เว็บขุด Bitcoin และเหรียญคริปโตที่ดีที่สุด! ฉบับปี 2024

คำชี้แจง: ส่วน Industry Talk เป็นการนำเสนอข้อมูลเชิงลึกจากนักลงทุนในอุตสาหกรรมคริปโต และไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเนื้อหาจาก Cryptonews.com

ด้วยมูลค่าของเหรียญคริปโตที่ดูท่าจะไม่ดีนักในตลาด จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่นักลงทุนมือใหม่จะเริ่มหันมามองแพลตฟอร์มขุดบิทคอยน์ที่ดีที่สุดเพื่อทำให้พอร์ตการลงทุนของตนมั่นคงยิ่งขึ้น ด้วยการขุดเหรียญบนคลาวด์ แพลตฟอร์มขุดเหรียญคริปโตจะเปิดโอกาสให้นักลงทุนทั่วไปสามารถขุดได้โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ใดๆ

ผู้เชี่ยวชาญของเราจะมารีวิวแพลตฟอร์มขุดเหรียญคริปโตชั้นนำของโลก และอธิบายว่าการขุดเหรียญคริปโตจะสามารถทำกำไรได้อย่างไรในปี 2024 โปรดอ่านต่อเพื่อค้นหาแพลตฟอร์มที่เหมาะกับเป้าหมายการลงทุนของคุณที่สุด และเรียนรู้วิธีขุดบิทคอยน์โดยไม่ต้องใช้เหมืองขุดราคาแพง

รีวิวซอฟต์แวร์ขุดเหรียญคริปโตที่ดีที่สุด

เราจะมารีวิวแพลตฟอร์มขุดบิทคอยน์ที่ดีที่สุดด้านล่าง โดยทุกเว็บขุดที่แนะนำต่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และการรีวิวของเราก็ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยคุณค้นหาซอฟต์แวร์ขุดเหรียญคริปโตที่เหมาะกับความต้องการของคุณ

1. Bitcoin Minetrix ($BTCMTX) – แพลตฟอร์มขุด BTC อันดับต้น ๆ ที่ใช้สัญญาอัจฉริยะ Ethereum ระดมทุนได้ $3.1 ล้านภายในหนึ่งเดือน

Bitcoin Minetrix ($BTCMTX) เป็นเว็บไซต์ขุดเหรียญใหม่ล่าสุดพร้อมโซลูชั่นสุดสร้างสรรค์เพื่อแก้ปัญหาการขุด BTC โดยผู้ใช้สามารถซื้อ $BTCMTX ซึ่งเป็นโทเค็นกลุ่ม ERC20 ที่สามารถนำไป Stake เพื่อแลกกับเครดิตการขุด Bitcoin บนคลาวด์ เครดิตเหล่านี้จะถูกเผาทิ้งเพื่อแลกกับรางวัล $BTCMTX

เป็นคอนเซ็ปต์ที่เรียบง่ายแต่ยอดเยี่ยม ซึ่งจะขจัดปัญหาส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการขุด Bitcoin แบบรวมศูนย์ และผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่เป็นอันตรายออกไป

โมเดลการขุดแบบ Proof-Of-Work ของ Bitcoin ถูกดูแลโดยบริษัทขุดแบบรวมศูนย์กลุ่มเล็กๆ โดยพวกเขาครอบครองเหมืองขุดราคาแพง และมีขนาดใหญ่ ซึ่งถือว่าแพงเกินไปสำหรับคนธรรมดาที่จะใช้งานเหมืองขุดลักษณะนี้ นอกจากนี้ยังมีความท้าทายทางเทคนิคมากเกินไป โดยต้องอาศัยทั้งการศึกษาและความเฉียบแหลมทางธุรกิจเป็นอย่างมาก

แต่ Bitcoin Minetrix เปิดโอกาสให้นักลงทุนได้รับรางวัลจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ และวางแผนที่จะเปิดตัวแอพพลิเคชันบนมือถือในอีกไม่นาน พวกเขายังบริการแดชบอร์ดที่ผู้ใช้จะได้มองเห็นภาพรวมกระบวนการขุดเหรียญทั้งหมดของตนได้อย่างง่ายดาย โดยพวกเขาสามารถตัดสินใจได้ว่าจะ Stake เหรียญจำนวนเท่าใดและจะเผาทิ้งจำนวนเท่าใด โดยไม่จำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคทั้งยังเป็นโซลูชันที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

มีโทเค็นทั้งหมด 4 พันล้านโทเค็น โดยมี 2.8 พันล้าน (70%) ที่เปิดขายในช่วงพรีเซลล์ ซึ่งมีทั้งหมด 10 รอบ ราคาจะเพิ่มขึ้นในแต่ละรอบ ซึ่งหมายความว่าคุณจะซื้อเหรียญได้ถูกลงหากลงทุนตั้งแต่เนิ่นๆ ราคาโทเค็นเริ่มต้นที่ $0.011 แต่จะเพิ่มขึ้นเป็น 0.0148 ดอลลาร์ในรอบที่ 39 ซึ่งเป็นรอบสุดท้าย

