9 เหรียญ ICO ที่น่าลงทุนในปี 2024 มือใหม่ควรอ่าน!

Initial Coin Offering หรือเหรียญ ICO เป็นวิธีในการสร้างการประชาสัมพันธ์และระดมทุนสำหรับโปรเจกต์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เช่นเดียวกับการระดมทุน ICO ที่ชุมชนจะมีส่วนร่วมในการเติบโตของโปรเจกต์ และยังทำให้นักลงทุนเข้าใจถึงผลตอบแทนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ICO มีศักยภาพสูงในการสร้างผลตอบแทน โดย Ethereum (ETH) ก็กำลังแสดงให้เห็นว่ามีมูลค่าเพิ่มขึ้น 6,300 เท่า นับตั้งแต่เปิด Initial Coin Offering เมื่อปี 2014 ส่วน Cardano (ADA) ก็เติบโตเพิ่มขึ้น 125 เท่านับตั้งแต่ระดมทุน ICO เมื่อเดือนกันยายน 2017

เมื่อเร็วๆ นี้ OpenCampus (EDI) เทรดที่ 1,400% ของราคา ICO แรก ส่วน SUI (SUI) เทรดที่ 660% ของราคา ICO เริ่มต้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผลตอบแทนอาจมีนัยสำคัญขึ้นอยู่กับ ICO ที่เลือก และแน่นอนว่ายังมีเหรียญอีกด้านหนึ่งที่ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าโปรเจกต์ปลอมๆ

เหรียญ ICO ถือเป็นโปรเจกต์ใหม่ล่าสุดและมักจะไม่มีตลาดที่น่าเชื่อถือเนื่องจากยูทิลิตี้ที่ยังไม่ถูกพิสูจน์ แม้ว่าศักยภาพของโซลูชันที่โปรเจกต์จะมีมากมายก็ตาม ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่นักลงทุนต้องเข้าใจว่าแม้แต่โครงการที่ดีที่สุดก็ไม่ได้มีการรับประกันว่าจะสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนในทันทีได้

โดยบทความนี้จะมาพูดถึงโปรเจกต์ที่ดีที่สุดในตลาด โดยจะครอบคลุมว่าเป็นโปรเจกต์อะไรและทำไมจึงน่าเก็บมาพิจารณา ก่อนที่จะเจาะลึกไปยังปัจจัยสำคัญที่ต้องคำนึงถึงเมื่อตัดสินใจลงทุนใน ICO

เหรียญ ICO ที่น่าสนใจในตอนนี้

รายการด้านล่างนี้คือเหรียญคริปโตที่ดีที่สุดบางส่วน ซึ่งได้มาจากการศึกษาและวิเคราะห์เชิงลึก โดยเราจะรีวิวเหรียญแต่ละสกุลในส่วนถัดไป พร้อมให้ข้อมูลที่จำเป็นต่อการตัดสินใจลงทุน

1. Dogeverse – โทเค็นมัลติเชนที่ใช้งานง่าย ระดมทุนได้มากกว่า 300,000 ดอลลาร์ในหนึ่งวัน
2. Sealana ($SEALANA) – โทเค็นมีมใหม่ที่กำลังมาแรงบน Solana ที่อาจไวรัลได้
3. WienerAI  – เหรียญมีมธีมสุนัขพร้อมรางวัลการเดิมพันที่น่าประทับใจ
4. Mega Dice token – โทเค็น Solana ใหม่ขับเคลื่อนระบบนิเวศการเล่นเกม CasinoFi
5. 99Bitcoins – โทเค็นการเรียนรู้เพื่อรับใหม่จากชุมชนที่มีมายาวนาน มอบรางวัลเดิมพันสูง
6. 5th Scape – เหรียญคริปโตเกม VR ที่ระดมทุนได้แล้ว 200,000 ดอลลาร์ในช่วงพรีเซลล์
7. Sponge V2 – เหรียญมีมที่กำลังให้ผลตอบแทน 198% จากการ Staking
8. Smog – เหรียญมีมทางเลือกจาก ICO ที่กำลังให้ผลตอบแทน 42% ต่อปี
9. eTukTuk (TUK) – เหรียญคริปโตเพื่อความยั่งยืนที่เสนอผลตอบแทน 232% จากการ Staking

รีวิวเหรียญ ICO มาใหม่ที่ดีที่สุด

การลงทุนในเหรียญ ICO อาจมีความเสี่ยง เพราะเป็นช่วงต้นและยังไม่ได้รับการยอมรับนัก แต่ใครที่รับความเสี่ยงได้สูงก็อาจสามารถได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้นด้วย

เมื่อเข้าใจแล้ว เรามาเจาะลึกกันว่าทำไมถึงเป็นเหรียญคริปโตมาแรงที่ควรพิจารณา:

1. Dogeverse – เหรียญมีม Multi-Chain ในช่วง ICO ที่ระดมทุนได้ 300,000 ดอลลาร์ภายในหนึ่งวัน

อันดับหนึ่งในรายการเหรียญ ICO ที่น่าลงทุนของเราคือ Dogeverse ($DOGEVERSE) นี่เป็นโปรเจกต์แห่งนวัตกรรมที่มาในรูปแบบเหรียญมีมแบบ Multi-chain สกุลแรกของโลก

แม้ว่า Dogeverse จะเปิดตัวครั้งแรกบน Ethereum Blockchain เพื่อความปลอดภัยและการใช้งานที่กว้างขึ้น แต่จะมีให้เข้าถึงบน Binance, Polygon, Avalanche, Solana และ Base ในอนาคต

Cosmo the Doge เป็นมาสค็อตตัวสำคัญของ Dogeverse ที่กำลังเดินทางไปในจักรวาลคริปโตเพื่อส่งเสริมการเชื่อมต่อที่ราบรื่นและให้อิสระแก่ผู้ถือโทเค็น Dogeverse จะแก้ปัญหาต้นทุนที่มีราคาสูงและความเร็วในการทำธุรกรรมต่ำในขณะที่ยังคงรักษาระดับความปลอดภัยไว้ในระดับสูงไปพร้อมๆ กัน

ความนิยมของ Dogeverse เผยให้เห็นภายในทันที – ด้วยแคมเปญเสนอขายเหรียญเริ่มต้นใหม่ ระดมทุนได้ $300,000 ในเวลาไม่ถึงกว่า 24 ชั่วโมง จากอุปทานทั้งหมด 200 พันล้านโทเค็น Dogeverse ได้จัดสรร 30 พันล้านโทเค็นสำหรับ ICO ในขณะที่เขียน คุณสามารถซื้อ $DOGEVERSE ได้ในราคาเพียง 0.0003 ดอลลาร์ต่อโทเค็น เมื่อสิ้นสุดการระดมทุน ICO ทาง Dogeverse ก็ตั้งเป้าที่จะระดมทุนสูงสุดที่ 17 ล้านดอลลาร์

เหรียญมีมนี้ยังมอบโอกาสในการสร้างรายได้แบบพาสซีฟมหาศาลอีกด้วย ด้วยกลไกการ Staking ผู้ถือ $DOGEVERSE สามารถล็อคเหรียญของตนเอสไว้และสร้างผลตอบแทนได้สูงถึง 15,000% ต่อปี โทเค็นมากกว่า 100 ล้านถูกล็อคไว้ในระบบนิเวศนี้แล้วเรียบร้อย

นอกจากนี้เรายังเชื่อว่า Dogeverse ICO สามารถสร้างแรงผลักดันได้เพิ่มเติมเมื่อเข้าใกล้วัน Doge Day (20 เมษายน) ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้

Dogeverse อาจกลายเป็นหนึ่งในเหรียญ ICO อันดับต้นๆ และเหรียญมีมที่น่าซื้อในตอนนี้ โปรดติดตามข่าวสารโปรเจกต์เพิ่มเติมได้ที่ Dogeverse Whitepaper และเข้าร่วมช่อง Telegram  

2. Sealana – เหรียญมีม ICO ที่น่าลงทุนในปี 2024 เหมาะสำหรับนักลงทุนที่กำลังหาเหรียญพรีเซลที่มีโอกาสเติบโตมากที่สุด 

Sealana มีรูปแบบการพรีเซลที่แปลกใหม่และไม่ค่อยเห็นมาก่อนบนบล็อกเชน Solana ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากจากผู้สร้างเหรียญมีมหลายโครงการ เนื่องจากเป็นเชนที่ทำธุรกรรมได้อย่างรวดเร็ว และมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำ และ Sealana  ก็เป็นหนึ่งในโครงการดังกล่าว 

คุณสามารถเป็นเจ้าของ Sealana ผ่านการเชื่อมต่อกระเป๋าเงินวอลเล็ตที่รองรับ SOL และทำการแลกเปลี่ยนไปยังที่อยู่บนหน้าเว็บไซต์โดยตรง และจะได้โทเค็นจำนวน 6,900 SEAL ต่อ 1 SOL ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำที่สุดในตอนนี้ และมีโอกาสที่จะเติบโตทำกำไรอย่างมหาศาลในอนาคต 

ไม่เพียงเท่านั้น บัญชีทางการบนแพลตฟอร์มของ Sealana บน X ก็มีสมาชิกให้ความสนใจและติดตามเกือบ 900 บัญชีภายในระยะเวลาอันสั้น รวมไปถึงยอดระดมทุนที่เกือบ 3 แสนดอลลาร์อีกด้วย 

เป็นอีกหนึ่งเหรียญ ICO ที่น่าลงทุน และมีความน่าตื่นเต้นว่าพวกมันจะสามารถไต่ราคาไปได้ถึงระดับไหน รวมไปถึงแนวทางพัฒนาโครงการที่อาจจะยังไม่มีแผนที่ชัดเจนนัก ทำให้นักลงทุนต่างพากันคาดเดาและเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ 

3. WienerAI — เหรียญ ICO  ธีมสุนัขเหรียญใหม่ที่มีโอกาสการเติบโตสูง

เหรียญ ICO ที่น่าลงทุนอันดับต้น ๆ ที่ควรพิจารณาในตอนนี้ คือ WienerAI ($WAI) เพราะนับตั้งแต่เปิดตัวโทเค็นมา ก็ยังคงมียอดขายที่มาแรงแบบฉุดไม่อยู่ เหรียญดังกล่าวได้รับแรงบันดาลใจมาจากสุนัขที่ใช้ประโยชน์ได้จริง เนื่องจากมีการผสมผสานระหว่าง AI กับเหรียญมีม เพื่อดึงดูดนักลงทุนโดยทั่วไป

WienerAI สร้างขึ้นบน Ethereum เพื่อให้การเข้าถึงเครือข่ายง่ายขึ้นและได้รับความสนใจมากกว่าโครงการใด แม้ว่าจะเปิดตัวเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่ก็มียอดการระดมทุนมากกว่า 360,000 ดอลลาร์ไปแล้ว

ตามไวท์เปเปอร์ของ WienerAI  ไม่น้อยกว่า 30% ของอุปทานทั้งหมดของโทเค็นจะเป็นการขายเหรียญ ICO ที่กำลังดำเนินการอยู่ การจัดสรรในจำนวนมหาศาลนี้ทำให้นักลงทุนมีโอกาสมากพอที่จะได้รับโทเค็นนี้ตั้งแต่เนิ่น ๆ

