราคาปัจจุบันและราคาดำเนินการของคริปโตเคอเรนซีที่คุณต้องการเทรด

ตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณตั้งค่า Slippage ไว้ที่ 3% ซึ่งหมายความว่า Exchange จะดำเนินการเทรดก็ต่อเมื่อราคาไม่ห่างเกิน 3% เท่านั้น

ขั้นตอนที่ 3: วางคำสั่งเทรดของคุณ

ตอนนี้คุณสามารถวางคำสั่งเทรดได้แล้ว การสวอปโทเค็นควรเสร็จสิ้นภายในไม่กี่วินาทีเบื้องหลัง Smart Contract โดยจะหักโทเค็นจากกระเป๋าเงินของคุณแล้วนำไปใส่ใน Liquidity Pool

จากนั้น Smart Contact จะฝากคริปโตเคอเรนซีใหม่เข้ากระเป๋าเงินของคุณ หากคุณเทรดเสร็จแล้ว ให้ยกเลิกการเชื่อมต่อกระเป๋าเงินของคุณจาก Decentralized Exchange

หากการสวอปล้มเหลว มักจะเป็นเพราะ Slippage ซึ่งเราได้พูดถึงไปข้างต้นแล้ว

ข้อดีของการใช้ DEX คืออะไร

ส่วนนี้ครอบคลุมข้อดีหลักๆ ของ Decentralized Exchange ซึ่งรวมถึงการมีอำนาจควบคุมคริปโตเคอเรนซีได้อย่างเต็มที่ ความปลอดภัยที่สูงขึ้น การเข้าถึงได้ทั่วโลก และความสามารถในการเทรดแบบไม่ระบุตัวตน

การควบคุมโดยผู้ใช้ได้อย่างเต็มที่และความปลอดภัย

Decentralized Exchange ทำให้มั่นใจได้ว่าคุณจะยังคงมีอำนาจควบคุมคริปโตเคอเรนซีของตนได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากคุณจะไม่ถูกกำหนดให้ต้องฝากเงิน หรือเก็บคริปโตเคอเรนซีไว้กับ Exchange แต่คุณจะซื้อและขายคริปโตผ่าน Smart Contract

สิ่งที่คุณต้องทำคือเชื่อมต่อกระเป๋าเงินแล้วเลือกว่าจะเทรดคริปโตเคอเรนซีใด จากนั้น Smart Contract จะดำเนินการแลกเปลี่ยนโดยไม่ต้องสัมผัสเงินของคุณเลย

ลองเปรียบเทียบกับกระดานเทรดคริปโตแบบดั้งเดิม คุณจะต้องฝากเงินเข้าไปในกระเป๋าเงินของ Exchange ซึ่งคุณไม่มีคีย์ส่วนตัว ซึ่งหมายความว่าคุณต้องเชื่อใจว่าคริปโตเคอเรนซีของคุณจะปลอดภัย แต่โปรดจำไว้ว่ากระดานเทรดคริปโตหลายแห่งถูกแฮก ส่งผลให้เงินหลายพันล้านดอลลาร์ถูกขโมยไป

เข้าถึงได้ทั่วโลก

Decentralized Exchange สามารถเข้าถึงได้ทั่วโลก ซึ่งหมายความว่า ต่างจาก Exchange แบบรวมศูนย์ จะไม่มีข้อจำกัดเฉพาะประเทศ ใครก็ตามสามารถเข้าสู่ Decentralized Exchange เชื่อมต่อกระเป๋าเงิน และสวอปโทเค็นได้

ไม่มีข้อกำหนด KYC

กระดานเทรดคริปโตชั้นนำส่วนใหญ่ได้นำกระบวนการ KYC มาใช้ ซึ่งหมายความว่าคุณจะต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลและรายละเอียดการติดต่อเมื่อลงทะเบียน KYC ยังรวมถึงการอัปโหลดเอกสารยืนยันตัวตน เช่น หนังสือเดินทางหรือใบขับขี่ สิ่งนี้ทำให้มั่นใจว่า Exchange แบบรวมศูนย์จะปฏิบัติตามกฎหมายป้องกันการฟอกเงินทั่วโลก

