14 เหรียญ Web 3.0 น่าลงทุนในปี 2024

Web 3.0 คือยุคใหม่ของอินเทอร์เน็ต ที่นำเทคโนโลยีบล็อกเชน (blockchain) มาใช้ในการให้บริการแพลตฟอร์มกระจายศูนย์ (decentralized protocols) ผ่านโทเค็นคริปโตเคอร์เรนซีต่างๆ เหรียญ Web3.0 ที่ดีที่สุดประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเหล่านี้เพื่อให้บริการที่หลากหลาย

เนื่องจากคาดว่าเหรียญเว็บ 3.0 จะเติบโตอย่างรวดเร็วในทศวรรษหน้า บทความนี้จึงรวบรวมโปรเจกต์ Web 3.0 ที่น่าสนใจที่สุดในปี 2024 มาให้ทบทวนกัน

วิเคราะห์เหรียญ Web 3.0 ที่ดีที่สุด

โทเค็น web 3.0 ที่ดีที่สุดมีประโยชน์ใช้งานเฉพาะด้านผ่านโปรโตคอลกระจายศูนย์ นอกจากนี้ บางเหรียญในรายการนี้ก็ให้ผลตอบแทนสูงแก่นักลงทุนด้วย และยังมีศักยภาพที่จะเติบโตต่อไปอีก ต่อไปจะเป็นการวิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับเหรียญเว็ป 3.0 ที่ดีที่สุดในปี 2024

1. Dogeverse – เหรียญใหม่ที่รองรับเครือข่ายกว่า 6 รายการ พร้อมให้ผลตอบแทน 600,000%

Dogeverse (DOGEVERSE) ถือเป็นเหรียญ Web 3 ที่กำลังเป็นที่นิยมในตอนนี้ โดยจะเปิดให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงได้บนเครือข่ายมากมาย เช่น Ethereum, Binance และ Polygon ซึ่งในอนาคต ทางทีมงานจะเปิดให้เข้าถึงเหรียญผ่าน Solana, Base และ Avalanche 

Dogeverse จึงถือเป็นเหรียญ Multichain ที่จะกระตุ้นให้สมาชิกภายในคอมมิวนิตี้เหรียญมีมสามารถซื้อเหรียญได้ง่ายยิ่งขึ้น ในตอนนี้ DOGEVERSE กำลังเสนอผลตอบแทนกว่า 600,000% ต่อปีแม้จะยังอยู่ในช่วงพรีเซลล์ โดยจะแจกจ่ายรางวัลเป็นระยะเวลาสองปีด้วยกัน

นักลงทุนทุกคนสามารถรับผลตอบแทนได้โดยการเข้าไปที่หน้าเว็บ Dogeverse และเชื่อมต่อเข้ากับ MetaMask Wallet เพื่อทำการซื้อเหรียญในช่วงพรีเซลล์ โปรดเตรียม ETH, BNB, MATIC และ USDT เอาไว้สำหรับการซื้อเหรียญ

หลังจากที่ Dogeverse เปิดตัวในช่วงพรีเซลล์ไปได้ไม่นาน ทางโปรเจกต์ก็สามารถระดมทุนไปได้แล้วกว่า 250,000 ดอลลาร์​ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างน่าประทับใจ เมื่อพิจารณาว่าวัน Doge Day กำลังจะมาถึงในวันที่ 20 เมษายนนี้แล้ว

ทีมงานยังกำหนดอุปทานเอาไว้ที่ 200 พันล้านโทเค็น ซึ่งเปิดขาย 15% ของอุปทานทั้งหมด และอีก 25% จะใช้เพื่อการพัฒนาและการตลาด ซึ่งอาจทำให้ Dogeverse สามารถเติบโตได้อีกมากเมื่อเหรียญรองรับ Blockchain ทั้งหมด

นักลงทุนที่สนใจสามารถติดตาม Dogeverse บน X และเข้าร่วมช่อง Dogeverse Telegram เพื่อรับข่าวสารล่าสุด และอย่าลืมอ่าน Dogeverse Whitepaper หากต้องการทราบรายละเอียดแบบเจาะลึก

2. WienerAI — เหรียญมีมอนาคตไกลที่มีโอกาสเติบโตอย่างรวดเร็ว

WienerAI ($WAI) เป็นหนึ่งในเหรียญมีมที่มีศักยภาพ และปัจจุบันสามารถซื้อขายพรีเซลได้บนเว็บไซต์ โครงการนี้เพิ่งเริ่มต้นได้ไม่นาน แต่ก็ดูจะไปได้สวยเพราะสามารถระดมทุนได้อย่างรวดเร็ว และปัจจุบันมียอดการขายพรีเซลมากกว่า 360,000 ดอลลาร์แล้ว

ด้วยความสำเร็จนี้ ทำให้หลายคนมองการณ์ไกลไปถึงการลิสบนกระดานแลกเปลี่ยนในอนาคต และเชื่อว่านี่จะเป็นเหรียญมีมที่เติบโตได้แบบทวีคูณในอนาคตอันใกล้นี้