ในขณะที่เขียน สามารถซื้อ $WAI ได้ในราคา 0.0007 ดอลลาร์ และคาดว่าราคาจะเพิ่มขึ้นเมื่อเข้าสู่รอบต่อไป ด้วยเหตุนี้ จึงควรซื้อโทเค็นตอนนี้ ก่อนที่จะก้าวไปสู่รอบต่อไปของการขาย ICO

เช่นเดียวกับเหรียญ ICO ที่น่าลงทุนอื่น ๆ ในคู่มือนี้ WienerAI ก็มียูทิลิตี้การ Stake เช่นกัน ดังนั้น คุณสามารถซื้อและ Stake โทเค็นเพื่อรับรางวัลได้มากมาย และเนื่องจากเป็นโครงการที่มุ่งมั่นในการมีส่วนร่วมและการให้รางวัลกับชุมชน Wiener AI จึงจัดสรร 20% ของอุปทานเพื่อเป็นรางวัลจูงใจให้แก่ผู้ถือเหรียญ

4. Mega Dice Token (DICE) – โทเค็น Solana ใหม่ขับเคลื่อนระบบนิเวศการเล่นเกม CasinoFi

Mega Dice Token ($DICE)เป็นสกุลเงินดิจิทัลใหม่ที่ใช้ขับเคลื่อนระบบนิเวศการเล่นเกมบน Mega Dice บนคาสิโนนี้ผู้เล่นสามารถใช้โทเค็น $DICE เพื่อเข้าถึงส่วนลดและโบนัสต่าง ๆ ในเกมคาสิโนได้มากกว่า 4,500 เกม และสปอร์ตบุ๊คได้มากกว่า 50 รายการ

Mega Dice Token สร้างขึ้นบนบล็อกเชน Solana ด้วยจุดเด่นการปรับขนาด มีความโปร่งใส และค่าธรรมเนียมก๊าซต่ำ โดยมีอุปทานทั้งหมด 420 ล้านโทเค็น ในจำนวนนี้จะแบ่ง 35% สำหรับเหรียญ ICO ที่เพิ่งเปิดตัว

ภายในวันแรกของการเปิดตัว Mega Dice Token สามารถระดมทุนได้มากกว่า 320,000 ดอลลาร์ ในราคา 0.069 ดอลลาร์ต่อโทเค็น และในระยะยาว Mega Dice จะซื้อโทเค็นคืนและเผาทิ้ง เพื่อลดอุปทานโทเค็นลง

ผู้ถือโทเค็นสามารถ Stake $DICE ในสัญญาอัจฉริยะเพื่อรับผลตอบแทนต่อปีได้ นอกจากนี้ ผู้ถือโทเค็นที่ Stake ไว้ ยังมีสิทธิ์ได้รับโบนัสรายวันที่คาสิโน ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามผลประกอบการของคาสิโน

โทเค็นยูทิลิตี้นี้ยังสามารถใช้เพื่อเข้าถึง NFT รุ่นลิมิเตด ซึ่งสามารถซื้อขายบน Mega Dice ได้ นักลงทุน ICO ในช่วงเริ่มต้นจะได้รับ $DICE ฟรี

ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโบนัสจูงใจในช่วง Early Bird ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ Mega Dice Token จึงเป็นหนึ่งในเหรียญ ICO ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในปี 2024 นั่นเอง

อ่านไวท์เปเปอร์ Mega Dice Token และเข้าร่วมช่อง Telegram เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลนี้

5. 99Bitcoins – แพลตฟอร์ม Learn to Earn ชั้นนำที่ให้บริการมาตั้งแต่ปี 2010 

99Bitcoins เป็นแพลตฟอร์ม Learn to Earn ชั้นนำที่กำลังจะเปิดตัวโทเค็นของตน $99BTC ที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถ Staking และรับผลตอบแทนแบบพาสซีฟได้ในระดับสูง

ทั้งยังเปิดโอกาสให้นักลงทุนได้รับเหรียญบิทคอยน์ฟรีๆ ได้เพียงแค่ติดตามและเข้าร่วมกิจกรรม Airdrop ของทางแพลตฟอร์ม

99Bitcoins มาพร้อมกับคอมมิวนิตี้ที่คึกคักโดยมีผู้ติดตามมากกว่า 700,000 คนในปัจจุบัน ซึ่งอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยสนับสนุนราคา $99BTC ให้สูงขึ้นในอนาคต

และยังสามารถนำไปใช้เป็นส่วนลดสินค้าบนแพลตฟอร์มได้อีกด้วย ทีมงานยังมุ่งเน้นไปที่แนวทางการแจกเหรียญแบบฟรีๆ ให้กับผู้เข้าร่วมทุกคนที่ให้สูงสุดถึง BTC ที่มูลค่ารวมถึง 99,999 ดอลลาร์ ถือเป็นกิจกรรม Airdrop ที่แจกเหรียญมากเป็นอันดับต้นๆ ในตลาด 

$99BTC เป็นเหรียญที่ใช้ในการขับเคลื่อนเครือข่าย Ethereum และจะถูกปล่อยเป็นเหรียญ BRC-20 ในอนาคตเพื่อให้สามารถใช้ได้บนเครือข่าย Bitcoin นั่นเอง

โดยทางทีมงานตั้งใจที่จำให้เทคโนโลยี DeFi เป็นจริงใน Bitcoin Blockchain และเปิดโอกาสให้เหรียญสามารถใช้ประโยชน์จากเครือข่ายให้ได้มากที่สุด

เนื่องจาก $99BTC เป็นเหรียญในกลุ่ม BRC-20 ที่บิทคอยน์เพิ่งทำ All Time High ไปได้ไม่นานมานี้

ทำให้เหรียญ Bitcoin ETF ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามและกำลังเป็นที่ต้องการในตลาดอย่างมาก ซึ่งอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้เหรียญอย่าง $99BTC สามารถเติบโตต่อได้อีกในอนาคตนั่นเอง

6. 5th Scape (5SCAPE) – โปรเจกต์ ICO โลกแห่งเสมือนที่ดีที่สุด

โปรเจกต์คริปโต 5th Scape ผสมผสานนวัตกรรมของเทคโนโลยี Blockchain และ VR เข้าด้วยกัน โดยทีมงานจะนำเสนอเกม VR, แว่น VR, และเก้าอี้ VR

ในขณะที่ใช้โทเค็นหลัก 5SCAPE เป็นสกุลเงินภายในระบบนิเวศ นอกจากนี้ ผู้ถือโทเค็นจะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น การเข้าถึงแบบพิเศษและส่วนลดสำหรับผลิตภัณฑ์ VR อีกด้วย

เพื่อเป็นทุนในการพัฒนาโปรเจกต์ ทางทีมงานกำลังเปิดตัวโทเค็น 5SCAPE ในช่วงพรีเซลล์โดยมีเป้าหมายในการระดมทุน 15 ล้านดอลลาร์ และการซื้อเหรียญในช่วงพรีเซลล์ก็เป็นวิธีเดียวที่จะได้รับโทเค็น

สิ่งที่คุณต้องมีก็คือ Ethereum Wallet เพื่อเชื่อมต่อกับเว็บไซต์และเหรียญ ETH หรือ USDT เพื่อทำการซื้อให้เสร็จสมบูรณ์พรีเซลล์จะมีทั้งหมด 12 รอบ โดยแต่ละรอบ​ราคาโทเค็นจะเพิ่มขึ้น

ซึ่งหมายความว่าการซื้อโดยเร็วที่สุดอาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการได้รับเหรียญในราคาที่ถูกลง ในรอบแรก เหรียญจะมีราคา 0.00187 ดอลลาร์ต่อโทเค็น ในขณะที่รอบสุดท้าย เหรียญจะมีราคา 0.0087 ดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้น 365%

คุณสามารถรับโทเค็นบางส่วนได้เมื่อพรีเซลล์สิ้นสุดลง ในขณะที่โทเค็นที่เหลือจะมีระยะการทยอยให้เหรียญ อ้างอิงจาก 5th Scape Whitepaper โปรเจกต์จะให้ผลตอบแทนต่อปีที่สูง

สำหรับการ Staking เหรียญที่กำลังจะเปิดตัวเร็วๆ นี้ จนถึงตอนนี้ พรีเซลล์ระดมทุนได้มากกว่า 200,000 ดอลลาร์แล้วเรียบร้อย

โปรดติดตาม 5th Scape บน X และเข้าร่วมช่อง 5th Scape Telegram เพื่อรับข่าวสารล่าสุด นอกจากนี้ โปรดเข้าร่วม 5th Scape Discord หากคุณต้องการมีส่วนร่วมกับชุมชนของโปรเจกต์

7. Sponge V2 – โครงการพรีเซลเหรียญมีมชื่อดังเวอร์ชั่นใหม่ ที่จะมอบผลตอบแทนอันยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่พลาดในครั้งก่อน

Sponge V2 เป็นเหรียญ ico โครงการเหรียญมีมที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนได้ทำการครอบครองอีกครั้งหลังจากที่เคยประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในเวอร์ชั่นแรก และมอบสิทธิพิเศษให้กับนักลงทุนกลุ่มแรกได้ทำการ Staking พร้อมกับโบนัส V2 อีกหนึ่งเท่าจากของเดิมที่มีอยู่ เพิ่มโอกาสสร้างกำไรได้มากขึ้น

ความสำเร็จของ Sponge เวอร์ชั่นแรกนั้นทำให้ตัวโทเค็นมีมูลค่าทางการตลาดสูงถึง 100M ATH และมีเป้าหมายว่าจะแตะให้ได้ถึง 1B เลยทีเดียว ไม่เพียงเท่านั้นคุณจะได้รับอัตรารางวัลตอบแทนสูงกว่า 1,000 %

สำหรับราคาของ $SPONGE ตอนนี้อยู่ที่ 0.001655 ดอลลาร์ อ่านวิธีซื้อ Sponge V2 แบบละเอียดที่นี่ นักลงทุนสามารถทำการซื้อผ่านวอลเล็ตคริปโต ด้วยสกุลเงิน USDT, ETH รวมไปถึงบัตรเครดิตที่มีสัญลักษณ์ VISA และ Mastercard โดยค่าธรรมเนียมจะขึ้นอยู่กับบล็อกเชนที่ใช้บริการ

Sponge V2 มีแผนว่าจะทำเกม P2E เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถรับโทเค็นได้เพิ่มมากขึ้น และอาจส่งผลให้แนวโน้มราคา Sponge V2 เป็นไปในทิศทางบวก แต่ยังไม่มีรายละเอียดของเกมออกมา ตอนนี้มีเพียงชื่อเกมที่ตั้งเอาไว้เท่านั้น ก็คือ Sponge Racing คาดเดาไว้ว่าน่าจะเป็นเกมแข่งขันที่เกี่ยวกับความเร็ว ซึ่งผู้เล่นอาจจะทำการซื้อขาย NFT จากเกมดังกล่าวได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม Sponge V2 ไม่ได้มีสวนเกี่ยวข้องกับต้นฉบับอย่าง SpongeBob SquarePants หรือผู้สร้าง Nickelodeon แต่อย่างใด โทเค็นดังกล่าวเป็นเพียงเหรียญมีมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบและจงรักภักดีในตัว Sponge เจ้าฟองน้ำสีเหลืองที่เป็นมีมอันโด่งดังบนโลกออนไลน์นี้เท่านั้น