ข้อดีอีกอย่างของเว็บขุดเหรียญดังกล่าวก็คือสามารถลงทุนเริ่มต้นเพียง $10 เมื่อเปรียบเทียบจำนวนตัวเลขที่มากกว่าตามเว็บขุดอื่นๆ ทั้งยังสามารถรับเครดิตการขุดได้ไม่จำกัด และไม่สามารถโอนเครดิตได้

เว็บขุด Bitcoin อื่นๆ ส่วนใหญ่ยังพึ่งพาเหมืองขุดที่เป็นอันตรายและสร้างความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมอยู่ แต่ทางแพลตฟอร์มจะใช้สัญญาอัจฉริยะ Ethereum ซึ่งเป็นระบบที่ยุติธรรมกว่ามากซึ่งให้รางวัลแก่ทุกคน ไม่ใช่แค่นักขุดเท่านั้น

สามารถรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถอ่านได้ใน Whitepaper

ข้อดี:

• ลงทุนได้ในราคาไม่แพง
• เป็นการขุดเหรียญที่มิตรต่อสิ่งแวดล้อม
• เป็นคอนเซ็ปต์ใหม่
• มีโอกาสทำกำไรได้จากโทเค็น

ข้อเสีย:

• ไม่ทราบอัตราผลตอบแทนเฉลี่ย

2. ECOS – สร้างสัญญาการขุด Bitcoin ที่ถูกออกแบบตามความต้องการ

ECOS เป็นแพลตฟอร์มการลงทุนในเหรียญคริปโตที่สมบูรณ์แบบพร้อมบริการ Wallet ขั้นสูง กระดานแลกเปลี่ยนที่ครอบคลุม และการขุดเหรียญบนคลาวด์แบบครบวงจร

สิ่งที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับแพลตฟอร์ม ECOS ก็คือคุณสามารถปรับแต่งสัญญาการขุดได้ โดยคุณสามารถเลือกจำนวนรางวัลที่คาดการณ์ไว้ ระยะเวลาของสัญญา และจำนวนเงินที่คุณต้องการลงทุน

ในที่สุดการลงทุนของคุณจะกำหนดปริมาณพลังแฮชที่คุณได้รับจากการขุด โดยระยะเวลาสัญญาที่ยาวขึ้นมีแนวโน้มที่จะให้ผลตอบแทนที่มากขึ้นเช่นกัน

ทั้งหมดขึ้นอยู่กับลักษณะของสัญญาของคุณ โอกาสในการทำกำไรจากการขุดเหรียญคริปโตอาจอยู่ในช่วงตั้งแต่ 300% ถึงมากกว่า 600% โดยการลงทุนของคุณจะมีค่าธรรมเนียมในอัตราคงที่ ดังนั้น จึงไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในด้านการทำงานผิดพลาดของเหมืองขุด

เนื่องจากนี่คือการขุดเหรียญบนคลาวด์ คุณจึงไม่ต้องซื้ออุปกรณ์ใดๆ อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการยกระดับขึ้นไปอีก ECOS ก็มีร้านขายเครื่องขุด ASIC ที่มีราคาตั้งแต่ $5,300 ถึง $8,200 นอกจากนี้ยังบริการโฮสเครื่องขุด ASIC ที่ให้บริการโดยศูนย์ข้อมูลขนาด 60 MW ซึ่งสนับสนุนตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันโดยทีมงานคุณภาพ ด้านช่างเทคนิคของ ECOS จะดูแลรักษาและใช้งานเครื่องขุดที่คุณตัดสินใจซื้อทุกเครื่อง

ECOS ยังเสนอสัญญาการขุดบนคลาวด์ฟรี 1 เดือน ดังนั้น คุณจึงสามารถลองขุดเหรียญได้ก่อนที่จะทำสัญญาระยะยาวแบบจริงจัง ด้านราคายังคงค่อนข้างต่ำเนื่องจากศูนย์การขุดของ ECOS ตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจเสรีของอาร์เมเนีย คุณจึงสามารถรับรางวัลการขุดได้ทุกวันและสามารถติดตามได้โดยใช้แอพมือถือ iOS และ Android

ข้อดี:

• ลงทุนได้โดยไม่ต้องใช้เงินเยอะ
• มีผลตอบแทนจากการลงทุนที่คาดการณ์ไว้สูง
• การลงทุนในพอร์ตที่ไม่เหมือนใคร
• ทดลองใช้ฟรี 1 เดือน

ข้อเสีย:

• ขุดได้เฉพาะบิทคอยน์

3. Gminers – ขุด Bitcoin ค่าธรรมเนียมต่ำ สำหรับนักลงทุนมือใหม่

Gminers เป็นหนึ่งในเว็บขุดคริปโตใหม่ล่าสุดสำหรับนักลงทุน ภายในเวลาเพียงไม่กี่เดือน เว็บก็มีผู้ใช้งานมากกว่า 3,000 รายแล้ว และเพื่อไม่ให้สับสนกับซอฟต์แวร์ขุดเหรียญคริปโตของ Gminer ทาง Gminers จะเป็นบริการขุดบนคลาวด์ที่ถูกออกแบบมาสำหรับนักลงทุนทั่วไป