เหตุผลสำคัญน่าจะเป็นเพราะการออกแบบที่แยบยล โดย WienerAI จะมีธีมเป็น “สุนัข” และมีการใช้ AI เข้ามาเพิ่มจุดเด่นให้กับโครงการ และช่วยทำให้โทเค็นดังกล่าวเข้าถึงได้ง่ายขึ้น 

นอกจากนี้ WienerAI ยังมุ่งเน้นการอัปเกรดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง เพราะมีการใช้ AI เป็นเทคโนโลยีที่คอยสนับสนุนการเติบโตอยู่เบื้องหลัง 

โทเค็นนี้มีฟีเจอร์ที่สำคัญในการหารายได้ด้วยการ Stake ซึ่งส่งเสริมให้ผู้ถือเหรียญล็อกเหรียญเอาไว้ในโครงการ และให้ผลตอบแทนที่สูงหลายเท่าตัวเป็นการตอบแทน และปัจจุบันก็มีผู้ถือเหรียญจำนวนมากที่ใช้ฟีเจอร์นี้ในการสร้างผลกำไรแบบพาสซีฟ

ด้วยเหตุผลทั้งหมดทั้งมวลนี้ WienerAI จึงเป็นเหรียญ Web 3.0 น่าลงทุน ซึ่งคุณสามารถใช้โซเชียลมีเดียทั้ง Twitter และ Telegram เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของโครงการได้ตลอดเวลา

3. Mega Dice Token – โทเค็น GambleFi ที่ได้รับความสนใจในการขายพรีเซลอย่างรวดเร็ว

Mega Dice เป็นคาสิโนคริปโตที่มีรูปแบบการเล่นเกมแบบ web3 ซึ่งมีผลให้แพลตฟอร์มดังกล่าวได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานอย่างรวดเร็ว ทำให้เราเชื่อได้ว่า GambleFi จะกลายเป็นหนึ่งในภาคส่วนที่ทำรายได้สูงสุดในวงการคริปโต และจะมีผู้ใช้งานใหม่ ๆ หลั่งไหลเข้าสู่คาสิโนแห่งนี้อย่างต่อเนื่อง

คาสิโน Mega Dice เพิ่งเปิดตัว Mega Dice Token ซึ่งอยู่ในช่วงการจำหน่ายพรีเซล และยอดขายพุ่งทะลุ 400,000 ดอลลาร์ภายในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ซึ่งน่าจะเป็นเพราะเงินรางวัลที่สูงและประโยชน์งานที่ดึงดูดความสนใจของนักลงทุนคริปโตได้เป็นอย่างดี

Mega Dice Token จึงถือเป็นเหรียญ Web 3.0 ที่น่าสนใจในปี 2024 ด้วยการมีฐานผู้ใช้งานจากคาสิโนที่มีชื่อเสียงเป็นทุนเดิม และมีผู้เล่นมากกว่า 10,000 รายต่อเดือน นอกจากนี้ ยังสร้างขึ้นบนบล็อกเชน Solana ซึ่งรองรับความรวดเร็วในการทำธุรกรรม และสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี 

Mega Dice Casino ทำงานบน Telegram และมีลักษณะการทำงานแบบ decentralized หากคุณต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการขยายระบบนิเวศนี้ให้เติบโตขึ้น สามารถซื้อโทเค็นใหม่ที่ให้รางวัลแก่ผู้เล่นอย่างมหาศาลที่เว็บไซต์ของโครงการได้เลย

หรืออ่านไวท์เปเปอร์ Mega Dice Token และเข้าร่วมช่อง Telegram เพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติม

4. 99Bitcoins – แพลตฟอร์ม Learn to Earn ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 700,000 คน

ในช่วงปี 2010 โปรเจกต์ 99Bitcoins ได้เปิดตัวแพลตฟอร์มเพื่อการศึกษาเกี่ยวกับเหรียญคริปโตและมียอดผู้ติดตามมากกว่า 700,000 คนแล้วเรียบร้อย โดยในปี 2024 ทาง 99Bitcoins ก็กำลังจะเปลี่ยนระบบนิเวศเป็นแพลตฟอร์ม Learn2Earn ที่สามารถสร้างรายได้ได้ 

$99BTC เป็นเหรียญหลักของแพลตฟอร์ม ซึ่งผู้ใช้สามารถรับรางวัลเป็นเหรียญดังกล่าวโดยการเข้าร่วมหลักสูตรและแบบทดสอบที่สามารถโต้ตอบได้ แม้ว่า 99Bitcoins จะถูกสร้างขึ้นบน Ethereum Blockchain แต่ในอีกไม่ช้า ทางทีมงานจะทำการ Bridge ไปใช้ Bitcoin Blockchain พร้อมเปลี่ยนให้เหรียญมาอยู่ในกลุ่ม BRC-20 แทน

ด้วยความมั่นคงของ Bitcoin Blockchain เหรียญในกลุ่ม BRC-20 จึงช่วยการันตีว่านักพัฒนาจะสามารถสร้าง NFT และ DApp บนแพลตฟอร์มได้อย่างง่ายดาย โดย $99BTC ถือเป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตที่น่าซื้อมากที่สุด แม้จะเพิ่งเปิดตัวพรีเซลล์ไปได้ไม่นาน 