8. SMOG – โครงการเหรียญมีม ico ที่น่าลงทุนต้อนรับปีมังกรทอง ที่จะช่วยให้คุณได้รับแอร์ดรอปเยอะกว่าที่อื่น พร้อมทำรายได้ตลอดทั้งปี

SMOG เป็นโครงการเหรียญมีมเหรียญแรกของปีมังกรที่สร้างความฮือฮาและความร้อนแรงให้กับโลกออนไลน์ได้อย่างดีเยี่ยม เนื่องจากพวกเขากำลังสมัครหาพรรคพวกเพื่อทำการโจมตีตลาดคริปโต และต่อสู้กับเหล่านักล่ามังกรที่ไม่รู้จักกลัวตาย

ด้วยความที่เป็นโครงการใหม่จึงยังมีโร้ดแม็ปหรือแผนพัฒนาออกมาคร่าว ๆ อยู่ที่ 3 ระยะเท่านั้น ซึ่งคาดการณ์ว่าแนวโน้มราคา SMOG จะเป็นขาขึ้น โดยจะมุ่งเน้นไปที่การหาสมาชิก การต่อสู้ยืนหยัดอย่างมั่นคงบนตลาดซื้อขาย และสร้างชุมชนอันแข็งแกร่ง หลังจากนั้นสร้างระบบการปกครองจากสมาชิกสู่สมาชิก ให้เป็นชุมชนขนาดใหญ่

อุปทานโทเค็นของโครงการ SMOG ทั้งหมดอยู่ที่ 1.4 พันล้าน ซึ่งนำไปเป็นการตลาดมากถึง 50% และแอร์ดรอปสูงถึง 35% ที่เหลือเป็นสภาพคล่อง DEX และ CEX นั่นแสดงให้เห็นว่าพวกเขาเล็งเห็นความสำคัญของชุมชนเป็นอันดับหนึ่งนั่นเอง

คุณสามารถจับจอง $SMOG ได้ในราคา 0.08366 USDT โดยสามารถชำระผ่านวอลเล็ตคริปโตของคุณเอง โปรดอ่านวิธีซื้อ SMOG เพิ่มเติม ซึ่งทางโครงการใช้งานบล็อกเชนเครือข่ายทั้งของ Solana และ Ethereum เพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถรองรับชุมชนที่ให้ความสนใจอย่างล้นหลามได้อย่างทั่วถึง

9. eTukTuk (TUK) – รับรางวัลจากการ Stake พร้อมเหรียญคริปโตที่มีเป้าหมายเพื่อลดมลพิษทางอากาศ

$TUK เป็นโทเค็นหลักของ eTukTuk ซึ่งเป็นโปรเจกต์รถแห่งครั้งแรกที่ใช้ Binance Smart Chain

eTukTuk จะเข้ามาช่วยให้คนขับรถตุ๊กตุ๊กเริ่มใช้รถไฟฟ้า (EV) และจะสร้างสถานีชาร์จและติดตั้งอุปกรณ์จ่ายสำหรับบริภัณฑ์จ่ายไฟยานยนต์ไฟฟ้า (EVSE)

จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) พบว่า 99% ของประชากรรับพิษเสียผ่านการหายใจ โดยมีรถตุ๊กตุ๊ก 270 ล้านคันที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) ซึ่งใช้พลังงานใช้แล้วหมดไป เช่น เชื้อเพลิงฟอสซิล ซึ่งก่อให้เกิดมลพิษมากกว่ารถยนต์นั่นเอง

เนื่องจาก ICE กำลังจะล้าสมัยอย่างช้าๆ คนขับรถตุ๊กตุ๊กจึงประสบปัญหาในเรื่องเงินค่าแรงในการเลี้ยงดูครอบครัวของตัวเอง ดังนั้น eTukTuk จะจัดตั้งสถานีชาร์จ EV ในเขตเมืองและต่างจังหวัดในประเทศ

EVSE และสถานีชาร์จจะถูกจัดตั้งขึ้นใน ‘พื้นที่’ ที่แตกต่างกัน โดยได้รับความช่วยเหลือจากผู้ผลิตในท้องถิ่น หรือที่เรียกว่าพันธมิตรในพื้นที่ ซึ่งจะช่วยจำกัดต้นทุนการผลิต และจะช่วยให้คนขับสามารถชำระเงินที่สถานีชาร์จด้วยโทเค็น TUK

เนื่องจากเหรียญคริปโตอยู่บน Binance Smart Chain จึงมีค่าธรรมเนียมต่ำและมีความสามารถในการขยายเครือข่ายสูง โดยในเอกสารข้อมูล eTukTuk อธิบายว่าคนขับจะได้รับรายได้เพิ่มขึ้น 400% เมื่อใช้แพลตฟอร์มนี้

พันธมิตรในพื้นที่จะได้รับรางวัล โดยจะได้เป็นค่าคอมมิชชั่นสำหรับการทำธุรกรรมแต่ละครั้งบนสถานีชาร์จ ซึ่งผู้ถือโทเค็นจะสามารถ Stake เหรียญ ico $TUK เพื่อรับรายได้แบบพาสซีฟ และ eTukTuk มีราคาขายพรีเซลล์อยู่ที่ 0.0305 ดอลลาร์เท่านั้น

เข้าร่วมช่อง eTukTuk Telegram สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

เหรียญ ICO คือ อะไร?

เป็นการระดมทุนแบบคราวด์ฟันดิ้งบน Blockchain ซึ่งช่วยให้โปรเจกต์คริปโตสามารถระดมทุนโดยการขายโทเค็น ซึ่งมักเป็นโทเค็นที่มีกรณีการใช้งาน และนักลงทุนในช่วงแรก ๆ ก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนได้ก่อนที่โปรเจกต์จะเปิดตัว

ส่วนใหญ่จะให้นักลงทุนซื้อโทเค็นในราคาที่ถูกลงเมื่อเทียบกับราคาลิสต์ ซึ่งก็เพื่อดึงดูดนักลงทุนให้เข้าร่วมระดมทุน ICO ในช่วงต้นของการพัฒนาและเป็นการโฆษณาไปในตัว

คอนเซ็ปต์เหรียญพรีเซล นั้นไม่ใช่เรื่องใหม่เลย เพราะมีมาตั้งแต่ต้นปี 2010 ซึ่งคล้ายกับหุ้น IPO ในตลาดหลักทรัพย์นั่นเอง

Ethereum เป็นหนึ่งในโปรเจกต์ ICO ที่น่าสนใจที่สุด โดยนักลงทุนในช่วงแรกสามารถซื้อ ETH ได้ในราคาเพียง 0.31 ดอลลาร์เมื่อปี 2014 ซึ่งตอนนี้ ETH มีมูลค่าประมาณ 1,800 ดอลลาร์ และสูงสุดถึง 4,800 ดอลลาร์ ซึ่งก็เป็นที่ชัดเจนว่าทำไมถึงได้รับความนิยมมากสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้

สำคัญคือต้องจำไว้ด้วยว่าเหรียญใหม่นั้นไม่ได้รับการควบคุม นักลงทุนที่ต้องการเข้าร่วมระดมทุน ICO จึงต้องตรวจสอบโปรเจกต์และเข้าใจถึงความเสี่ยงก่อนซื้อ และต้องเข้าใจด้วยว่าไม่ได้รับประกันความสำเร็จเสมอไป แม้ว่าโปรเจกต์จะมีศักยภาพก็ตาม

ประวัติความเป็นมาของเหรียญ ICO

ICO เป็นวิธีในการระดมทุนโดยใช้ Blockchain และขายให้กับนักลงทุนโดยตรงในราคาที่ถถูกลง ส่วนเหรียญ IPO จะเป็นการขายหุ้นเพื่อระดมทุนสำหรับบริษัทที่โตเต็มที่ ซึ่งก็เหมือนกันกับ ICO แต่อยู่ในบริบทของ Web 3.0

เหรียญ ICO เป็นกลไกการระดมทุนสำหรับโปรเจกต์ในช่วงต้น โดยนักลงทุน ICO จะได้ซื้อโทเค็นที่ไม่ใช่การถือหุ้นในบริษัท โดยตั้งสมมติฐานไว้ว่านักลงทุนเชื่อในคุณค่าของโปรเจกต์และคาดหวังผลกำไรในอนาคต ด้วยการซื้อโทเค็นในราคาถูกตั้งแต่เนิ่นๆ และขายเพื่อทำกำไรโปรเจกต์ประสบความสำเร็จ

Ethereum ถือเป็นการระดมทุน ICO ที่ประสบความสำเร็จครั้งใหญ่ โดยเมื่อ 2014 เหรียญระดมทุนไปได้ 16 ล้านดอลลาร์ และปัจจุบัน Ethereum ไม่เพียงแต่ยืนหยัดเป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตที่มีมูลค่ามากที่สุดเท่านั้น แต่ยังเป็นรากฐานสำหรับระบบนิเวศทั้งหมดขอ dApp ที่ได้รับความนิยมมาจากเทคโนโลยี ทั้งยังเป็นจุดเริ่มต้นของ DeFi ซึ่งเป็นตลาดที่มีมูลค่ารวม 44 พันล้านดอลลาร์ เลยทีเดียว

แต่เมื่อปี 2016 ความสำเร็จของโครงการพรีเซลกลับลดลงอย่างรวดเร็ว โดย 80% ของ ICO ในช่วงนั้นถือเป็นโปรเจกต์ปลอม และทำมาเพื่อหลอกเอาเงินจากนักลงทุนซึ่งมีเพียง 8% เท่านั้นที่ถูกลิสต์เข้า Centralized Exchange เพื่อเป็นสภาพคล่องและมีการเติบโตในระยะยาวแบบจริงๆ จังๆ

ซึ่งส่งผลให้เกิดการลงโทษด้านข้อกำหนด จาก ก.ล.ต. อเมริกา โดยเคสของ Ripple และ ก.ล.ต. ที่เพิ่งจบไปได้ไม่นาน ที่มีการพิจารณาว่าโปรเจกต์ดังกล่าวเข้าข่ายว่าเป็นหลักทรัพย์หรือไม่ ซึ่งหากเป็น จะถือเป็นการละเมิดหลักเกณฑ์ของ ก.ล.ต. และอาจส่งผลให้ผู้ก่อตั้งต้องรับผิดทางอาญา

เนื่องจากมีการลงโทษด้านข้อกำหนด และความเสี่ยง ทำให้กลไกการระดมทุน Web 3.0 ได้พัฒนาไปเป็นรูปแบบต่างๆ เช่น Securities Token Offers (STO), Initial Exchange Offers (IEO), และ Initial Dex Offer (IDO) โดยระบบนิเวศต้องพัฒนาเพื่อให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น แต่ก็ต้องมีความยืดหยุ่นมากขึ้นด้วย เพราะความซับซ้อนของระบบนิเวศ Web 3.0 นั้นมีการพัฒนามากขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง

Initial Coin Offering ระดมทุนยังไง?