เวลาทำงานของขุดเหรียญจะดำเนินแทบจะตลอดเวลา โดย Gminers เป็นเจ้าของศูนย์ข้อมูลจำนวนมากในประเทศที่ใช้จ่ายอย่างคุ้มค่าและสนับสนุนเหรียญคริปโต เช่น คาซัคสถาน ไอซ์แลนด์ และจอร์เจีย โดยจะมีการจ่ายเงินเป็นรายวัน และนักลงทุนสามารถเลือกจากตัวเลือกการชำระเงิน เช่น PayPal การโอนเงินผ่านธนาคาร หรือจะเลือกถอนบิทคอยน์ไปยัง Crypto Wallet ก็ได้เช่นกัน

Gminers มีค่าธรรมเนียมค่อนข้างต่ำ โดยพลังแฮช 1 GH/s เริ่มต้นที่เพียง $0.0120 ด้านการคำนวณของเรา คาดว่าอัตราส่วนของกำไรสุทธิอยู่ที่ประมาณ 150% และคุณสามารถลงทุนใหม่พร้อมกับสัญญาใหม่ได้ตลอดเวลา นักลงทุนทั่วไปสามารถเรียนรู้ว่าการลงทุนของตนทำงานเป็นอย่างไรได้ผ่านแดชบอร์ดที่มีประโยชน์ซึ่งแสดงผลกำไรและข้อมูลการลงทุนแบบเรียลไทม์

ข้อดี:

• แดชบอร์ดแบบเรียลไทม์
• ศูนย์ข้อมูลที่มีราคาประหยัด
• ลงทุนใหม่ได้ตลอดเวลา
• ดำเนินการขุด 24/7

ข้อเสีย:

• อาจจะไม่โปร่งใสมากนัก
• ให้การสนับสนุนล่าช้า

4. HashShiny – ขุดโทเค็น 7 สกุลพร้อมกัน

HashShiny ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 โดยเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มขุดเหรียญคริปโตที่ดีที่สุดด้วยเหตุผลมากมาย HashShiny ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าพลังน้ำและพลังงานลม เป็นบริการขุดบนคลาวด์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ศูนย์ข้อมูลของบริษัทมีแท่นขุดเจาะ ASIC มากกว่า 15,000 เครื่องที่ได้รับการป้องกันและให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน

HashShiny เป็นมากกว่าบริการขุด Bitcoin โดยคุณสามารถขุดโทเค็นได้ 7 สกุลพร้อมกัน รวมถึง Dogecoin, Bitcoin, Ethereum และ Dash ด้านค่าใช้จ่ายในการขุดจะแตกต่างกันไปในแต่ละโทเค็น และจะถูกเรียกเก็บเป็นค่าธรรมเนียมอัตราแฮชและค่าบำรุงรักษา ตัวอย่างเช่น การขุด Bitcoin จะมีค่าธรรมเนียมการบำรุงรักษารายวัน $0.0004 และค่าใช้จ่าย $0.40 ต่อ 10 GH/s

การใช้พลังงานหมุนเวียนช่วยให้แพลตฟอร์มมีค่าธรรมเนียมต่ำ อย่างไรก็ตาม โปรดทราบว่าเครื่องคำนวณการจ่ายเงินที่ HashShiny จะไม่ได้รวมค่าบำรุงรักษา ดังนั้น ผู้ใช้อาจพบว่าพวกเขาได้รับการชำระคืนต่ำกว่าที่คาดไว้

ข้อดี:

• ลงทุนขั้นต่ำ $10
• ขุดโทเค็นได้ 7 สกุล
• ให้ผลตอบแทนเป็นรายวัน
• แหล่งขุด Bitcoin มากมาย

ข้อเสีย:

• ค่าธรรมเนียมสูง
• ผลตอบแทนน้อยให้

5. BeMine – บริการเช่าและโฮสเครื่องขุด ASIC ในราคาไม่แพง

BeMine คือบริการขุดบนคลาวด์แบบครบวงจรที่มีฟีเจอร์มากมายสำหรับนักลงทุน โดยแพลตฟอร์มดังกล่าวเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ซื้อเครื่อง ASIC ได้ 1/100 เครื่องไปจนถึงทั้งเครื่อง โดยแพลตฟอร์ม Mining Hotel ของ BeMine เปิดโอกาสให้คุณสามารถโฮสต์เครื่องขุด ASIC ของคุณเองได้ที่ศูนย์ข้อมูล 4 แห่งของแพลตฟอร์ม ซึ่งทั้งหมดตั้งอยู่ในรัสเซีย คุณสามารถซื้อเครื่องขุด ASIC จาก BeMine ซึ่งมีราคาตั้งแต่ $430 ถึง $16,400

เมื่อทำการขุดบนคลาวด์ คุณจะสามารถเลือกเหมืองขุด ASIC ที่คุณต้องการใช้ได้ นี่เป็นสิ่งที่ดีเพราะคุณสามารถมั่นใจได้ว่าเครื่องขุดของคุณเป็นไปตามเป้าหมายการขุดของคุณ โดย BeMine เสนอโบนัสสำหรับผู้ใช้ใหม่เช่นกัน – ขุดฟรี 3 วันโดยใช้เครื่อง Antminer 19