จากอุปทานทั้งหมด 99 พันล้านเหรียญ ทางโปรเจกต์ได้จัดสรร 14.85 พันล้านเหรียญเพื่อเป็นรางวัลในช่วงพรีเซลล์ และในขณะที่เขียนบทความ $99BTC มีราคาอยู่ที่ 0.001 ดอลลาร์ต่อโทเค็น นับตั้งแต่เปิดตัวพรีเซลล์ไป ทาง 99Bitcoins ก็สามารถระดมทุนไปได้แล้วมากกว่า 100,000 ดอลลาร์ $99BTC เป็นเหรียญที่มียูทิลิตี้มากมาย ทั้งยังสามารถนำไป Stake ได้บนสัญญาอัจฉริยะเพื่อสร้างผลตอบแทนได้มหาศาล ในตอนนี้ คุณสามารถรับผลตอบแทนจากการ Staking ได้มากกว่า 70,000% ต่อปี เมื่อรวมเข้ากับหลักสูตรและข้อมูลเพื่อการศึกษาของแพลตฟอร์ม จึงทำให้ 99Bitcoins เป็นเหรียญคริปโตที่น่าซื้อที่สุดในตอนนี้ได้ไม่ยาก 

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม นักลงทุนสามารถอ่าน 99Bitcoins Whitepaper และเข้าร่วมช่อง Telegram 

5. 5th Scape – เหรียญที่เตรียมเปิดตัวเกม Metaverse และเทคโนโลยี VR ในเร็วๆ นี้

5th Scape เป็นเหรียญ Web 3 ที่รวมเอาเกม VR บน Blockchain และเทคโนโลยีต่างๆ เอาไว้ด้วยกันอย่างลงตัว โดยหลายคนคาดว่าโปรเจกต์จะสามารถเอาชนะ Meta Quest และ Oculus Rift  ในด้านการเล่นเกมด้วยแว่น VR และโลกเกม Metaverse ได้อย่างง่ายดายทีมงานของ 5th Scape มีประสบการณ์อย่างมากในการพัฒนาเกม VR และกำลังมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเกมแรกในชื่อ Cage Conquest ที่ผู้เล่นจะสามารถสวมบทบาทเป็นนักมวยสากล MMA ซึ่งมีคาดการณ์ว่าจะเปิดตัวก่อนสิ้นปี 2024 

สำหรับใครก็ตามที่ซื้อเหรียญในช่วง Pre-sale ก็จะได้รับสิทธิ์พิเศษในการเข้าถึงเกม Cage Conquest ในเวอร์ชันทดลอง โดยตอนนี้ โปรเจกต์ระดมทุนได้แล้วกว่า 500,000 ดอลลาร์และยังสามารถนำเหรียญไป Stake เพื่อรับผลตอบแทนได้เพิ่มเติมอีกด้วย โปรดเข้าร่วมช่อง Telegram เพื่อรับข่าวสารล่าสุดก่อนใคร

6. Sponge V2 – เหรียญ Web3 ยอดเยี่ยมที่ให้ APY Staking 400% และมีเกม play-to-earn ที่กำลังจะมา

Sponge V2 สานต่อความสำเร็จของเหรียญมีมยอดนิยม Sponge V1 ซึ่งมี market cap สูงสุดถึง 100 ล้านดอลลาร์ในปี 2023 ให้ผลตอบแทน 100 เท่าแก่นักลงทุนรุ่นแรกๆ Sponge V2 วางแผนที่จะทำได้ดีกว่ารุ่นก่อน

ด้วยยูทิลิตี้ของโทเค็นเป็นเกมแข่งรถแบบ play-to-earn ที่กำลังจะเปิดตัวผู้ถือ Sponge V1 สามารถนำโทเค็นไป Stake บนเว็บไซต์ Sponge V2 เพื่อแปลงเป็นโทเค็น V2 สำหรับผู้ที่ไม่มีโทเค็น V1 ก็สามารถซื้อได้บนเว็บไซต์ Sponge V2 โดยเชื่อมกระเป๋า Ethereum  แล้วใช้ ETH หรือ USDT ในการซื้อ

เมื่อคุณได้โทเค็นมาแล้ว รีบไป Stake เลย ตอนนี้มีอัตราผลตอบแทน Stake สูงกว่า 164% APY ตัวเลขนี้อาจลดลงเมื่อมีคนมา Stake โทเค็นมากขึ้น แต่เนื่องจากมีโทเค็น 43% ของทั้งหมดสำรองไว้เป็นรางวัล Stake  ตามที่ระบุไว้ใน whitepaper ของ Sponge V2 เราจึงอาจได้เห็น APY สูงๆ แบบนี้ไปอีกนาน เมื่อเทียบกับโปรเจกต์อื่นๆ

ตอนนี้เราอยู่ในขั้นตอนที่ 1 ของโปรเจกต์ ที่คุณสามารถ Stake โทเค็นได้ ขั้นตอนที่ 2 จะเป็นการนำ Sponge V2 ไปลิสบนตลาดแลกเปลี่ยนซื้อขายใหญ่ๆ และสามารถเคลมโทเค็นได้ ส่วนขั้นตอนที่ 3 คือการเปิดตัวเกม play-to-earn