ในทางตรงกันข้าม Decentralized Exchange ไม่ได้ใช้การตรวจสอบ KYC ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องเปิดบัญชีหรือให้ข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ กระบวนการเทรดแบบกระจายศูนย์นั้นเป็นแบบไม่ระบุชื่อทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม มีข้อยกเว้นหนึ่งข้อสำหรับกฎนี้ Decentralized Exchange บางแห่งร่วมมือกับ “Fiat Gateway” ซึ่งช่วยให้ลูกค้าของพวกเขาสามารถซื้อคริปโตเคอเรนซีด้วยบัตรเดบิต/เครดิตได้ Fiat Gateway จะต้อง KYC ผู้ซื้อ ดังนั้น ผู้ที่ต้องการเทรดแบบไม่ระบุตัวตนควรหลีกเลี่ยงการชำระเงินด้วยเงินเฟียต

อะไรคือความเสี่ยงของการใช้ DEX?

เรายังพบความเสี่ยงบางประการเมื่อศึกษาเกี่ยวกับ Decentralized Exchange ได้แก่ ขั้นตอนการเทรดที่ซับซ้อนขึ้น ความล่าช้าของธุรกรรม สภาพคล่องที่จำกัด และความเสี่ยงจาก Smart Contract

ความซับซ้อนและความล่าช้าของธุรกรรม

Decentralized Exchange อาจใช้งานได้ซับซ้อนกว่ากระดานเทรดคริปโตแบบดั้งเดิมมาก คุณจะต้องมีความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับหลักการสำคัญบางประการของคริปโตเคอเรนซี

• ตัวอย่างเช่น คุณจะต้องมีกระเป๋าเงินที่เหมาะสมพร้อมโทเค็นคริปโตเคอเรนซีอยู่ข้างใน
• จากนั้นคุณจะต้องเชื่อมต่อกระเป๋าเงินเข้ากับ Exchange
• หลังจากนั้น คุณจะต้องประเมินระดับสภาพคล่อง ปริมาณการซื้อขาย ราคาตลาด และความเสี่ยงจาก Slippage ที่อาจเกิดขึ้น

• ข้อผิดพลาดอาจส่งผลให้ได้ราคาที่ไม่เหมาะสมอย่างมาก

ในทางตรงกันข้าม กระดานเทรดคริปโตที่ดีที่สุดมักจะมอบประสบการณ์การลงทุนที่ราบรื่นและไม่ยุ่งยาก โดยปกติแล้วจะเป็นการเลือกว่าจะซื้อคริปโตเคอเรนซีใด และกรอกรายละเอียดบัตรเดบิต/เครดิตเท่านั้น

นอกจากนี้ เรายังพบว่าธุรกรรมมักจะล่าช้าเมื่อใช้ Decentralized Exchange ทั้งนี้เพราะแพลตฟอร์มต่างๆ ต้องพึ่งพา Smart Contract และเครือข่ายบล็อกเชน หากเครือข่ายมีความต้องการสูง อาจเกิดความล่าช้าได้ กระดานเทรดคริปโตแบบรวมศูนย์จะดำเนินการซื้อขายภายในผ่าน Order Book ซึ่งหมายความว่าความเร็วในการทำธุรกรรมจะเร็วเกือบจะทันที

สภาพคล่องและปริมาณการซื้อขายที่จำกัด

Decentralized Exchange มีสภาพคล่องเพียงเศษเสี้ยวเมื่อเทียบกับกระดานเทรดแบบดั้งเดิม ตัวอย่างเช่น ตามข้อมูลของ CoinGecko ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีการซื้อขายคริปโตมูลค่า 4.3 พันล้านดอลลาร์บน Decentralized Exchange ทั้งหมด ในช่วงเวลาเดียวกัน บน Binance แพลตฟอร์มเดียวมีการซื้อขายเกือบ 19 พันล้านดอลลาร์ 

เมื่อคุณนำ Coinbase, Bybit, OKX, KuCoin, Kraken, Gate.io และแพลตฟอร์มชั้นนำอื่นๆ เข้ามาพิจารณาด้วย คุณจะเห็นว่าปริมาณการซื้อขายแบบกระจายศูนย์นั้นเป็นเพียงเศษเสี้ยวเมื่อเทียบกับปริมาณรวมทั้งหมด สิ่งนี้ส่งผลให้ระดับสภาพคล่องอ่อนแอลง ซึ่งหมายถึงสภาวะการซื้อขายที่ไม่มีประสิทธิภาพ เนื่องจากนักลงทุนอาจต้องยอมรับราคาที่ไม่เป็นใจเพื่อซื้อหรือขาย