ขณะนี้มีข้อเสนอการขุดบนคลาวด์ 4 สัญญา ซึ่งแต่ละสัญญาจะแตกต่างกันไปตามอัตราแฮชและพลังงาน คุณสามารถกำหนดอัตรารายได้ที่อาจเกิดขึ้นใน 24 ชั่วโมงได้อย่างง่ายดาย ส่วนแผนขุด Bitcoin และ Alt-miner จะเริ่มต้นที่ $68

ข้อดี:

• ศูนย์ข้อมูลอันทรงพลัง 4 แห่ง
• ซื้อเครื่องขุด ASIC
• มีนักขุด ASIC หลายคน
• ลงทุนขั้นต่ำไม่แพง

ข้อเสีย:

• สัญญาบางส่วนถูกขายหมดแล้ว
• มีการสนับสนุนลูกค้าที่ไม่ดีนัก

6. TrustMining – ผู้เชี่ยวชาญด้าน Ethereum ในสวิตเซอร์แลนด์

TrustMining คือบริการขุดบนคลาวด์ชั้นนำและได้รับชื่อเสียงว่าเป็นหนึ่งในเว็บขุดเหรียญคริปโตที่ดีที่สุดสำหรับการโฮสต์เครื่องขุด แม้ว่า TrustMining จะรองรับการขุด Bitcoin แต่ตัวแพลตฟอร์มจะเชี่ยวชาญในอัลกอริธึม ETASH สำหรับการขุด Ethereum มากกว่า โดย TrustMining สามารถโฮสต์เครื่องขุดของคุณในศูนย์ข้อมูลของสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นที่ผลิตและรักษาประสิทธิภาพของเหมืองของคุณ

โดยรวมแล้ว คุณจะสูญเสียรางวัลประมาณ 30% เป็นค่าธรรมเนียม ซึ่งสอดคล้องกับค่าเฉลี่ยในตลาด และเหลือ 70% ไว้เป็นกำไรล้วนๆ โดยค่าธรรมเนียมจะครอบคลุมค่าไฟฟ้า ค่าที่พักในศูนย์ข้อมูล และค่าคอมมิชชั่น 10% ทาง TrustMining จะใช้เฉพาะซอฟต์แวร์การขุดเหรียญคริปโตที่ดีที่สุดผ่าน 2miners.com ซึ่งเป็นพันธมิตรของพวกเขา และใช้พูลการขุดท้องถิ่นในยุโรป

TrustMining ยังเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ขุดเพื่อ Ethereum แต่รับเงินเป็น Bitcoin นอกจากนี้ TrustMining ยังรองรับการ Staking เหรียญคริปโต ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถเพิ่มผลกำไรด้วยผลตอบแทนระหว่าง 4% ถึง 25% ได้ต่อปี

ข้อดี:

• ค่าธรรมเนียมต่ำ
• เป็นแหล่งขุดเหรียญคริปโตที่เชื่อถือได้
• รองรับ Crypto Staking
• มีชื่อเสียงระดับดีเยี่ยม

ข้อเสีย:

• ใช้งาน GPU ในการขุดเท่านั้น
• ให้การสนับสนุนได้ไม่ดีนัก

7. GenesisMining – เหมืองขุด Ethereum ที่ใหญ่ที่สุด

ด้วยจำนวนนักขุดที่พร้อมขุดมากกว่า 2 ล้านคน GenesisMining เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มขุดเหรียญคริปโตที่ใหญ่ที่สุดสำหรับนักลงทุนทั่วไป โดยศูนย์ข้อมูลตั้งอยู่ในไอซ์แลนด์และใช้พลังงานความร้อนใต้ดินที่มีต้นทุนต่ำเพื่อจ่ายพลังงานให้กับ GPU ด้วยซอฟต์แวร์การขุดเหรียญคริปโตติดตัว

โทเค็นถูกขุดด้วยกองขุดอย่างน้อย 2 พูล และในบางกรณีจะขุด 4 พูล เมื่อพูลพบว่ากำลังจะปิดส่วนแบ่งที่ 50% ทาง GenesisMining จะเปลี่ยนไปใช้พูลอื่น โดยมีโทเค็น 6 สกุลที่พร้อมสำหรับการขุด รวมถึง Bitcoin, Ethereum, Dash และ Litecoin วิธีที่ดีที่สุดในการใช้บริการคือจ่ายเงินด้วยเหรียญคริปโตกับ GenesisMining เพราะธุรกรรม USD จะให้อัตราแฮชต่อวันได้ค่อนข้างจำกัด

ในระหว่างการรีวิวของเรา GenesisMining มักจะขายจนหมดสต๊อก และในปัจจุบันการเช่าเครื่องขุดก็ทำได้ค่อนข้างยาก โดยแพลตฟอร์มจะไม่มีแผนเก็บค่าบำรุงรักษาสำหรับการขุด Ethereum และเช่าเครื่องขุดเริ่มต้นที่ $499 ไปจนถึง $4,999 ส่วนแผนอื่นๆ มีค่าธรรมเนียมการบำรุงรักษา USD แบบคงที่ ซึ่งกำหนดโดยการปรับแต่งเฉพาะของแต่ละแผน