ติดตาม Sponge V2 บน X (เดิมคือ Twitter) และเข้าร่วมกลุ่ม Telegram ของ Sponge V2 เพื่อรับข้อมูลล่าสุด คุณสามารถเข้าร่วม Discord ของ Sponge V2 ได้ด้วย

7. Smog – เหรียญมีม Solana ที่พุ่งขึ้น 5,000% หลังเปิดตัวธรรมดาๆ และให้ผลตอบแทน Stake 42% APY

Smog เป็นเหรียญมีมที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในขณะนี้ เหรียญเริ่มต้นด้วยการเปิดตัวธรรมดาๆ บน Jupiter DEX ของ Solana จากนั้นก็พุ่งขึ้นมากกว่า 5,000% ในเวลาไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์

ตอนนี้ใครก็ซื้อ Smog บน Jupiter ได้ และ Stake เหรียญเพื่อลุ้นเข้าร่วมการแอร์ดรอป Smog ได้ โดยสำรอง 35% ของโทเค็นทั้งหมดไว้สำหรับรางวัลแอร์ดรอปหรืออีกทางเลือกหนึ่ง

นักลงทุนสามารถซื้อ Smog บน Ethereum ผ่านเว็บไซต์ของโปรเจกต์ เวอร์ชัน Ethereum ของ Smog จะไม่ได้รับรางวัลแอร์ดรอป แต่จะได้ APY 42% สำหรับผู้ถือที่ Stakeเหรียญไว้ ซึ่งถือเป็นรางวัลที่ใจป้ำมากสำหรับเหรียญมีมที่ราคากำลังพุ่งทะยานขึ้นอยู่แล้ว

สำหรับผู้ที่ซื้อ Smog บน Ethereum และ Stake โทเค็นไว้ จะได้รับส่วนลด 10% จากราคาตลาดของ Smog อีกด้วย นักลงทุนสามารถซื้อ $SMOG ผ่าน ETH, USDT หรือบัตรเครดิตทีมงานเบื้องหลัง Smog ได้แย้มว่าอาจมีการขยายไปยังบล็อกเชนอื่นๆ เพิ่มเติม

ซึ่งอาจให้รางวัลเพิ่มเติมสำหรับผู้ถือโทเค็น $SMOG รวมถึงอาจทำให้ราคาโทเค็นเพิ่มสูงขึ้นไปอีกตามโร้ดแมปของ Smog โปรเจกต์นี้มีเป้าหมายสูงสุดที่จะมีผู้ถือโทเค็นมากกว่า 100,000 ราย และกลายเป็นราชามีมของ Solana

โปรเจกต์นี้มีสัญญาณที่ดีมากในการบรรลุเป้าหมายนั้น ด้วยผู้ถือโทเค็นกว่า 23,000 รายแล้ว และมี market cap มากกว่า 52 ล้านดอลลาร์

8. eTukTuk – โปรเจกต์เพื่อความยั่งยืนที่เปิดโอกาสให้คนจับรถตุ๊กตุ๊กสามารถสร้างรายได้สูงยิ่งขึ้นด้วยการใช้งานรถ EV

eTukTuk (TUK) เป็นเหรียญ Web 3 ที่เหมาะสำหรับการลงทุนในระยะยาว ด้วยจุดเด่นในด้านการเป็นโปรเจกต์เพื่อการคมนาคมแห่งแรกที่อยู่บน Binance Smart Chain ทั้งยังใช้ประโยชน์จาก Blockchain โดยการให้บริการสถานีชาร์จ EV ที่ตอบโจทย์ทั้งคนขับรถตุ๊กตุ๊กและนักลงทุนที่ต้องการทำกำไร 

Binance Smart Chain ขึ้นชื่อในด้านค่าธรรมเนียมธุรกรรมที่ไม่แพง ทั้งยังมีความสามารถในการขยายเครือข่ายได้มาก eTukTuk จึงถือเป็นแพลตฟอร์มที่จะสามารถเข้าถึงนักลงทุนทั่วๆ ไปได้อย่างง่ายดาย ทั้งยังเป็นประโยชน์ต่อขับรถตุ๊กตุ๊กที่จะได้เปลี่ยนจากเครื่องยนต์สันดาปภายในมาเป็นรถยนต์ไร้มลพิษแทน

eTukTuk จะไม่ได้มาแค่ช่วยลดมลพิษและลดโลกร้อยเท่านั้น แต่ยังใช้พลังงานน้อยลงอีกด้วย โดยการขจัดความจำเป็นในการใช้งานเพียงแค่ทรัพยากรที่ใช้แล้วหมดไปอย่าง เชื้อเพลิงฟอสซิล โดยจะสนับสนุนให้คนขับรถตุ๊กตุ๊กหันมาขับขี่ด้วยรถไฟฟ้า EV ซึ่งประหยัดพลังงานได้มากกว่านั่นเอง

eTukTuk Whitepaper อธิบายเอาไว้ว่าคนขับรถตุ๊กตุ๊กจะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่า 75% ด้วยการชำระเงินด้วยเหรียญ TUK ซึ่งทาง eTukTuk วางแผนที่จะติดตามสถานีชาร์จในประเทศที่กำลังพัฒนา โดยการร่วมมือกับพันธมิตรภายในพื้นที่ ซึ่งจะรับผิดชอบด้านการติดตั้งและการดูแลรักษาอุปกรณ์เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายไปอีกระดับ

คนขับรถตุ๊กตุ๊กจะสามารถชำระเงินด้วย TUK ได้ผ่านแอพพลิเคชันของแพลตฟอร์ม และพันธมิตรในพื้นที่จะได้รับส่วนแบ่งจากค่าธรรมเนียมที่เกิดขึ้น ทั้งยังสามารถ Stake $TUK เพื่อรับผลตอบแทนต่อปีได้มหาศาล โดยทางทีมงาน eTukTuk ได้จัดสรรรางวัลเอาไว้เป็นระยะเวลานาน 15 ปี

พรีเซลล์ $TUK เปิดขายเหรียญ 12.5% ของอุปทานโทเค็นทั้งหมด 2 พันล้านเหรียญ และในตอนนี้ ก็สามารถระดมทุนได้อย่างรวดเร็วในหมู่นักลงทุน โปรดเข้าร่วมช่อง eTukTuk Telegram เพื่อรับอัพเดทและการพัฒนาล่าสุดก่อนใครที่นี่

9. Solana – บล็อกเชน Web 3.0 ที่ให้ประสิทธิภาพสูง

บล็อกเชน Layer-1 อย่าง Solana (SOL) ถูกสร้างขึ้นเพื่อโดยนำ Smart contract มาใช้ในการสร้างโปรโตคอลการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) และแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (DApps) หลากหลายรูปแบบ

แม้ Ethereum จะเป็นแพลตฟอร์ม Smart contract ที่ได้รับความนิยม มี DApps มากที่สุด แต่เครือข่ายของ Solana ก็มอบความเร็วในการทำธุรกรรมสูงในราคาต่ำเครือข่ายบล็อกเชนนี้สามารถประมวลผลธุรกรรมได้ถึง 65,000 รายการต่อวินาที (TPS) โดยมีค่าธรรมเนียมเฉลี่ยเพียง 0.00025 ดอลลาร์ต่อธุรกรรม Solana สามารถทำความเร็วสูงได้ขนาดนี้เพราะใช้อัลกอริทึมที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งผสมผสานระบบ Proof-of-Stake (PoS) เข้ากับ Proof-of-History (PoH)

หลังจากมีมูลค่าเพียง 1 ดอลลาร์ในช่วงต้นปี 2020 ราคาของ SOL พุ่งแตะจุดสูงสุดตลอดกาลที่ 260 ดอลลาร์ในปีเดียวกัน ทำให้เป็นสินทรัพย์คริปโตที่เติบโตเร็วที่สุดแห่งปี ณ เดือนตุลาคม 2022 ราคา SOL ปรับตัวลงมาอยู่ที่ 34 ดอลลาร์ มี market cap 12,000 ล้านดอลลาร์ แต่ก็กลับขึ้นไปแตะ 113 ดอลลาร์อีกครั้งในเดือนกุมภาพันธ์ 2024

10. Decentraland – โปรเจกต์อสังหาริมทรัพย์เสมือนจริงใน Metaveres ที่น่าซื้อตอนนี้

Decentraland ใช้โปรโตคอล Web3.0 ในการสร้างระบบนิเวศ Metaverse  ที่ผู้ใช้สามารถสร้าง ซื้อขาย และซื้ออสังหาริมทรัพย์เสมือนจริงได้ สร้างอยู่บนบล็อกเชน Ethereum  Decentraland ได้นำ NFT มาประยุกต์ใช้หลายรูปแบบสำหรับผู้ใช้

ตัวอย่างเช่น Decentraland นำเสนอ LAND ซึ่งเป็น NFT ที่ผลิตในรูปแบบ Smart contract

 ERC 721 เพื่อแทนที่ดินดิจิทัล มีชิ้นส่วน LAND ที่ไม่ซ้ำกันกว่า 90,000 ชิ้นบนระบบนิเวศที่สามารถซื้อขา และแลกเปลี่ยนได้ NFT อีกชิ้นบนเกมนี้คือ Estate ซึ่งเป็น Smart contract ERC 721 ที่ประกอบด้วยชิ้นส่วน LAND หลายชิ้น

สามารถซื้อขาย NFT เหล่านี้ผ่าน MANA ซึ่งเป็นโทเค็นหลักของ Decentraland โทเค็น ERC-20 อย่าง MANA ยังใช้เพื่อควบคุมแพลตฟอร์มบน MANA DAO ผู้เล่นสามารถ Stake MANA และมีส่วนร่วมในการลงคะแนนทั่วทั้งชุมชนเพื่อรักษาและปกป้องเครือข่ายด้วยราคาปัจจุบันที่ 0.518 ดอลลาร์ MANA เป็นคริปโตอันดับที่ 75 โดยมี market cap 980 ล้านดอลลาร์