ความเสี่ยงจาก Smart Contract

โดยทั่วไปแล้ว Decentralized Exchange ถือว่าปลอดภัยกว่าแพลตฟอร์มแบบรวมศูนย์ อย่างไรก็ตาม คุณยังต้องคำนึงถึงความเสี่ยงจาก Smart Contract ด้วย เพราะ Smart Contract ไม่ได้ปลอดภัย 100% เสมอไป หากแฮกเกอร์พบช่องโหว่ อาจทำให้สูญเสียเงินได้

ตัวอย่างเช่น KyberSwap ซึ่งเป็น Decentralized Exchange ถูกแฮกเป็นมูลค่า 50 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว ดังนั้นคุณควรใช้ Decentralized Exchange เฉพาะที่มีการตรวจสอบ Smart Contract แล้วเท่านั้น ซึ่งควรเป็นการตรวจสอบอย่างละเอียดและโปร่งใสจากบุคคลที่สามที่มีชื่อเสียง

สรุป: DEX ที่ดีที่สุดคืออะไร

Decentralized Exchange มอบประโยชน์มากมาย รวมถึงการไม่ระบุตัวตน การสวอปโทเค็นแบบข้ามเครือข่าย และความสามารถในการซื้อขายโดยไม่ต้องพึ่งพา Order Book แบบรวมศูนย์ โดยรวมแล้ว OKX ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

OKX รองรับสกุลเงินคริปโตนับพันสกุลบนมาตรฐานเครือข่ายมากกว่า 70 เครือข่าย นอกจากนี้ยังมีตัวรวม Bridge ซึ่งหมายความว่าคุณจะได้ผลตอบแทน DeFi ที่ดีที่สุดในตลาด

คำถามที่พบบ่อย

Decentralized Exchange ที่ดีที่สุดคืออะไร?

OKX เป็น Decentralized Exchange ที่ดีที่สุด รองรับมาตรฐานเครือข่ายมากกว่า 70 เครือข่าย ใช้งานได้กับอุปกรณ์หลากหลายประเภท และมอบผลตอบแทน DeFi ที่ดีที่สุดในวงการ

ควรเทรดคริปโตเคอเรนซี่บน DEX หรือไม่?

Crypto DEX เหมาะอย่างยิ่งหากคุณต้องการเทรดคริปโตแบบไม่ระบุตัวตน ซึ่งหมายถึงไม่ต้องพึ่งพาบุคคลที่สามแบบรวมศูนย์และไม่จำเป็นต้องเปิดบัญชีด้วย เพียงแค่เชื่อมต่อกระเป๋าเงินและเริ่มเทรดได้เลย

Decentralized Exchange ที่ถูกที่สุดคืออะไร?

Nomiswap ถือเป็น Decentralized Exchange ที่ถูกที่สุด เนื่องจากไม่คิดค่าคอมมิชชันในการสวอปโทเค็น อย่างไรก็ตาม Nomiswap มักประสบปัญหาในการดึงดูดสภาพคล่องที่เพียงพอ

Decentralized Exchange ปลอดภัยหรือไม่?

โดยทั่วไปแล้ว Decentralized Exchange ถือว่าปลอดภัย เนื่องจากการซื้อขายจะดำเนินการโดย Smart Contract ซึ่งหมายความว่า Decentralized Exchange จะไม่ได้สัมผัสเงินของลูกค้าโดยตรง อย่างไรก็ตาม หาก Smart Contract ของ Exchange ถูกแฮก อาจทำให้สูญเสียเงินได้

แหล่งอ้างอิง

1. Crypto exchanges keep getting hacked, and there’s little anyone can do (NBC News)
2. Opinion: Why crypto businesses need anti-money laundering regulations (World Economic Forum)
3. KyberSwap offers 10% bounty to attacker who made off with $50M (Business Insider)
4. Top cryptocurrency decentralized exchanges (CoinMarketCap)