ข้อดี:

• ไม่มีค่าบำรุงรักษา
• เหมือง Ethereum ขนาดใหญ่
• มีแผนบริการที่หลากหลาย
• ให้ผลตอบแทนเป็นรายวัน

ข้อเสีย:

• แผนอาจจะขายหมดก่อน
• USD จำกัดอัตราแฮชรายวัน

8. BitDeer – AI สุดทรงพลังที่จะมาบริหารการขุดบนคลาวด์

BitDeer เป็นอีกหนึ่งบริการขุดที่ใช้ทั้ง GPU และเครื่องขุด ASIC โดยมีศูนย์ข้อมูล 5 แห่งที่ตั้งอยู่ทั่วโลกและมีอัตราแฮชการขุดที่ 7.0 GH/s โดยศูนย์ข้อมูล 3 แห่งใช้พลังงานปลอดคาร์บอน 100% และศูนย์ทั้ง 5 แห่งใช้พลังงานรวมกันประมาณ 1,700 เมกะวัตต์ ระบบการจัดการที่ชาญฉลาดจะจัดการกับความน่าเบื่อในแต่ละวันเพื่อทำให้ขุดเหรียญได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

BitDeer มีราคาแพงเมื่อเทียบกับเว็บขุดอื่นๆ โดยต้องลงทุนขั้นต่ำประมาณ $200 สำหรับ Bitcoin อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้อาจต้องเสียเงินมากขึ้นเนื่องจากแผนพื้นฐานส่วนใหญ่นั้นทำกำไรไม่ได้

น่าเสียดายที่แผน BitDeer ก็ขายหมดเกือบตลอดเวลาเช่นกัน โดยผู้ใช้สามารถลงทะเบียนความสนใจเพื่อเพิ่มโอกาสในการซื้อแผนการขุดบนคลาวด์

ข้อดี:

• ไม่มีค่าบำรุงรักษา
• เหมือง Ethereum ขนาดใหญ่
• มีแผนบริการที่หลากหลาย
• ให้ผลตอบแทนเป็นรายวัน

ข้อเสีย:

• มักจะขายหมดก่อน
• USD จำกัดอัตราแฮชรายวัน

9. LetMeCloud – การขุด Bitcoin บนคลาวด์ที่มีความน่าเชื่อถือสูง

แพลตฟอร์มขุด Bitcoin นี้เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีชื่อเสียงที่สุดโดยมีชื่อเสียงและการยอมรับอย่างมากในระดับแมส โดย LetMeCloud เสนอสัญญา 1 ปีที่เรียบง่าย 3 สัญญาด้วยกัน โดยให้ผลตอบแทนประมาณ 150% พร้อมความเป็นไปได้ที่จะได้รับโบนัสเพิ่มเติม 20-30% ตามแผนที่เหมาะสม โดยจะจ่ายแจกจ่ายเหรียญทุกวันและโปรแกรมการอ้างอิงที่สะดวกจะทำให้คุณได้รับค่าคอมมิชชั่นเพิ่มเติม

แม้ LetMeCloud จะตั้งอยู่ในอังกฤษ แต่ก็มีศูนย์ข้อมูลในนอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ สวีเดนและแคนาดา ซึ่งล้วนตั้งอยู่ในพื้นที่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยศูนย์เหล่านี้ส่วนใหญ่ใช้ประโยชน์จากพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมเพื่อลดต้นทุน

ราคาสำหรับ LetMeCloud ก็ค่อนข้างถูก โดยที่ 1 GH/s มีราคา $0.0120 ซึ่งหมายความว่าสัญญามาตรฐานระยะเวลา 12 เดือนจะทำกำไรคืนให้กับคุณประมาณ $1,800

ข้อดี:

• ค่าธรรมเนียมต่ำ
• ติดตั้งง่าย
• แผนระยะสั้น
• สนับสนุนตลอด 24/7

ข้อเสีย:

• ขุดได้เฉพาะ Bitcoin เท่านั้น
• จ่ายเงินช้า

การขุดเหรียญคริปโตคืออะไร?

ยังสงสัยว่าการขุด Bitcoin คืออะไร? การขุดเหรียญคริปโตหรือ BTC หมายถึงกระบวนการคำนวณที่ดำเนินการเพื่อสร้างโทเค็นใหม่ซึ่งเป็นเหรียญคริปโตในแต่ละสกุล เป็นคอนเซ็ปต์ที่ค่อนข้างเรียบง่าย – คอมพิวเตอร์ทำงานเพื่อแก้ไขปัญหา และมีการมอบเหรียญคริปโตกลับเป็นรางวัล อย่างไรก็ตาม กระบวนการทั้งหมดจะค่อนข้างซับซ้อนและต้องใช้เครื่องขุดเหรียญคริปโตโดยเฉพาะที่สามารถแก้ไขโจทย์คณิตศาสตร์ที่ซับซ้อนได้