11. Ethereum – โปรโตคอลสัญญาอัจฉริยะอันดับต้นๆ ที่มี market cap 166,000 ล้านดอลลาร์

คล้ายกับ Solana, Ethereum เป็นบล็อกเชน Layer-1 แบบโอเพนซอร์สและกระจายศูนย์ Ethereum เป็นหนึ่งในบล็อกเชนรุ่นแรกๆ ที่นำ Smart contract มาใช้สนับสนุนให้นักพัฒนาสร้าง DApps ได้ เครือข่ายที่ใช้กันแพร่หลายที่สุดอย่าง Ethereum มี DApps ที่พัฒนาบนเครือข่ายมากกว่า 3,000 รายการหนึ่งในเหรียญ Web 3.0 ที่ดีที่สุดอย่าง Ethereum รองรับแพลตฟอร์มซื้อขาย NFT หลายแห่ง เช่น OpenSea ที่เสนอโทเค็น NFT ใหญ่ที่สุด เช่นคอลเลกชัน Bored Ape Yacht Club ในปี 2022 Ethereum ประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะเปลี่ยนจากระบบ Proof-of-Work (PoW) ไปเป็นระบบ PoS การย้ายครั้งนี้ช่วยให้ Ethereum ลดค่าธรรมเนียมแก๊ส (gas fees) และเพิ่มความเร็วในการทำธุรกรรมได้

หลังจากแตะจุดสูงสุดตลอดกาลที่ 4,900 ดอลลาร์ในปี 2021 ราคาของ Ethereum ปรับลดลงมาต่ำกว่า 2,000 ดอลลาร์ต่อโทเค็น อย่างไรก็ตาม ETH ก็กลับมาปรับตัวขึ้นอีกครั้งและตอนนี้มีราคาอยู่ที่ 2,850 ดอลลาร์ โทเค็นนี้เป็น Altcoin ที่ใหญ่ที่สุดด้วย market cap มหาศาลถึง 357,000 ล้านดอลลาร์

12. Aurora Finance – บล็อกเชน Layer-1 ที่เชื่อมกับ Ethereum 

Aurora Finance เป็นบล็อกเชน Layer-1 และ Ethereum Virtual Machine (EVM) ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่นักพัฒนาใช้สร้าง DApps โดยอิงกับเครือข่าย Ethereum

Aurora Finance มี Aurora Bridge ซึ่งเป็นเครื่องมือที่เชื่อมต่อเครือข่ายของตัวเองกับบล็อกเชน Ethereum ดังนั้น นักพัฒนาจึงสามารถเข้าถึงเครือข่าย Ethereum เพื่อปรับใช้ DApps บนเชนโดยไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมแก๊สสูงๆ ของเครือข่าย นอกจากนี้ บริดจ์ยังสามารถใช้ในการโอนโทเค็น ERC 20 และ ETH ระหว่าง Aurora กับ Ethereum ได้อีกด้วยด้วยการเพิ่มความสามารถในการขยายตัวให้กับเครือข่าย Ethereum Aurora Finance จึงกลายเป็นโปรเจกต์บล็อกเชน Web 3.0 ยอดนิยม AURORA ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลของเครือข่าย ใช้ในการชำระธุรกรรมผ่านบริดจ์

โทเค็นนี้ยังให้สิทธิ์ผู้ใช้ในการเข้าถึง AURORA DAO ซึ่งเป็นกลไกธรรมาภิบาลที่ส่งเสริมการตัดสินใจแบบกระจายศูนย์AURORA กำลังซื้อขายที่ราคา 0.27 ดอลลาร์ โดยมี market cap 116 ล้านดอลลาร์

13. Binance Coin – โทเค็นกำกับดูแลของ Binance ที่ทำงานบน BSC

Binance Coin เป็นสกุลเงินดิจิทัลหลักของตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยน Binance ซึ่งเป็นตลาดซื้อขายคริปโตที่ใหญ่ที่สุดเมื่อพิจารณาจากปริมาณการซื้อขายBinance Coin (BNB) ถูกสร้างขึ้นบนเชน Ethereum ในตอนแรก แต่ตอนนี้ซื้อขายบน Binance Smart Chain (BSC) ซึ่งเป็นเครือข่ายบล็อกเชนที่มีความสามารถในการขยายตัวสูง ให้ประสิทธิภาพสูง รองรับการปรับใช้ Smart Contract และมีความเร็วในการทำธุรกรรมที่รวดเร็วกว่า BSC เป็นโปรเจกต์ที่สร้างขึ้นเพื่อสนับสนุน Binance ซึ่งรองรับการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลมากกว่า 600 รายการ

เมื่อใช้ BNB บนตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยน โทเค็นจะมีค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมที่ต่ำกว่า และยังใช้ในการกำกับดูแลเครือข่ายด้วย BSC ทำให้ BNB สามารถประมวลผลได้ถึง 160 TPS ซึ่งมากกว่า Ethereum ที่ทำได้แค่ 17 ธุรกรรมต่อวินาที BNB เป็นโทเค็นอันดับ 4 ที่มี market cap 53,000 ล้านดอลลาร์ และเป็นหนึ่งใน Altcoin ที่ดีที่สุดในตอนนี้

Binance Coin ซื้อขายอยู่ที่ราคา 2,356 ดอลลาร์ต่อโทเค็น โดยมีโทเค็นหมุนเวียนอยู่ในตลาดประมาณ 150 ล้านโทเค็น