Initial Coin Offering ระดมทุนโดยการกำหนดการระยะเวลาที่ทีมพัฒนาโปรเจกต์เป็นคนตัดสินใจ โดยจะกำหนดวันที่สำหรับระดมทุน ICO และเป้าหมายในการระดมทุน

เหรียญ ICO แต่ละสกุลมักจะมี Soft Cap และ Hard Cap ซึ่งเป็นจำนวนโทเค็นขั้นต่ำและสูงสุดที่จะขาย และเมื่อเปิดระดมทุน ICO กระบวนการจัดซื้อจะมีลักษณะดังนี้:

• นักลงทุนไปที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของโปรเจกต์เพื่อเข้าร่วมระดมทุน ICO
• เว็บไซต์จะแสดงราคาของโทเค็นและสกุลเงินที่ใช้ในการแลกเปลี่ยน โดยตัวอย่างของสกุลเงินที่ใช้ ‘แลกเปลี่ยน’ ได้แก่ ETH และ BNB
• ทางทีมงานของโปรเจกต์จะแจ้งที่อยู่ Wallet ซึ่งนักลงทุนจะต้องส่งเหรียญไปเพื่อรับโทเค็น
• จากนั้นนักลงทุนจะส่งจำนวนเหรียญที่ลงทุนไปยังที่อยู่ Wallet นั้นๆ ก่อนที่ใส่ที่อยู่ Wallet ของตนเองเพื่อรับโทเค็น ICO หลังซื้อ

โดยสิ่งสำคัญที่ใช่เข้าร่วม ICO ก็คือ Crypto Wallet ​และการถือเหรียญบางส่วนเพื่อแลกเปลี่ยน ซึ่งหมายความว่านักลงทุนต้องถือเหรียญคริปโตก่อนเริ่มซื้อ นั่นเอง

ICO, STO, IEO, IDO – ต่างกันยังไง?

ด้วยการเพิ่มขึ้นของสกุลเงินคริปโตที่ก็ได้นำเสนอทางเลือกใหม่ในรูปแบบของการขายโทเค็น โดยบริษัทต่างๆ ต่างหันมาขายโทเค็นมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อระดมทุนโดยการสร้างเหรียญคริปโตและเสนอขายต่อสาธารณะเพื่อแลกกับเหรียญหลักหรือสกุลเงินทั่วไป

โดยข้อเสนอโทเค็นทั้งหมดถือเป็นการลงทุนในเหรียญคริปโตรูปแบบหนึ่ง ซึ่งโดยทั่วไปจะอยู่บนเครือข่าย Ethereum ที่เรียกว่าโทเค็น ERC-20 แต่การระดมทุนโทเค็นเริ่มแรกที่ว่านี้อย่าง ICO ก็ได้พัฒนาเป็นหมวดหมู่ย่อยๆ เป็น 4 ประเภทหลัก ได้แก่:

• ICO – เทียบได้กับการเสนอขายหุ้น IPO แต่เป็นเหรียญคริปโต
• IEO– คล้ายกับ ICO แต่เปิดระดมทุนใน Centralized Exchange เพื่อเพิ่มสภาพคล่องและมีการกำกับ
• STO – ประเภทระดมทุน ICO ที่ได้รับการควบคุมซึ่งสอดคล้องกับกรอบกฎหมายโดยสมบูรณ์
• IDO – กลไกการเสนอโทเค็นแบบกระจายอำนาจและไม่มีการกำกับ ซึ่งจะมีการป้องกันน้อยลงและมีความเสี่ยงมากขึ้น

แต่ละรูปแบบล้วนมีข้อดีและข้อเสียต่างกันไป ขึ้นอยู่กับประเภทความของนักลงทุนที่กำลังมองหา

โปรดจำไว้ว่าประเภทการระดมทุนข้างต้นอาจมีการใช้คำไม่เหมือนกันและสามารถนำมาใช้ในบริบทที่ต่างกันได้ เช่น Binance เป็น Centralized Exchange ที่รองรับ Decentralized Launchpad (BSCpad) เพื่อการลงทุน ซึ่งถือเป็นการระดมทุน IDO บน Binance Smart Chain (BSC) และถือเป็นเรื่องปกติของเหรียญ ICO ที่จะเปิดตัวบน Binance แม้ว่าในทางเทคนิคแล้วจะเป็น IEO ก็ตาม

ICO

ICO คือรูปแบบของการระดมทุนเหรียญ ICO ซึ่งเริ่มเกิดขึ้นในปี 2014 หลังจากที่ Bitcoin มีราคาเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อช่วงปี 2013 โดยราคา BTC เพิ่มขึ้นถึง 5,400% ช่วงสิ้นปี 2023 พร้อมกระตุ้นให้เกิดความสนใจในโทเค็นเพิ่มขึ้น (Bitcoin ไม่มีการระดมทุน ICO) โดยเหรียญคริปโตช่วงต้น เช่น Monero, Litecoin และ Ethereum ก็เริ่มเปิดระดมทุน ICO ไปเมื่อช่วงปี 2014

น่าเสียดายที่ในปี 2017 โมเดลการระดมทุนแบบนี้กลับเต็มไปด้วยโปรเจกต์ปลอมมากมาย ส่งผลให้เกิดการลงโทษด้านข้อกำหนด จนถึงทุกวันนี้ ความไม่แน่นอนทางกฎหมายของเหรียญคริปโตก็ยังคงมีให้เห็นอยู่ รวมถึงวิธีในการเก็บภาษีและควบคุมเหรียญ โดยนักลงทุนต้องเรียนรู้เพื่อให้เข้าถึงการระดมทุน ICO ได้อย่างปลอดภัย

เพื่อลดความเสี่ยงของ ICO ใครที่สนใจเข้าร่วม ICO จะต้องตรวจสอบโปรเจกต์อย่างละเอียด ซึ่งรวมถึงการศึกษาทีมผู้พัฒนา ทบทวนเอกสารข้อมูล ประเมินแผนการพัฒนา และเหตุการณ์สำคัญของโปรเจกต์ รวมถึงประเมินความต้องการของตลาดหรือบริการที่นำเสนอ โดยนักลงทุนควรคำนึงถึงชื่อเสียงของโปรเจกต์ ความโปร่งใสในการสื่อสาร และการปฏิบัติตามตามข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง

ระวังวิธีที่เหล่านักต้มตุ๋นใช้เพื่อดึงดูดนักลงทุน การอ้างว่า “รีบลงทุนก่อนจะสายเกินไป” หรือ “ราคาอาจสูงถึง 10 เท่า” จะต้องได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียด และต้องแน่ใจว่าใครเป็นผู้ก่อตั้ง พร้อมตรวจสอบประวัติและโปรไฟล์โซเชียลของพวกเขาร่วมด้วย

โปรเจกต์ที่เข้ามาหลอกมักจะทิ้งร่องรอยไว้เสมอ โดยปกติจะอยู่บนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการและเอกสารข้อมูล โดยหลายคนมองข้ามเรื่องนี้ไปเนื่องจาก FOMO – “กลัวพลาด” และมุ่งมั่นที่จะสร้างผลตอบแทน มากกว่าการตรวจสอบโปรเจกต์จนละเอียด

จากการศึกษาเหรียญ ICO กว่า 503 สกุลใน 60 ประเทศ พบว่าจำนวนที่ปรึกษาและคนภายในจะได้รับผลตอบสูงขึ้นกันอย่างมีความสัมพันธ์กัน ดังนั้นการตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้พัฒนาจะอยู่กับโปรเจกต์จึงถือเป็นสิ่งสำคัญต่อความสำเร็จในระยะยาว ส่วนระบบกฎหมายที่เอื้อต่อการระดมทุนก็ยังมีผลต่อการระดมทุน ICO ด้วยเช่นกัน

การระดมทุน ICO แบบดั้งเดิมจะไม่มีบุคคลที่สามที่จะเข้ามาตรวจสอบ KYC ในรูปแบบใดๆ โดยผู้พัฒนาจะทำหน้าที่เป็นนักการตลาด ผู้ตรวจสอบ และผู้สนับสนุนด้วยตนเอง ซึ่งเป็นแนวทางที่นำไปสู่ความล่มจม เนื่องจากนักลงทุนจะได้รับการป้องกันไม่มากและใครที่ฉ้อโกงก็จะได้รับบทลงโทษเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

IEO

IEO หรือ Initial Exchange Offering จะเป็นการที่ Centralized Exchange เปิดระดมทุนในโปรเจกต์ใหม่ๆ ซึ่งทำให้โปรเจกต์สามารถใช้ประโยชน์จากฐานลูกค้าของกระดานเทรดและสามารถเปิดขายโทเค็นได้อย่างรวดเร็ว โดยข้อดีของ IEO ได้แก่ ความไว้วางใจที่เพิ่มขึ้นเพราะทางกระดานเทรดได้ตรวจสอบโปรเจกต์มาแล้วในเรื่องของการลิสต์และสภาพคล่อง

โปรเจ็กต์ที่เปิดตัวใน Centralized Exchange เช่น Binance จะถือว่ามีความปลอดภัยกว่า Decentralized Exchange เช่น Pancakeswap โดย Binance จะต้องเผชิญกับเรื่องแรงกดดันด้านกฎระเบียบจากหน่วยงานส่วนกลางที่เพิ่มขึ้นและข้อกำหนด KYC การลิสต์เข้ากระดานเทรดที่ยุ่งยากมากขึ้น เพราะไม่อย่างนั้น ก็ถือตัวกระดานเทรดเองที่จะถูกวิพากษ์วิจารณ์จากการลิสต์โทเค็นคุณภาพต่ำ

โดยโปรเจกต์จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการลิสต์เข้า Centralized Exchange และทางกระดานเทรดจะรับผิดชอบในด้านการโฆษณาและโปรโมทการลิสต์ใหม่ๆ จึงสมเหตุสมผลที่จะลิสต์เหรียญเข้า Binance ซึ่งเป็นกระดานเทรดที่ใหญ่ที่สุดในโลกตามปริมาณการเทรด ซึ่งมีอำนาจ ฟีเจอร์ และอิทธิพลมากที่สุด โดยโทเค็นใหม่บน Binance อาจมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 41% หลังถูกลิสต์ได้ไม่นาน ซึ่งเรียกว่า “Binance Effect” โดยโปรเจกต์ที่เปิดตัวผ่าน Binance IEO ได้แก่ Open Campus, Space ID, และ Hooked Protocol ซึ่งล้วนมีมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่า 1,000% ในขณะที่เขียน