โดยพื้นฐานแล้ว นักขุดจะทำหน้าที่เป็นคนกลางระหว่างผู้ใช้บนเครือข่าย Blockchain โดยพวกเขาตรวจสอบธุรกรรมและแจกจ่ายไปยังบัญชีแยกประเภท (Ledger) ดังนั้นจึงรับประกันบันทึกธุรกรรมที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ นักขุดจะได้รับรางวัลสำหรับความพยายามของตนด้วยโทเค็นใหม่จำนวนหนึ่ง

มีการพัฒนาที่สำคัญในวิธีที่ผู้คนสามารถขุดเหรียญคริปโตได้ด้วยแอพขุดเหรียญคริปโตโดยเฉพาะ และวิธีการใหม่ที่มีราคาถูกลงและทำให้ง่ายขึ้นสำหรับนักลงทุนทั่วไป โดยแพลตฟอร์มการขุดบนคลาวด์จะให้ผู้ใช้เช่าเครื่องขุดเหรียญคริปโตและเก็บผลตอบแทน ในขณะที่ซอฟต์แวร์ขุดเหรียญคริปโตที่ดีที่สุดบางตัวจะเปิดโอกาสให้นักลงทุนได้เข้าร่วมกลุ่มการขุดที่ทำกำไรได้อย่างไม่น่าเชื่อ

การขุด Bitcoin ทำงานอย่างไร?

การขุด Bitcoin เรียกว่าเดินทางมาไกลมาก โดยครั้งหนึ่ง การใช้เครื่องขุดเหรียญคริปโตที่ทรงพลังมหาศาลเป็นวิธีเดียวที่จะขุดโทเค็นได้ อย่างไรก็ตาม การขุดเหรียญบนคลาวด์ก็เปิดโอกาสให้นักลงทุนได้ขุดโทเค็นได้ทุกวันโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ราคาแพง

การขุดด้วย CPU และ GPU เป็นกระบวนการที่พบบ่อยที่สุดของการขุด Bitcoin สำหรับนักลงทุนทั่วไป โดยทั้งสองวิธีต้องใช้อุปกรณ์ที่ทรงพลังอย่างมาก ซึ่งจะใช้ CPU หรือการ์ดจอของคอมพิวเตอร์เพื่อแก้โจทย์ที่ซับซ้อนซึ่งจำเป็นในการตรวจสอบธุรกรรม โดยนักขุดที่แก้โจทย์ได้ก่อนก็จะได้รับรางวัลเป็นบล็อก Bitcoin

รางวัลบล็อกปัจจุบันคือ 6.25 BTC โดยวิธีที่ดีที่สุดในการขุด Bitcoin คือการใช้เครื่องขุด ASIC เครื่องเหล่านี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อการขุดเหรียญคริปโตโดยเฉพาะ และมีประสิทธิภาพมากกว่าการใช้ CPU/GPU อย่างมาก เมื่อคุณได้ยินเกี่ยวกับบริษัทขุด Bitcoin ขนาดใหญ่ นี่ก็คือเครื่องขุดที่พวกเขาจะใช้นั่นเอง

นักขุดส่วนใหญ่จะได้เข้าร่วมกลุ่มการขุด Bitcoin ซึ่งเป็นกลุ่มนักขุดที่ใช้พลังการประมวลผลรวมกันและแบ่งปันผลลัพธ์ แต่การขุดเหรียญคนเดียวก็ทำได้เช่นกัน มีนักขุดเดี่ยวหลายคนที่ประสบความสำเร็จ เช่น เครื่องขุด Solo CK ที่ได้รับ $220,000 จากบล็อกเดียวในเดือนมกราคม 2022

การขุดเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ทำกำไรได้หรือไม่?

หากตอบสั้นๆ ได้แน่นอน โดยเครื่องขุดคริปโตมีราคาประมาณ $2,000 หากประหยัดหน่อยและนักขุด Bitcoin ต่างก็ขุดได้ $20 ล้านต่อวัน อย่างไรก็ตาม เครื่องขุดระดับล่างๆ ก็ยังห่างไกลจากคำว่ามีประสิทธิภาพ และด้วยมูลค่าของรางวัล Bitcoin จากการขุดที่คาดว่าจะลดลงครึ่งหนึ่งในปี 2024 การมีเครื่องขุดที่ดีจึงเป็นกุญแจสำคัญ

นี่หมายถึงการซื้อหรืออัพเกรดเรื่องขุดเหรียญคริปโตของคุณ เนื่องจากพลังงานที่มากขึ้นก็หมายถึงประสิทธิภาพที่มากขึ้น ตามดัชนีการใช้พลังงาน Bitcoin ของ Digicominists การทำธุรกรรม Bitcoin เพียงครั้งเดียวต้องใช้พลังงาน 1,449kWh จึงจะเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งถือเป็นพลังงานที่ใช้ในครัวเรือนเกือบสองเดือน

หากคุณสามารถใช้เงินสดเพื่อซื้อเครื่องขุดเหรียญคริปโตที่มีประสิทธิภาพ ชำระค่าไฟฟ้าในอัตราที่เหมาะสม และสามารถเข้าถึงแหล่งรวมการขุดที่มีคุณภาพและเชื่อถือได้ คุณก็อาจได้รับผลกำไรจากการขุดเหรียญคริปโตด้วยวิธีการดั้งเดิมได้อยู่