14. Yearn.finance – โปรโตคอล Web 3.0 ที่ให้โอกาสสร้างรายได้พาสซีฟ

Yearn.finance (YFI) ให้บริการผลิตภัณฑ์ทางการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) หลากหลายประเภท ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการเข้าถึงรายได้พาสซีฟผ่านสกุลเงินดิจิทัลได้ ผลิตภัณฑ์ DeFi ที่มีให้บริการ ได้แก่ การสร้างผลตอบแทน การรวมการปล่อยกู้ และการรับประกันบนบล็อกเชน Ethereumคุณสมบัติหลักอย่างหนึ่งของแพลตฟอร์มคือ Vaults ซึ่งเป็นพูลสำหรับ Staking ที่ทำงานเพื่อให้ผลตอบแทนตามปัจจัยตลาด อีกโปรโตคอล DeFi หนึ่งคือ Earn ซึ่งเป็นตัวรวบรวมการปล่อยกู้ที่เชื่อมต่อกับตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนแบบกระจายศูนย์อย่าง AAVE และ Compound เพื่อนำเสนออัตราดอกเบี้ยที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้สำหรับผู้ใช้

YFI เป็นโทเค็นที่มีอุปทานสูงสุดจำกัดเพียง 36,666 โทเค็น และเป็นโทเค็นชนิด deflationary ปัจจุบัน YFI ซื้อขายอยู่ที่ราคา 7,900 ดอลลาร์ต่อโทเค็น

Web 3.0 crypto คืออะไร?

Web3.0 หมายถึงรูปแบบของอินเทอร์เน็ตที่กระจายอำนาจ ในช่วงแรกสุด Web 1.0 ถูกจัดเป็นจุดเริ่มต้นของเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตที่นำเสนอเว็บบอร์ดออนไลน์เป็นครั้งแรก Web 2.0 หมายถึงการพัฒนาของอินเทอร์เน็ตที่มีการนำวิธีสื่อสารแบบเพียร์ทูเพียร์ (P2P) เข้ามาใช้ บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำหลายแห่ง อาทิ Apple, Meta, Amazon และ Netflix ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม Web 2.0

อย่างไรก็ตาม Web 3.0 มุ่งที่จะทำให้อินเทอร์เน็ตกระจายอำนาจมากขึ้น และให้อำนาจแก่ผู้ใช้มากขึ้น บริษัท Web 2.0 ทุกแห่งมีลักษณะรวมศูนย์ ที่หน่วยงานกลางเป็นผู้ควบคุมว่าผู้บริโภคสามารถทำอะไรได้บ้าง Web 3.0 อาศัยเทคโนโลยีบล็อกเชนในการนำ Smart Contract มาใช้ ซึ่งสามารถใช้เพื่อให้บริการผลิตภัณฑ์และโปรโตคอลทางการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi)

คริปโตแบบ Web 3.0 นำเสนอแนวคิดริเริ่ม DeFi โดยเปิดโอกาสให้ Staking เพื่อให้ผู้ใช้จำนวนมากสามารถกำกับดูแลเครือข่าย ตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรม และโหวตให้โครงการสร้างชุมชน ดังนั้น ผู้ใช้หลักของแพลตฟอร์มจึงมีสิทธิ์ออกเสียงในการควบคุมเครือข่าย

คริปโตเคอร์เรนซี Web 3.0 เป็นการลงทุนที่ดีหรือไม่?

ต่อไปนี้คือเหตุผลหลักๆ ว่าทำไมคริปโต Web 3.0 จึงอาจเป็นโอกาสการลงทุนที่ดี

การกระจายอำนาจ

ประโยชน์หลักของคริปโตเคอร์เรนซี Web 3.0 คือการให้บริการแบบกระจายอำนาจ ซึ่งหมายความว่าไม่จำเป็นต้องมีบุคคลที่สามมาเกี่ยวข้องในการทำกิจกรรมต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น ธนาคารและสถาบันการเงินคือบุคคลที่สามที่มีส่วนร่วมในการเงินแบบรวมศูนย์

ในทางกลับกัน การเงินแบบกระจายศูนย์ช่วยให้แต่ละบุคคลสามารถควบคุมทรัพย์สินของตนเองได้อย่างเต็มที่ระบบ Automated Market Makers อย่าง Uniswap ช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงสภาพคล่องได้โดยตรง โดยทำให้ผู้ใช้เหล่านั้นกลายเป็นผู้ให้สภาพคล่อง ดังนั้น จึงสามารถเข้าถึงเงินทุนได้อย่างรวดเร็วขึ้น และโอนย้ายหรือแลกเปลี่ยนได้อย่างฉับไว

โอกาสในการสร้างรายได้

เมื่อโครงการคริปโต web 3.0 เติบโตขึ้น นักลงทุนก็มีโอกาสที่จะได้รับรางวัลคริปโตในหลากหลายรูปแบบ แพลตฟอร์มอย่าง Yearn.finance เปิดโอกาสให้สร้างรายได้พาสซีฟผ่านตัวรวบรวมการปล่อยกู้ การทำฟาร์มผลตอบแทน และโครงการ Staking

ในทำนองเดียวกัน คริปโต GameFi อย่าง League of Kingdoms ก็ให้ผู้ใช้เข้าถึงโทเค็นในเกมเพื่อเล่นเกมแฟนตาซีและต่อสู้เพื่อรับรางวัลเป็นคริปโต นอกจากนี้ แพลตฟอร์มอย่าง Battle Infinity ยังมี NFT ที่ซื้อขายได้ แพลตฟอร์ม Staking และตลาด NFT ผ่านแพลตฟอร์มแบบกระจายศูนย์ด้วย

อะไรเป็นปัจจัยขับเคลื่อนราคาของเหรียญ Web 3.0?