แต่ก็มีแพลตฟอร์มแบบกระจายอำนาจอีกมากมายที่ทำ ตามขั้นตอน KYC โดย Synapse Network มีอัตราการยอมรับ 2% สำหรับโปรเจกต์ต่างๆ ด้วยการระดมทุน 15 ล้านดอลลาร์จาก 37 โปรเจกต์ที่เข้าร่วม ส่วน PolkaStarter ก็อนุญาตให้มีการตรวจสอบป้องกันสแปมและยืนยัน KYC โดยระดมทุนได้ 49 ล้านดอลลาร์สำหรับโปรเจกต์ช่วงต้นกว่า 111 รายการ ได้แก่ Galaxy Fight Club, OkLetsPlay, Humans, Wonderman Nation, และ Nitro

STO

STO หรือ Security Token Offering เป็นทางเลือกที่ได้รับการควบคุมแทนการระดมทุน ICO ซึ่งขาดกฎระเบียบและต้องเจอกับบทลงโทษ เนื่องจากการหลอกลวงและฉ้อโกง โดย STO จะปฏิบัติตามข้อกำหนดป้องกันการฟอกเงิน (AML) และกฎหมายหลักทรัพย์ โดยโทเค็นที่ระดมทุนSTO ถือเป็นสินทรัพย์ทางการเงินที่สามารถเทรดและทำกำไร ได้ ทั้งยังมีประโยชน์มากมาย เช่น มูลค่าที่แท้จริง ซึ่งจะลดความกังวลของนักลงทุน และเพิ่มสภาพคล่องผ่านการแปลงสินทรัพย์ต่างๆ ให้เป็นโทเค็น

Securitize ถือเป็นเป็นแพลตฟอร์มที่ยอดเยี่ยมจาก STP ซึ่งนำเสนอโซลูชันสำหรับบุคคลและบริษัทที่ต้องการสร้างโทเค็นเพื่อความปลอดภัยที่ครอบคลุม ทั้งยังมีความยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพสูง พร้อมช่วยเหลือผู้ใช้ตลอดกระบวนการออกหลักทรัพย์

ฟีเจอร์เด่นของ Securitize คือความการรวมเข้ากับแอพพลิเคชัน Third Party บนเครือข่าย Ethereum และโปรโตคอล Digital Securities (DS) ที่พัฒนาโดย Securitize ยังนำเสนอโซลูชันการผสมผสานที่ราบรื่นและเป็นไปตามข้อกำหนดของผู้ออกหลักทรัพย์ นักลงทุน และกระดานเทรด ทั้งยังรองรับวงจรชีวิตของหลักทรัพย์ดิจิทัลทั้งหมด เช่น การออกหลักทรัพย์ การเทรด การจำหน่าย และการกำกับดูแล

นี่ถือเป็นแพลตฟอร์มออกโทเค็นเพื่อความปลอดภัยระดับโลก โดยได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนมากกว่า 10 ราย รวมถึงหน่วยงานชั้นนำอย่าง Morgan Stanley, Blockchain Capital, และ, Tezos ส่วนโปรเจกต์จาก STO Launchpad ที่โดดเด่นอื่นๆ ได้แก่ TokenSoft และ Securrency ที่ล้วนเปิดขายโทเค็นหลักทรัพย์ที่ปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างสมบูรณ์เช่นกัน

IDO

IDO เป็นรูปแบบการระดมทุนที่ผสมผสานประเภท ICO และ IEO เข้าด้วยกัน โดยจะออกโทเค็นผ่าน Decentralized Exchange พร้อมกำหนดราคาหลังจากที่โทเค็นหมุนเวียนในตลาดแล้ว โดยมีข้อดีคือจะสามารถหลีกเลี่ยงการขุดเหรียญล่วงหน้า ซึ่งทางผู้พัฒนาจะได้รับประโยชน์จากการเปิดให้โปรเจกต์เข้าถึงชุมชนได้มากขึ้น ทั้งยังไม่ต้องมีข้อกำหนด KYC เสมอไป และมีมาตรการป้องกันสำหรับนักลงทุนไม่มากนัก

Ethereums DaoMaker เป็นตัวอย่างชั้นดีของ IDO Launchpad และเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มแรกๆ ที่ให้เข้าการระดมทุน IDO และรูปแบบการขายโทเค็นแบบใหม่ เช่น Dynamic Coin Offer (DYCO) และ Strong Holder Offer (SHO) ซึ่งก็ได้เปลี่ยนวิธีการเข้าถึงโทเค็นให้กับนักลงทุน ทั้งยังรองรับโทเค็น SHO ที่ประสบความสำเร็จมากมาย เช่น My Neighbor Alice, Lossless Protocol, และ Orion Money เป็นต้น

BSCpad คือ Decentralized Launchpad ของทาง Binance สำหรับ Binance Smart Chain ซึ่งหลายคนอาจไม่ทราบว่า Binance เป็น Centralized Exchange แต่Binance Smart Chain/BNB Chain เป็นแบบ Decentralized โดยโปรเจกต์จาก BSCpad ที่โดดเด่น ได้แก่ Revomon, Medabots, GameZone, และ AstroSwap

PancakeSwap (CAKE) เป็นแพลตฟอร์ม IDO และ DEX ที่ไม่บังคับใช้การลงทะเบียนพิเศษหรือขั้นตอน KYC ทั้งยังมีผู้ใช้มากกว่า 1.6 ล้านคน โดยเหรียญ IDO ดังๆ ที่เปิดตัวที่นี่ ได้แก่ FC Porto, KALM, YieldWatch, และ Horizon Protocol

ถ้าคุณต้องการดูคู่เทรด Web 3.0 ใน Decentralized Exchange แพลตฟอร์มอย่าง DEXTools.io ก็ถือเป็นแหล่งข้อมูลชั้นดี ที่คุณสามารถวิเคราะห์คู่การเทรดแบบ Cross-chain และคู่ต่างๆ ได้ โดยจะถูกจัดอันดับด้วยระบบคะแนนสุดพิเศษ ทั้งยังมีการลิสต์คู่เหรียญใหม่ๆ รวมถึงแสดงราคาโทเค็นและสภาพคล่องอีกด้วย โดยคุณจะสามารถติดตามคู่เหรียญที่ชอบได้ตลอดเวลาเพื่อตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกของตลาดนั่นเอง

วิธีค้นหา ICO ที่น่าสนใจที่สุด

การค้นหาเหรียญ ICO ที่ดีที่สุดอาจเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดคริปโตอิ่มตัวแบบนี้ เว็บไซต์อย่าง CoinMarketCap, Twitter, Reddit/CryptoCurrency, CoinList, และ CoinGecko ก็เป็นแพลตฟอร์มในการหาโปรเจกต์มาใหม่ที่เหมาะสุดๆ แต่คุณต้องศึกษาโปรเจกต์อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง

ตัวชี้วัดที่บ่งบอกว่าโปรเจกต์จะอยู่ภายใต้ทีมงานที่ดี ได้แก่ ทีมพัฒนาที่ได้รับการตรวจสอบและเปิดเผยต่อสาธารณะ แผนการพัฒนาและเอกสารข้อมูลที่ชัดเจน และผู้ติดตามบนโซเชียลที่มั่นคง – ควรตรวจสอบการมีส่วนร่วมของโพสต์ และระวังบอทหรือบัญชีสแปมด้วย

เทคนิคด้านล่างจะสามารถช่วยแยกเหรียญ ICO ที่มีศักยภาพสูงออกมาจากโปรเจกต์ที่มีแนวโน้มว่าจะล้มเหลว:

ทบทวนเอกสารข้อมูลและแผนการพัฒนาของโปรเจกต์

สิ่งสำคัญคือการทบทวนเอกสารข้อมูล ซึ่งจะช่วยบอกว่าโปรเจกต์จะมีอายุยืนยาวหรือไม่ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในความสำเร็จของเหรียญ ICO และควรตรวจสอบว่าเอกสารข้อมูลมีไวยากรณ์และการสะกดคำที่ถูกต้องชัดเจน ไม่อย่างนั้นโปรเจกต์ก็แนวโน้มว่าจะทำขึ้นมาแบบเร่งรีบ

เหรียญ ICO ที่ดีที่สุดมักจะมีเอกสารข้อมูลแสดงรายละเอียดชัดเจนว่าโปรเจกต์มีเป้าหมายอะไร และมีแผนจะทำแบบนั้นยังไง พร้อมมุ่งใช้ Blockchain ในการเสนอวิธีแก้ปัญหาในโลกจริง แม้ว่าบางโปรเจกต์ โดยเฉพาะเหรียญมีม จะสร้างผลตอบแทนได้จากการเกิดกระแสและได้รับแรงผลักดันเท่านั้น

เอกสารข้อมูลควรมี Tokenomic ที่ละเอียด ซึ่งเป็นส่วนรายละเอียดวิธีการแจกจ่ายโทเค็นและราคา โดยจะสรุปอย่างชัดเจนว่าโทเค็นจะไปที่ไหน จะถูกสำรองให้กับผู้พัฒนา นักลงทุนช่วงแรก และคนทั่วไปเป็นจำนวนเท่าใด ฯลฯ

นี่เป็นข้อมูลที่มีประโยชน์มาก เพราะถ้ากลุ่มหนึ่งมีโทเค็นมากเกินไป ก็อาจใช้อิทธิพลของเหรียญจนเกินควรได้ โดยคุณยังสามารถตรวจสอบด้านการ Staking หากมี ซึ่งเป็นกลไกที่จะให้นักลงทุนสามารถนำผลตอบแทนมาลงทุนใหม่ได้สูงถึง 15% (ในกรณีของ Polkadot) ซึ่งก็เหมือนกันกับการนำเงินปันผลไปลงทุนใหม่ในรูปแบบการเงินแบบดั้งเดิม ซึ่งเป็นวิธีที่ดีในการสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว

ใช้โซเชียลมีเดีย

อีกเทคนิคในการค้นหาเหรียญ ICO ที่ดีที่สุดคือการใช้โซเชียลมีเดีย เช่น Twitter และ Reddit ที่ได้กลายมาเป็นแหล่งข้อมูลที่มีคุณค่าสำหรับนักลงทุนคริปโตที่ให้ข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์ในด้านความคืบหน้าของโปรเจกต์ เนื่องจากการตลาดมีบทบาทสำคัญต่อความสำเร็จของ ICO ซึ่งทีมพัฒนาส่วนใหญ่ก็จะเน้นไปที่ที่โซเชียลมีเดียเพื่อเสริมให้ชุมชนมีการสนับสนุนที่แข็งแกร่งมากขึ้น

Reddit เป็นแหล่งข้อมูลที่มีประโยชน์อย่างยิ่ง โดยมี subreddit อย่าง /r/CryptocurrencyICO/ ซึ่งทุ่มเทให้กับเหรียญ ICO ทั้งยังเพิ่มบริบทให้กับการลงทุนของคุณ และให้มุมมองที่อาจไม่มีบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการหรือเอกสารข้อมูล โดย Reddit ถือว่ามีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับโทเค็นมีม เช่น Doge (สมาชิก 2.4 ล้านราย) และ Shiba Inu (สมาชิก 400,000 ราย) และการเคลื่อนไหวขนาดใหญ่ก็สามารถเติบโตบน Reddit เพื่อสนับสนุนโปรเจกต์คริปโตอีกด้วย