ท้ายที่สุดแล้ว กองการขุดที่เชื่อถือได้อาจเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดของคุณเมื่อพิจารณาการขุด Bitcoin เนื่องจากโอกาสในการค้นหาบล็อก Bitcoin นั้นยากขึ้นมากขึ้นเมื่อมีนักขุดเข้าร่วมในการขุดมากขึ้น

ในเดือนกรกฎาคม ปี 2022 JPMorgan กำหนดต้นทุนเฉลี่ยของการขุด Bitcoin แบบดั้งเดิมไว้ที่ $12,000 ต่อปี แต่บล็อกที่ขุดได้สำเร็จเพียงบล็อกเดียวก็ให้รางวัลมากกว่า $130,000 เมื่อเดือนกันยายน 2022

ประโยชน์ของการขุดบิทคอยน์

สำหรับใครที่สงสัยว่า ‘Bitcoin เป็นการลงทุนที่ดีหรือไม่?‘ การขุด Bitcoin นั้นให้ประโยชน์มากมายในฐานะโอกาสในการลงทุน โดยการใช้หนึ่งในเว็บขุดบิทคอยน์ที่ดีที่สุดก็มีข้อได้เปรียบเหนือการขุดแบบดั้งเดิมเช่นกัน การขุดมักถูกเข้าใจผิดว่าซับซ้อนเกินไปและมีปัญหามากกว่าความคุ้มค่า แต่ในความเป็นจริงแล้ว ก็มีเหตุผลมากมายที่นักลงทุนควรพิจารณาในการขุดเหรียญเช่นกัน

รายได้แบบพาสซีฟ

การขุด Bitcoin จะไม่นั้นก็ไมได้มีอะไรให้ทำมากนักเมื่อคุณเริ่มขุดได้ และยิ่งน้อยลงไปอีหากคุณเลือกใช้หนึ่งในเว็บขุดเหรียญคริปโตที่ดีที่สุดจากรายการของเรา การขุดบิทคอยน์จะช่วยสร้างรายได้แบบพาสซีฟไปตลอดชีวิตของคุณในขณะที่คุณยังคงทำงานอื่นๆ ต่อไปได้ คุณยังสามารถซื้อขายเหรียญคริปโตได้ต่อไป ไม่ว่าจะเป็นสินทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายส่วนต่างในขณะที่ทำการขุด

หน้าที่สำคัญ

ในฐานะนักขุดเหรียญคริปโต คุณจะได้ทำหน้าที่ที่สำคัญมากสำหรับเหรียญคริปโตสกุลที่ทำการขุด โดยธุรกรรมจำเป็นต้องได้รับการตรวจสอบและการขุดเหรียญคริปโตก็เป็นวิธีในการตรวจสอบ คุณจะได้เป็นส่วนหนึ่งของบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่และช่วยรักษารูปแบบการธนาคารแบบกระจายอำนาจอย่างแท้จริงซึ่งเป็นการช่วยเหลือธุรกิจและบุคคลจำนวนมาก

รายได้ดี

การซื้อขายเหรียญคริปโตเคอเรนซี่เป็นเรื่องยากในบางครั้ง การพยายามคาดการณ์ตลาดขาขึ้นนั้นไม่ใช่สิ่งที่ง่ายที่สุดในโลกเสมอไป และบางครั้งการลงทุนเพียงเล็กน้อยก็ไม่ได้มากพอที่จะสร้างผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ แต่การขุดอาจให้รางวัลใหญ่ได้รางวัล 6.75 BTC สำหรับการขุด Bitcoin ที่ประสบความสำเร็จนั้นเป็นผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ ในขณะที่กลุ่มการขุดบนคลาวด์ที่ดีอาจสามารถสร้างผลลัพธ์ที่ใหญ่กว่ากลยุทธ์การเทรดของคุณเอง

มีทางเลือกมากมาย

ไม่มีเส้นทางสู่ความสำเร็จที่เป็นเส้นตรงเกินไปเมื่อทำการขุดเหรียญคริปโต มีแพลตฟอร์มขุดเหรียญคริปโตอีกมากมายที่ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าคุณสามารถเลือกซื้อพูลการขุดเหรียญคริปโตใหม่และดีขึ้นได้ คุณยังสามารถปรับแต่งและปรับปรุงเครื่องขุดของคุณเมื่อมีเทคโนโลยีขั้นสูงเข้ามา หรือคุณอาจพบว่าชิปเซ็ต GPU ที่ดีกว่าลดราคา

เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ใช่แล้ว แพลตฟอร์มขุด Bitcoin ที่ดีที่สุดบางแห่งยังคงใช้โรงไฟฟ้าถ่านหินและวิธีการก่อมลพิษอื่นๆ ในการขับเคลื่อนการดำเนินการขุดเหรียญ แต่นั่นไม่ใช่กรณีทั้งหมด การดำเนินเหมืองขุด Bitcoin บางแห่งจะใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียนสิ่งเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นบริการการขุดเหรียญบนคลาวด์ ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถขุดได้โดยไม่เป็นการปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นท์อันน่ากลัว