ก่อนลงทุนในเหรียญ web 3.0 ที่ดีที่สุด สิ่งสำคัญคือต้องศึกษาเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของราคาและปัจจัยขับเคลื่อนหลักๆ ในภาคส่วนนี้ เช่นเดียวกับสินทรัพย์คริปโตอื่นๆ เหรียญ web 3.0 มีความผันผวนสูง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มูลค่าของบิทคอยน์กำหนดทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ

ยกตัวอย่างเช่น เหรียญ web 3.0 ชั้นนำบางส่วน เช่น Ethereum, Solana และ Binance Coin มีการเติบโตสูงในช่วงปลายปี 2021 ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่ตลาดกระทิงของบิทคอยน์ ในปี 2022 การปรับตัวลงของราคาบิทคอยน์ก็ส่งผลให้เกิดคริปโตเคอร์เรนซี web 3.0 ซบเซาลงด้วย

อีกปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนราคาใน Web 3.0 คือความนิยมที่เพิ่มขึ้นของการใช้งานต่างๆ ด้วยกระแสนิยมของ Metaveres คริปโต web 3.0 จึงนำเสนอ NFT สำหรับตัวละครและโอกาสในการสร้างรายได้ในเกม คริปโตเคอร์เรนซี่อย่าง Tamadoge ก็ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก เนื่องจากมีฟีเจอร์การใช้งานเฉพาะตัว เช่น NFT สำหรับอวาตาร์ แอปพลิเคชันที่ใช้ AR ซึ่งกำลังจะเปิดตัว และพาร์ทเนอร์ใหม่ใน Metaverse

สุดท้ายนี้ แรงผลักดันในระยะยาวคือหนึ่งในปัจจัยขับเคลื่อนหลักของโปรเจ็กต์ web 3.0 ตัวอย่างเช่น Ethereum มีการเติบโตอย่างมาก และกลายเป็น Altcoin ที่ใหญ่ที่สุดในตลาด หนึ่งในเหตุผลหลักก็คือการนำ Smart Contract และโปรโตคอล DeFi มาใช้ นักลงทุนจำนวนมากมองว่า Web 3.0 คืออนาคตของอินเทอร์เน็ตและต้องการเข้าไปลงทุนตั้งแต่เนิ่นๆ เราจึงเห็นหลายโทเค็น Web 3.0 จึงมีการเติบโตอย่างมหาศาลและมีความผันผวนเป็นประจำ อย่างไรก็ตาม มูลค่าในระยะยาวของสินทรัพย์เหล่านี้เป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้

บทสรุป

คริปโตเคอร์เรนซี web 3.0 นำหลักการกระจายอำนาจมาใช้ผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชน ทำให้โปรเจกต์ต่างๆ สามารถนำเสนอโปรโตคอล DeFi ที่หลากหลาย แอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ พร้อมทั้งมอบอิสระให้กับผู้ใช้มากขึ้น

เราเลือก Dogeverse เป็นโปรเจกต์ web3 ที่โดดเด่นที่สุดในตอนนี้ เพราะเป็นเหรียญธีม Doge สกุลแรกที่รองรับเชนมากมาย พร้อมเปิดตัวบน 6 เครือข่ายบล็อคเชนที่ดีที่สุดและรองรับกลไก Staking เพื่อให้นักลงทุนสามารถสร้างรายได้แบบพาสซีฟได้เพิ่มเติม

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโปรเจกต์ Web3

เหรียญ Web 3.0 มีอะไรบ้าง?

เหรียญ web 3.0 ยอดนิยมบางส่วน ได้แก่ Dogeverse, Sealana, และ WienerAI โดยคริปโตอย่าง Ethereum ใช้ Smart Contract เพื่อให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอปพลิเคชันและโปรโตคอลเครือข่ายแบบกระจายศูนย์

จะลงทุนใน Web 3.0 ได้อย่างไร?

มีหลายวิธีในการลงทุนใน Web3 เช่น การซื้อคริปโต การไปที่การเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) และการเข้าร่วมการขายโทเค็นและการเสนอขายเหรียญครั้งแรก (ICO) Web3 กำลังพัฒนาอยู่เสมอ มีโปรเจกต์และนวัตกรรมใหม่ๆ เกิดขึ้นเป็นประจำ ดังนั้น การลงทุนใน Web3 ที่ดีที่สุดคือการศึกษาหาความรู้ และติดตามข่าวสารอยู่เสมอ

เหรียญ Web 3.0 ที่ดีที่สุดคืออะไร?

หนึ่งในโปรเจกต์ Web3 ที่ดีที่สุดคือ Dogeverse ที่พร้อมเปิดให้เข้าถึงได้บนหกเครือข่ายบล็อคเชนชั้นนำ โดยระดมทุนได้ 250,000 ดอลลาร์ภายในไม่กี่นาทีหลังเปิดพรีเซลล์