สำหรับการข่าวสารการระดมทุน ICO คุณจะต้องเข้าร่วม Discordซึ่งมีการแจกของรางวัลและข้อมูลใหม่ๆ เหมือนกับ Telegram โดยกลุ่ม Discord ที่ยอดนิยมในการลงทุน ICO ได้แก่ Jacob Crypto Bury (ดีที่สุดโดยรวม) Crypto Hub (เหมาะสำหรับมือใหม่) และ Satoshi’s Insights (เหมาะสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก) ชุมชนขนาดใหญ่ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มเหล่านี้พร้อมการอัพเดตข่าวสาร โปรโมชั่น และประกาศเป็นประจำ ซึ่งถือว่ามีประโยชน์สำหรับเหรียญ ICO และโปรเจกต์ที่เพิ่งเปิดตัว

Twitter มีประโยชน์สำหรับข่าวด่วน โดยคนดัง เช่น Justin Sun (Tron), Changpeng Zhao (Binance), และ Sam Bankman Fried (เดิมชื่อ FTX) ก็มักจะทวีตถึงเหตุการณ์ใหม่ๆ โดยคุณสามารถรับข่าวด่วนบน Twitter ได้โดยตรงจากผู้ก่อตั้งบริษัท แม้ว่าโปรเจ็กต์ใหม่ๆ จะมีบัญชี Twitter แต่ก็จะแพร่หลายมากขึ้นเมื่อโปรเจ็กต์ Web 3.0 มีการเติบโตเพิ่มขึ้น

Youtube เป็นอีกหนึ่งแหล่งข้อมูลที่ยอดเยี่ยม โดย JacobCryptoBury ได้เจาะลึกการลิสต์ ICO และให้ข้อมูลเชิงลึกและมุมมองเพิ่มเติม ซึ่งข้อมูลจากกลุ่มหรือจากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ถือเป็นประโยชน์ และจะช่วยร่นระยะเวลาการเรียนรู้ได้อย่างมาก

แหล่งข้อมูล Youtube ที่มีประโยชน์อื่นๆ ได้แก่ Ivan on Tech (สมาชิก 250,000 ราย) และ BitBoy Crypto (สมาชิก 1.45 ล้านคน) แต่ละช่องครอบคลุมมุมมองที่แตกต่างกันโดย Ivan on Tech จะนำผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมต่างๆ เข้ามาเพื่อเป็นมุมมองเพิ่มเติม ส่วน BitBoy crypto จะมุ่งเน้นไปที่การสร้างรายได้อย่างรวดเร็ว และครอบคลุมข่าวสารล่าสุดและอัพเดตในอุตสาหกรรม

ใช้ประโยชน์จากปฏิทิน ICO

ปฏิทิน ICO จะให้คุณสามารถดูตลาดโดยรวม ตั้งแต่วันที่เริ่มต้นและสิ้นสุด, Blockchain, และจำนวนการระดมทุน ICO ที่คาดว่าจะเพิ่มในแคมเปญได้ จากนั้นคุณก็จะสามารถเจาะลึก ICO เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมได้

เว็บไซต์ยอดนิยมสำหรับเหรียญ ICO ที่กำลังจะเปิดตัวและที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ ได้แก่ ICO Drops และ CoinCodex’s ICO Calendar ซึ่งจากปฏิทินด้านล่าง ก็มีโปรเจกต์ที่กำลังจะเปิดตัว 3 โปรเจกต์ ได้แก่ Dogeverse, Sealana, และ WienerAI ซึ่งเป็น 3 พรีเซลล์บน Coincodex ตามมาด้วย oZone Chaing และ Wall Street Memes โดยคุณสามารถดูรอบปัจจุบันและวันที่เริ่มต้น/สิ้นสุดได้

ประโยชน์ของปฏิทินเหล่านี้คือคุณสามารถกรองปฏิทินให้เหมาะกับความต้องการของคุณได้ โดยคุณสามารถกรองพรีเซลล์ที่กำลังจะเปิดหรือที่กำลังเปิดอยู่ หรือประเภทของ Blockchain (BTC, Ethereum, Solana, ฯลฯ) เพื่อเพิ่มความละเอียดในการค้นหายิ่งขึ้น คุณอาจจำเป็นต้องลงทะเบียนโปรเจ็กต์ล่วงหน้าเพื่อเข้าร่วมในช่วงต้นในราคาที่ต่ำที่สุดได้ เมื่อพิจารณาถึงความต่างระหว่างราคาเริ่มต้นและราคาสุดท้าย นี่จึงถือเป็นข้อได้เปรียบในมุมมองของการลงทุน

ปฏิทิน ICO ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการศึกษาไปอีกระดับ โดยคุณสามารถเลือก ICO ที่กำลังจะเปิดตัวหรือที่เปิดตัวแล้วซึ่งตรงกับเกณฑ์การค้นหาของคุณ และลงทุนเมื่อโปรเจกต์เปิดระดมทุน ถ้าคุณกำหนดเวลาการลงทุนของคุณ คุณก็จะมีโอกาสน้อยลงที่จะได้ลงทุนในเหรียญ ICO ที่เป็นกระแสอย่างไม่ยั้งคิด

ตรวจสอบสภาพคล่อง

หนึ่งในสิ่งที่ถูกมองข้ามมากที่สุดของการลงทุนในเหรียญ ICO คือการทำความเข้าใจสภาพคล่องของโทเค็น เป็นไปได้ที่จะซื้อโทเค็นโดยที่คุณไม่รู้ตัวเลยว่าคุณอาจไม่สามารถขายโทเค็นได้ในช่วงระยะเวลาล็อก/ปล่อยเหรียญ ซึ่งหมายความว่าคุณจะจ้องถือโทเค็นเอาไว้หลังจากระยะเวลาที่กำหนด โดยระยะเวลาการปล่อยเหรียญจะถูกบังคับใช้เพื่อป้องกันการเก็งกำไรและรับประกันการเติบโตของระบบนิเวศในระยะยาว

ระยะเวลาปล่อยเหรียญคือช่วงที่โทเค็นถูกล็อก จนกว่าจะตรงตามเงื่อนไขที่กำหนด โดยโทเค็นจำนวนหนึ่งจะถูกปล่อยออกมาตามช่วงเวลาที่กำหนด เพื่อเพิ่มความเสถียรของราคาและเป็นแรงจูงใจสำหรับนักลงทุน ทั้งยังช่วยรักษาความสมบูรณ์ของโปรเจกต์อีกด้วย

ผลประโยชน์ที่สำคัญคือการจัดทีมงานและนักลงทุนในช่วงแรกให้สอดคล้องกับความสำเร็จในระยะยาวของโปรเจกต์ เช่น ทีมงานอาจได้รับโทเค็น 20% หลังจากปีแรก (ช่วง “ปล่อยเหรียญ”) และส่วนที่เหลืออีก 80% จะปล่อยออกมาเป็นรายเดือนในช่วง 4 ปีหรือมากกว่านั้น

แม้ว่าคุณจะมีโทเค็นขาย แต่ก็อาจไม่มีตลาดสำหรับโทเค็นนั้น โดยโทเค็นที่ถูกลิสต์เข้า Decentralized Exchange มักจะมีสภาพคล่องน้อยกว่าบน Centralized Exchange มาก ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องตรวจสอบระยะเวลาการปล่อยเหรียญ ICO/IDO ใหม่ๆ และเพื่อให้แน่ใจว่าโทเค็นจะมีสภาพคล่องเพียงพอสำหรับที่จะขาย โดยระยะการทยอยให้เหรียญที่เปิดตัว IEO มักจะมีสภาพคล่องที่ดีขึ้นมาก โดยเฉพาะเมื่อเป็นกระดานเทรดขนาดใหญ่ เช่น Binance

มีส่วนร่วมใน Web 3.0

วิธีที่รวดเร็วที่สุดในการทำความเข้าใจการระดมทุน ICO คือการเข้าร่วม โดยคุณสามารถลงทุนได้ที่ 20 ดอลลาร์ ซึ่งในหลายๆ กรณี ด้วยเงิน 100 ดอลลาร์ คุณจะสามารถลงทุนในเหรียญ ICO ได้ห้าโปรเจกต์และติดตามประสิทธิภาพของแต่ละโปรเจกต์ได้ ถือเป็นการตัดสินใจลงทุนที่ดีกว่าการทุ่มทุนจำนวนมากในโปรเจกต์ใหม่ๆ ที่กำลังจะ “To the Moon” (อย่างน้อยก็ตามที่ผู้พัฒนาเคลมไว้)

หรือคุณจะเทรดแบบเต็มเวลาหรือนอกเวลากับสตาร์ทอัพ Web 3.0 ที่เกี่ยวข้องกับข้อเสนอโทเค็น โดยนักพัฒนาสัญญาอัจฉริยะกำลังเป็นที่ต้องการ – โดยมีการปรับใช้สัญญาอัจฉริยะ Ethereum 117,000 สัญญาในปี 2022 ในขณะที่มีเพียง 205,000 สัญญาที่ใช้งานตั้งแต่ปี 2015 ถึง 2021 และการพัฒนาสัญญาอัจฉริยะไม่ได้เชื่อมโยงกับราคาคริปโต ซึ่งหมายความว่าคุณอาจไม่ตกงานเพียงเพราะว่าราคาเหรียญ Bitcoin กลับกลายเป็นขาลง

ส่วนหน้าที่อื่นๆ ก็ได้แก่ คอนเทนต์ครีเอเตอร์ นักการตลาด วิศวกรเครือข่าย ผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO ที่ปรึกษา นักกฎหมาย และอื่นๆ ในลักษณะนี้ คุณจะเห็นว่าบริษัทดำเนินการสร้างเหรียญ ICO ได้อย่างไร และนี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการทำความเข้าใจกระบวนการนี้โดยตรง หวังว่าคุณจะเห็นได้ว่าICO ที่น่าสนใจและมีคุณภาพสูงทำงานยังไงในทางปฏิบัติ เพื่อเป็นโอกาสในการลงทุนตั้งแต่เนิ่นๆ

ความเสี่ยงของการระดมทุน ICO

เหรียญ ICO มีความเสี่ยง โดยสาเหตุหลัก ได้แก่ การขาดการควบคุมด้านกฎระเบียบ ความคาดหวังที่เกินจริงของนักลงทุน และความผันผวน/การปั่นตลาด

การขาดการควบคุมด้านกฎระเบียบ

หนึ่งในความเสี่ยงหลักของเหรียญ ICO คือการขาดการควบคุมด้านกฎระเบียบ โดยทั่วไป ICO จะไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบและข้อกำหนดที่เข้มงวด การขาดกฎระเบียบนี้ทำให้นักลงทุนเสี่ยงต่อการถูกหลอกลวง การฉ้อโกง และการปั่นตลาด

หากไม่มีการควบคุมดูแลอย่างเหมาะสม ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะเจอกับโปรเจกต์ปลอมหรือคนที่อาจบิดเบือนเจตนาของโปรเจกต์ไป เพิ่มมูลค่าโทเค็น หรือหายไปพร้อมกับเหรียญ ซึ่งมักเป็นการ Rug Pull และการดันแล้วทุบเหรียญ