ราคาในการขุดเหรียญคริปโต

สนใจขุดเหรียญคริปโตแต่ไม่แน่ใจว่าจะต้องเริ่มจากตรงไหน? ย้อนกลับไปในปี 2009 เมื่อมีคนเพียงหยิบมือที่มองเห็นศักยภาพของ Bitcoin และใช้เงินเพียงประมาณ $100 ก็สามารถเริ่มขุดได้แล้ว กลับมาสู่ปี 2024 และการทำเหมืองขุดที่ประสบความสำเร็จแบบเดิมนั้นจะต้องใช้เงินกว่าหมื่นดอลลาร์กันเลยทีเดียว

ต้นทุนเริ่มต้นคือการติดตั้งเหมืองขุดเหรียญคริปโตของคุณ สำหรับเครื่องที่ไม่แรงมาก คุณก็สามารถใช้การ์ด GPU เช่น NVIDIA GeForce RTX 3060 Ti ซึ่งมีราคาประมาณ $500 ส่วนการ์ดตัวแรงอย่าง Radeon RX 6800 คุณจะต้องจ่ายอย่างน้อย $1,000

รวบรวมฮาร์ดแวร์ที่จำเป็นต่างๆ เข้าด้วยกัน และความจริงที่ว่าเครื่องขุดที่มี GPU หลายตัวนั้นแทบจะเป็นสิ่งจำเป็นที่จะเพิ่มโอกาสการทำกำไรมากขึ้น เครื่องแบบนี้น่าจะมีค่าใช้จ่ายมหาศาล และต่อไปคุณจะต้องพิจารณาเรื่องค่าไฟฟ้าด้วย

ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละรัฐ โดยบางรัฐ เช่น นอร์ทดาโคตา และโอคลาโฮมา จะมีอัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยต่ำที่สุดในประเทศ และแทบไม่ต้องเสียภาษีเงินได้เลย ซึ่งนำเราไปสู่ต้นทุนที่สาม – ภาษี โดยรัฐที่มีอัตราภาษีเงินได้ต่ำจะได้จ่ายภาษีจากการขุดเหรียญน้อยกว่ารัฐอื่นๆ

แอพขุดเหรียญบิทคอยน์

มีแอพขุดเหรียญคริปโตกว่าหลายร้อยแอพให้คุณใช้บน iPhone หรือปกรณ์ Android เพื่อขุดโทเค็น โดยวิธีการนี้จะไม่ได้เป็นการแทนที่วิธีการแบบเดิมของเครื่องขุด เนื่องจากคุณไม่สามารถรับรางวัลได้ใกล้เคียงจากการใช้เครื่องขุด และการรอยสึกหรอบนมือถือก็เป็นข้อเสียสำคัญ

จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงแอพขุด Bitcoin จำนวนมากบน Google Play เป็นเรื่องง่ายมากที่จะเปิดให้โหลดแอพที่ไม่ได้ขุดจริงเลย และคุณจะต้องศึกษาข้อมูลเพื่อให้แน่ใจว่าคุณดาวน์โหลดโปรแกรมขุดเหรียญที่มีชื่อเสียง ส่วนแอพ iOS บน App Store จะเข้มงวดกว่ามากและทำให้การค้นหานักขุดทำได้ยากขึ้น เนื่องจาก Apple จะลบแอพที่เกี่ยวข้องกับการขุดเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ออกไป

แอพขุดเหรียญคริปโตเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นเกมที่ให้รางวัลเหรียญคริปโตเล็กน้อยเมื่อทำการเล่น โดยผลกำไรมักจะไม่เกินสองสามดอลลาร์ในแต่ละเดือน และคุณจะต้องพิจารณาเรื่องค่าใช้จ่ายในการชาร์จมือถือของคุณ – ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องการสึกหรอของมือถือ

มีพูลการขุดเหรียญบนคลาวด์บางส่วนที่พร้อมใช้ให้ขุดบน iPhone และ Android เช่นกัน แต่แอพขุด Bitcoin ส่วนใหญ่นั้นทำมาเพื่อความสนุกมากกว่าที่จะเป็นตัวสร้างรายได้แบบจริงจังแอพขุด Bitcoin ชั้นนำ

• Gminers
• StormGain

บทสรุป

การขุดเหรียญบนคลาวด์ในปี 2024 นั้นง่ายกว่าที่เคย ด้วยการลงทะเบียนอย่างรวดเร็ว แม้แต่นักลงทุนมือใหม่ก็สามารถขุดคริปโตเคอเรนซี่ได้โดยไม่ต้องซื้อเครื่องขุดราคาแพงแต่อย่างใด

จากการรีวิวของเราเกี่ยวกับแพลตฟอร์มขุด Bitcoin ที่ดีที่สุด เราคิดว่า Bitcoin Minetrix ถือเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับนักลงทุนส่วนใหญ่

ผู้ใช้สามารถควบคุมการดำเนินการขุดของตนเองได้อย่างสมบูรณ์ด้วยแดชบอร์ดสุดพิเศษ แพลตฟอร์มยังมาพร้อมโมเดล Stake to Mine แบบใหม่ที่ใช้ Etherum ซึ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่าBitcoin Blockchain ทั้งยังไม่จำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญทางเทคนิคหรือการลงทุนล่วงหน้า