Rug Pull คนสร้างเหรียญคริปโตจะจงใจขโมยสภาพคล่องหรือมูลค่าของโทเค็น ส่งผลให้นักลงทุนมีโทเค็นที่ไร้ค่า โดยทีมงานของโปรเจกต์จะสามารถลบสภาพคล่องออกจากกระดานแลกเปลี่ยน หรือเขียนโค้ดโทเค็นเพื่อไม่ให้ขายได้

การดันแล้วทุบเหรียญ เป็นการปั่นโทเค็น (มักจะมีราคาสูงขึ้น) ผ่านโปรโมชั่นหรือการปั่นตลาดโดยตรง เมื่อราคาสูงขึ้น ผู้ฉ้อโกงจะเทขายโทเค็นทิ้ง โดยเหรียญ ICO ปลอมๆ จะถูกมองว่าเป็น Rug Pull มากกว่า ซึ่งทีมงานหลักตั้งใจที่จะนำเงินทุนของนักลงทุนออกจากตลาด

การขาดการกำกับดูแลด้านกฎระเบียบคือสิ่งที่ดึงดูดให้นักพัฒนาเหรียญ ICO ปลอมเข้ามา โดยมีนักลงทุนจำนวนมากที่กระตือรือร้นที่จะเข้าร่วม Web 3.0 ซึ่งสามารถทำกำไรมหาศาลได้ และก็มีรูปแบบการระดมทุนที่ไม่บังคับใช้ขั้นตอนการปฏิบัติตาม KYC ใดๆ

ซึ่งทำได้ง่ายๆ เพราะตลาดคริปโตไม่ได้รับการควบคุม – ทั้งยังง่ายต่อเทรดเดอร์ที่จะปั่นราคาโทเค็นและหนีหายไปจากตลาด เมื่อไม่นานมานี้ ตลาดคริปโตก็ได้มีข้อกำหนดเพิ่มเข้ามา และยังคงใช้กระดานเทรดที่มีปริมาณการซื้อขายสูงซึ่งแตกต่างจากกระดานเทรด DEX ขนาดเล็ก

เหรียญ ICO ปลอมจะสามารถซ่อนความคืบหน้าในการระดมทุน ป้องกันไม่ให้นักลงทุนสังเกตจำนวนเงินที่ระดมทุนได้และเวลาที่เหลือ บ่อยครั้งที่โปรเจกต์จะอ้างว่า “รีบซื้อเหรียญ” ก่อนหมดเวลา ถ้าคุณเจอความไม่โปร่งใสในการระดมทุน ICO ให้ติดตามโปรเจกต์ต่อไปว่ามีการควบคุมหรือไม่

ความคาดหวังที่เกินจริง

ความเสี่ยงอีกอย่างอยู่ที่คุณภาพและการมองเห็นของโปรเจกต์ที่ทำให้เข้าใจผิดหรือไม่อยู่บนพื้นฐานของข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง เหรียญ ICO จำนวนมากเปิดตัวตามเอกสารข้อมูลหรือคอนเซ็ปต์ที่ไม่มีผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานได้จริงหรือประวัติที่พิสูจน์แล้ว

นักลงทุนมักจะสนับสนุนตามคำสัญญาและการเก็งกำไรของโปรเจกต์ โดยไม่มีหลักฐานที่เป็นรูปธรรมถึงความเป็นไปได้หรือศักยภาพในการประสบความสำเร็จของโปรเจกต์ หลายคนมักลืมไปว่าพวกเขากำลังลงทุนในกระดาษแผ่นหนึ่ง ซึ่งเป็นเพียงเอกสารทางทฤษฎี และนั่นคือสิ่งที่เหรียญ ICP เป็นและยังไม่ได้เปิดตัวให้ใช้งานจริงๆ

เป็นผลให้มีความเสี่ยงสำหรับโปรเจกต์ที่ไม่สามารถทำตามสัญญาหรือไม่เคยเกิดขึ้นจริงเลย ทำให้นักลงทุนสูญเสียเงิน และยังมีความเสี่ยงที่การกระจายโทเค็นและการกำกับดูแลที่ไม่ดี

ในบางกรณี โปรเจกต์ ICO จะจัดสรรโทเค็นให้กับทีมพัฒนา ซึ่งนำไปสู่การรวมตัวของอำนาจและความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น หากไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม อาจส่งผลให้เกิดการตัดสินใจที่ไม่สอดคล้องกับผลประโยชน์สูงสุดของผู้ถือโทเค็น ส่งผลให้คุณค่าการลงทุนลดลงอีก

มีหลายโปรเจกต์ที่เคลมแบบไม่มีหลักฐานซึ่งมาเพื่อดึงดูดนักลงทุน โดยมีโปรเจกต์อย่าง “นักฆ่า Ethereum” มากมาย แต่ Ethereum ก็ยังไม่เคยถูกฆ่า และอาจจะไม่มีทางเลยก็ได้ เพียงเพราะโปรเจกต์มีเอกสารข้อมูลและคอนเซ็ปต์ที่น่าสนใจนั้นไม่ได้หมายความว่าโปรเจกต์จะประสบความสำเร็จหรือทำได้ตามที่เคลมไว้แต่อย่างใด

ความผันผวนและการปั่นตลาด

ความผันผวนของตลาดคริปโตทำให้เกิดความเสี่ยงต่อนักลงทุน ICO เพิ่มเติม โดยมูลค่าของเหรียญคริปโตอาจประสบกับความผันผวนของราคาอย่างมีนัยสำคัญ และความผันผวนนี้ขยายไปถึงโทเค็น ICO ด้วยเช่นกัน โดย Bitcoin มีความเสถียรที่สุดในตลาด ซึ่งสาเหตุหลักมาจากปริมาณการซื้อขายที่สูง และมีความผันผวนอย่างมาก ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลที่โทเค็น ICO ที่มีปริมาณที่ต่ำกว่าจะมีโอกาสที่จะเติบโตขึ้นเช่นกัน

เหรียญคริปโตที่มีปริมาณการซื้อขายสูงจะมีการเคลื่อนไหวของราคาไม่เยอะเพราะต้องมีการซื้อมากๆ เพื่อที่จะปั่นราคา หากมูลค่าตลาดของโทเค็นอยู่ที่ 500 ล้านดอลลาร์ คุณจะต้องใช้เงินก้อนใหญ่มากจึงจะขับเคลื่อนราคาได้ แต่หากมูลค่าตลาดของโทเค็นมีเพียง 1 ล้านดอลลาร์ จำนวนเงินที่ต้องการก็จะค่อนข้างน้อยสำหรับนักลงทุนบางคนและบางสถาบัน

นอกจากนี้ ตลาดแบบดั้งเดิมได้รับการควบคุมอย่างเข้มงวดมาโดยตลอด โดยมีมาตรการป้องกันมากมายเพื่อต่อต้านคนที่จะเข้ามาปั่นราคา โดยกฎระเบียบภายในตลาดคริปโตยังไม่เข้มงวดนัก และแทบจะไม่มีเลยในปี 2017 ซึ่งเป็นช่วงที่เหรียญ ICO ได้รับความนิยมเป็นพิเศษ

วิธีการลงทุนในเหรียญ ICO

การลงทุนในโทเค็น ICO นั้นเรียบง่าย โดยคุณจะยังต้องทำความคุ้นเคยกับกระบวนการเหล่านี้เพื่อเก็บเหรียญที่ซื้อมาอย่างปลอดภัย

ขั้นที่ 1 – เลือกเหรียญ ICO

คุณต้องค้นหาโครงการที่มีโอกาสประสบความสำเร็จ โดยตรวจสอบปฏิทิน ICO เพื่อดูว่าโปรเจกต์ใดตรงกับความต้องการของคุณ

เมื่อตัดสินใจได้แล้ว ไปที่หน้าเว็บเพื่อดูว่าโทเค็นประเภทใดที่คุณต้องการลงทุนในโปรเจกต์ โดยต้องซื้อเหรียญคริปโตที่ ICO ยอมรับหรือกำหนด โดย USDT และ ETH เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป หากเป็น ICO ที่รองรับ Binance คุณก็อาจต้องใช้ BNB แทน

หน้าเว็บอย่างเป็นทางการควรต้องแสดงข้อมูลสำคัญของโปรเจกต์ (ธีม อุตสาหกรรม ราคาโทเค็น ระยะเวลาการปล่อยเหรียญ ฯลฯ) ซึ่งจำเป็นในการตัดสินใจว่าคุ้มค่าในการลงทุนหรือไม่

ขั้ยที่ 2 – ซื้อเหรียญคริปโต

คุณจะต้องมีเหรียญคริปโตซึ่งส่วนใหญ่เป็น ETH หรือ Stablecoin เช่น USDT, USDC, BUSD เป็นต้น โดยคุณสามารถตรวจสอบโทเค็นที่ ICO ยอมรับได้ในหน้าพรีเซลล์ คุณอาจต้องเข้าร่วมกระดานเทรดเพื่อซื้อ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ ICO (ในทางเทคนิคแล้วจะเป็น IEO แต่ก็มักใช้สลับกันได้)

ขั้นที่ 3 – ส่งเหรียญไปที่ Web 3.0 Wallet และซื้อ

คุณจะต้องส่งเหรียญไปยัง Web 3.0 Wallet เช่น MetaMask และ Wallet Connect ซึ่งจะให้คุณเข้าถึงโลกของโทเค็น Web 3.0 เพียงไปหน้าดาวน์โหลด MetaMask และตั้งค่าบัญชีของคุณ อย่าลืมจัดเก็บ Private Key ให้ปลอดภัยด้วย

ตัวอย่างเช่น MetaMask จะเป็นส่วนขยายเบราว์เซอร์ที่เชื่อมต่อกับไซต์ Web 3.0 เมื่อคุณไปที่หน้าพรีเซลล์/ICO ทาง MetaMask Wallet ของคุณจะเชื่อมต่อกับเว็บไซต์ โดยคุณสามารถซื้อโทเค็น ICO ได้โดยใช้เหรียญใน MetaMask Wallet นั้นเอง ไปที่หน้า ICO อย่างเป็นทางการ เชื่อมต่อ MetaMask Wallet และทำการซื้อ ซึ่งจะใช้เวลาไม่เกินหนึ่งนาทีในการดำเนินการธุรกรรม

พรีเซลล์ เช่น Dogeverse หรือ Sealana นั้นยังลงทุนได้ง่ายๆ โดยมีคำแนะนำที่ชัดเจนในหน้าเว็บอย่างเป็นทางการ โดยคุณสามารถลงทุนในโปรเจกต์เหล่านี้เพื่อทำความเข้าใจโลกของเหรียญ ICO ให้ดียิ่งขึ้น และเพื่อเริ่มต้นการลงทุนในเหรียญคริปโต แม้ว่าผลลัพธ์ของการลงทุนจะไม่มีทางรับประกันได้ แต่คุณก็ต้องลองเสี่ยงลงทุนด้วยเงินจำนวนหนึ่งเพื่อรับประสบการณ์จริง

โปรดเข้าใจว่าวิธีการลงทุนใน ICO นั้นอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณและข้อกำหนดของ ICO ทั้งยังยังมีเรื่องความแตกต่างระหว่าง Launchpad ของโปรเจกต์ ประเภทการระดมทุน (IDO, ICO, IEO) ข้อกำหนดขั้นต่ำ และเกณฑ์อื่นๆ ที่คุณจะพบได้ที่หน้าเว็บอย่างเป็นทางการและจากข้อมูลที่คุณศึกษามาเองเท่านั้น

เหรียญ ICO เป็นการลงทุนที่ดีหรือไม่?

แม้ว่า ICO จะเป็นที่นิยมในตลาดคริปโตอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ถือเป็นการลงทุนที่ดีได้หรือไม่? ซึ่งก็มีเหตุผลว่าทำไม ICO จึงเป็นการลงทุนที่น่าพิจารณาอยู่:

• ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนที่กำลังเติบโต – การมีส่วนร่วมในเหรียญ ICO ทำให้นักลงทุนสามารถเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนที่กำลังเติบโตในช่วงแรกได้ ซึ่งเป็นประโยชน์ในการทำให้คนที่มีความคิดเหมือนกันสามารถโต้ตอบกันและสร้างความสัมพันธ์ พร้อมทั้งสามารถให้ข้อเสนอแนะแก่ทีมพัฒนาโปรเจกต์ด้วย
• ศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนมหาศาล – ประโยชน์หลักของการลงทุนใน ICO ก็คือศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่สูง เพราะ ICO ส่วนใหญ่เปิดขายโทเค็นในราคาที่ถูกลง นักลงทุนในช่วงแรกจึงอยู่ในตำแหน่งที่จะจะได้รับประโยชน์เมื่อโทเค็นนั้นๆ ถูกลิสต์เข้ากระดานเทรด โดยโปรเจกต์ต่างๆ จะเสนอราคาที่ถูกลงเพื่อเริ่มต้นการพัฒนาหรือเพื่อเพิ่มความน่าสนใจ ซึ่งจะดึงดูดการลงทุนให้มากขึ้นและเพิ่มโอกาสที่โปรเจกต์จะประสบความสำเร็จยิ่งขึ้นนั่นเอง
• สิทธิพิเศษเฉพาะ – เหรียญคริปโต ICO จำนวนมากจะเสนอสิทธิประโยชน์พิเศษเพื่อดึงดูดนักลงทุนรายแรกๆ ซึ่งอาจรวมถึง NFT ระดับพรีเมียมหรือการเข้าถึงสินค้า ทั้งยังอาจมีเซิร์ฟเวอร์ Discord ส่วนตัวที่นักลงทุน ICO เท่านั้นที่สามารถเข้าร่วมได้ เพื่อเป็นแรงจูงใจให้เข้าร่วม

ขอย้ำอีกครั้งว่า ICO ไม่รับประกันผลกำไรแม้ว่าโปรเจกต์จะมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งและมีศักยภาพสูง สุดแล้วตลาดจะตัดสินเองว่าโปรเจกต์จะประสบความสำเร็จหรือความล้มเหลว

สิ่งสำคัญสำหรับนักลงทุนคือต้องยอมรับความเสี่ยงของตนเอง เนื่องจาก ICO มีความเสี่ยงและมีความผันผวนมากกว่าการลงทุนในเหรียญคริปโตชั้นนำเช่น Bitcoin หรือ Ethereum

เหรียญ ICO ที่ดีที่สุด – บทสรุป

บทความนี้ได้เจาะลึกเหรียญ ICO ที่ดีที่สุดในปี 2024 โดยครอบคลุมถึงสิ่งที่โปรเจกต์นำเสนอและเหตุผลที่ทำให้ได้รับความนิยมสูง ด้วยกรณีการใช้งานที่เป็นนวัตกรรมของโปรเจกต์เหล่านี้ โดยนักลงทุนก็ยังคงกระตือรือร้นที่จะเฝ้าดูว่าโปรเจกต์จะเป็นอย่างไรต่อไปในอนาคต

ผู้ลงทุนควรจำไว้ว่าควรให้น้ำหนักในเรื่องความเสี่ยงเท่ากับผลตอบแทนที่เป็นไปได้ เพื่อหลีกเลี่ยงโปรเจกต์ ICO จำนวนมากที่ไม่มีความเป็นไปได้ในระยะยาว ไม่รับประกันผลตอบแทน โดยเฉพาะในตลาดคริปโตที่มีความผันผวนแบบนี้

หนึ่งใน ICO คริปโตที่ดีที่สุดในขณะนี้คือ Dogeverse ($DOGEVERSE) เป็นโปรเจกต์เหรียญมีมแบบ Multi-chain สกุลแรก ที่เปิดให้เข้าถึงบน 6 เครือข่าย Blockchain พร้อมปรับปรุงการเชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายและลดต้นทุนการทำธุรกรรม โทเค็น $DOGEVERSE ให้ผลตอบแทนจากการ Staking มหาศาลและระดมทุนได้มากกว่า 300,000 ดอลลาร์ภายในวันแรกของพรีเซลล์

อ้างอิง

• https://mashable.com/article/majority-ico-scams
• https://www.reuters.com/legal/ripple-says-recent-supreme-court-ruling-weighs-its-favor-sec-case-2023-03-03/
• https://www.wsj.com/articles/new-rules-of-fomo-essay-11587426413
• https://www.alchemy.com/blog/web3-developer-report-q3-2022
• https://shapeshift.com/
• https://www.coinbase.com/
• https://www.exodus.com/
• https://www.coindesk.com/markets/2023/05/05/pepecoins-bewildering-rise-turned-a-pittance-into-an-almost-5000000-meme-coin-profit/
• https://coincodex.com/ico/ethereum/
• https://coincodex.com/ico/cardano/
• https://www.bloomberg.com/news/articles/2018-07-09/half-of-icos-die-within-four-months-after-token-sales-finalized#xj4y7vzkg
• https://www.wsj.com/articles/inside-the-chaotic-launch-of-eos-the-blockchain-project-that-raised-4-billion-1528810352
• https://www.cnbc.com/2018/05/17/cryptocurrencies-sec-needs-to-set-regulations-for-icos.html
• https://www.ledger.com/academy/what-is-a-rug-pull
• https://www.sofi.com/learn/content/pump-and-dump-schemes/
• https://www.sec.gov/oiea/investor-alerts-and-bulletins/ia_icorelatedclaims
• https://www.zdnet.com/article/here-are-the-warning-signs-of-a-fraudulent-ico/
• https://icodrops.com/ethereum/
• https://research.bloomberg.com/pub/res/d28giW28tf6G7T_Wr77aU0gDgFQ
• https://www.statmuse.com/money/ask/bitcoin+price+2013
• https://synapse.network/
• https://www.bscpad.com/
• https://coincodex.com/ieo-list/binance/
• https://www.bnbchain.org/en/blog/a-journey-to-decentralization-validators-delegators/
• https://securrency.com/
• https://www.tokensoft.io/
• https://www.tandfonline.com/doi/full/10.1080/10438599.2021.1982712
• https://defillama.com/?volume=true
• https://www.sec.gov/news/press-release/2023-101
• https://www.web3informer.com/web3-basics-understanding-crypto-vesting/
• https://coinmarketcap.com/alexandria/article/what-is-dao-maker
• https://www.dextools.io/app/en/ether/pool-explorer
• https://kingpassive.com/ico-beginners-guide/
• https://icodrops.com/
• https://coincodex.com/ico-calendar/
• https://www.dividend.com/dividend-investing-101/dividend-reinvestment-plans-drips/
• https://www.statista.com/chart/27577/cryptocurrency-volatility-dmo/
• https://metamask.io/
• https://www.theatlantic.com/technology/archive/2022/11/sam-bankman-fried-crypto-twitter-posting/672191/
• https://www.dividend.com/dividend-investing-101/dividend-reinvestment-plans-drips/
• https://www.stakingrewards.com/earn/polkadot/
• https://www.youtube.com/c/JacobCryptoBury
• https://www.youtube.com/channel/UCjemQfjaXAzA-95RKoy9n_g
• https://www.coindesk.com/tech/2022/02/10/the-top-ethereum-killers-compared/
• https://icodrops.com/ico-stats/

คำถามที่พบบ่อย

การระดมทุน ICO ทำงานยังไง?

การระดมทุน ICO ทำงานได้เมื่อมีการประกาศ และนักลงทุนในช่วงแรกจะมีโอกาสซื้อโทเค็นโดยใช้เหรียญคริปโต ‘ตัวกลาง’ เช่น ETH หรือ BNB โดยทีมงานของโปรเจกต์จะจัดเตรียมที่อยู่ Crypto Wallet เพื่อส่งเหรียญไปเพื่อแลกกับโทเค็น โดยที่ราคาโทเค็นจะคงที่หรือแปรผัน ขึ้นอยู่กับความต้องการในตลาด

การลงทุนในเหรียญ ICO เป็นความคิดที่ดีหรือไม่?

การลงทุนอาจมีความเสี่ยง เพราะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของ ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าโปรเจกต์เหล่านี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่ แต่นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงกว่าก็มักจะสร้างผลตอบแทนได้มากเมื่อโปรเจกต์ ICO เข้ากระดานเทรดหลัก เพราะพวกเข้าได้ซื้อโทเค็นไปในราคาที่ถูกลงนั่นเอง

สามารถซื้อเหรียญ ICO ได้ยังไง?

สามารถซื้อได้โดยไปที่หน้าเว็บโปรเจกต์และเชื่อมต่อกับ Crypto Wallet โดยนักลงทุนจะสามารถซื้อโทเค็นโดยใช้เหรียญตัวกลาง (เช่น ETH, BNB) หลังจากนั้นทีมของโครงการจะส่งโทเค็นตามจำนวนที่ซื้อไปยัง Crypto Wallet ของนักลงทุน

Ethereum เป็นเหรียญ ICO หรือไม่?

Ethereum เป็นเหรียญที่เปิดตัวเมื่อปี 2014 โดยระดมทุนได้ 7,000,000 ETH (ประมาณ 2.2 ล้านดอลลาร์) ใน 12 ชั่วโมงแรกของการขาย เมื่อพรีเซลล์สิ้นสุด ทีมพัฒนาโปรเจกต์ก็สามารถระดมทุนไปได้กว่า 18.3 ล้านดอลลาร์

เหรียญ ICO ที่น่าซื้อที่สุดในปี 2024 คืออะไร?

จากโครงการทั้งหมดที่เราได้สำรวจดู Dogeverse, Sealana, และ WienerAI มีมูลค่าที่แท้จริงและมีศักยภาพในการเติบโตที่สูงสุด Dogeverse ($DOGEVERSE) เป็นเหรียญ ICO ที่น่าลงทุนที่สุดของเรา เป็นเหรียญมีมแบบ Multi-chain ที่ให้ผลตอบแทนมหาศาลต่อปี