Arbitrage คืออะไร ทำกำไรโดยไม่ต้องเสี่ยงได้จริงหรือ?
เทรดเดอร์หลาย ๆ คนพยายามมองหากลยุทธ์ในการทำกำไรในตลาดคริปโตเคอเรนซี่ ซึ่งมีหลากหลายรูปแบบของกลยุทธ์ที่น่าสนใจ รวมถึงการทำ Arbitrage ซึ่งกลยุทธ์ Arbitrage คือการทำกำไรซึ่งไม่จำเป็นจะต้องใช้เวลานาน แต่จำเป็นจะต้องคอยสังเกตความแตกต่างของราคาเพื่อหาช่องโหว่และโอกาส
คู่มือนี้จะมาแนะนำว่าอาร์บิทราจ คืออะไร เพื่อทำให้คุณมีอีกหนึ่งทางเลือกที่จะเทรดคริปโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างผลตอบแทนที่คาดหวังให้เกิดขึ้นได้จริง
Arbitrage คืออะไร
Arbitrage แปลว่าการเก็งกำไร ดังนั้น กลยุทธ์ Arbitrage คือกลยุทธ์การลงทุนที่ใช้ประโยชน์จากความแตกต่างของราคาสินทรัพย์ที่เหมือนหรือคล้ายคลึงกันในตลาดต่าง ๆ เพื่อแสวงหากำไรจากส่วนต่างของราคา โดยการซื้อสินทรัพย์ในตลาดหนึ่งและขายในอีกตลาดหนึ่งในเวลาเดียวกัน
ดังนั้น การทำ Arbitrage คือการอาศัยความแตกต่างของราคา หรือใช้ประโยชน์จากความผันผวนในชั่วขณะ ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ราคาของสินทรัพย์ในตลาดหนึ่งเบี่ยงเบนไปจากราคาในอีกตลาดหนึ่งอย่างมีนัยสำคัญการทำ Arbitrage จึงเปรียบเสมือนการแสวงหาผลประโยชน์ และมีประโยชน์ต่อการแก้ไขให้ตลาดกลับคืนสู่ความสมดุล และเป็นกลไกที่ช่วยให้นักลงทุนมั่นใจว่า ราคาสินทรัพย์จะไม่เบี่ยงเบนไปจากมูลค่าที่เหมาะสมเป็นเวลานาน
ตัวอย่างของการเทรดแบบ Arbitrage
ตัวอย่างที่สามารถอธิบายได้ง่ายที่สุดเกี่ยวกับการทำ Arbitrage คือตัวอย่างต่อไปนี้
นาย A ซื้อหุ้นของบริษัท X ในตลาดหลักทรัพย์ M ที่ราคา 20 ดอลลาร์ ในขณะเดียวกัน หุ้น X ก็ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ N เช่นกัน แต่ราคาอยู่ที่ 20.05 ดอลลาร์ ดังนั้น นาย A สามารถซื้อหุ้นใน M และขายหุ้นที่ N ได้ทันที พร้อมสร้างผลตอบแทน 5 เซนต์ต่อหุ้น
เทรดเดอร์สามารถใช้ประโยชน์จากโอกาส Arbitrage นี้ได้จนกว่า M จะขายหมด หรือจนกว่าจะมีการปรับราคาระหว่าง M และ N ให้เท่ากัน ซึ่งโดยปกติแล้วจะใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที
ประเภทของการทำ Arbitrage
ประเภทของการทำ Arbitrage มีหลากหลาย แม้ว่าในแต่ละประเภทจะมีเป้าหมายเดียวกัน คือ การทำกำไรจากส่วนต่างของราคา แต่ก็มีไม่กี่ประเภทที่คนส่วนใหญ่นิยมเลือกใช้ ประเภทหลัก ๆ ที่เทรดเดอร์นิยมทำ Arbitrage คือรูปแบบ ต่อไปนี้
1. Simple Arbitrage
Simple Arbitrage เป็นกลยุทธ์พื้นฐานตามที่เรากล่าวถึงไปแล้วข้างต้น ซึ่งเป็นการซื้อสินทรัพย์ประเภทเดียวกันในตลาดที่แตกต่างกันและทำกำไรจากส่วนต่างของราคา ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์ที่คนส่วนใหญ่ใช้สร้างผลตอบแทนมาอย่างยาวนาน
2. Triangular Arbitrage
Triangular Arbitrage คือการทำ Arbitrage ระหว่างสกุลเงิน 3 สกุลเงิน ซึ่งมีความซับซ้อนมากกว่าแบบ Simple Arbitrage จึงทำให้วิธีนี้ไม่ได้เป็นที่แพร่หลายในหมู่นักลงทุนรายย่อย แต่มักจะเป็นวิธีทำกำไรของสถาบันการขนาดใหญ่ ที่มีการใช้เครื่องมือในการคำนวณ และวางแผนการทำ Arbitrage แบบ Auto Trading
ตัวอย่างของการทำ Arbitrage แบบนี้เกิดขึ้นระหว่าง 3 สกุลเงิน ได้แก่ สกุลเงิน A, สกุลเงิน B, USD เมื่อเราเห็นว่ามีสกุลเงิน A มีราคาต่ำลง เราจะทำการขายสกุลเงิน B ที่เรามีอยู่เพื่อไปถือในสกุลเงิน A ในขณะเดียวกัน เราก็จะขายสกุลเงิน A กลับเป็น USD ทั้งหมด เพื่อนำมาซื้อสกุลเงิน B คืนในทันที เมื่อหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้ว เราจะได้รับสกุลเงิน B ที่มีจำนวนหน่วยเพิ่มขึ้นได้นั่นเอง
3. Decentralized Arbitrage
Decentralized Arbitrage คืออีกหนึ่งรูปแบบของการสร้างผลตอบแทนระหว่างกระดานแลกเปลี่ยนที่เป็นแบบ Decentralized หากเห็นแล้วว่ามีสินทรัพย์ตัวใดตัวหนึ่งที่มีราคาที่ต่ำกว่าความเป็นจริงหรือสูงกว่าความเป็นจริง ก็จะสามารถแลกเปลี่ยน ด้วยการใช้กลุ่มสภาพคล่องที่แตกต่างกันได้ ซึ่งจะนำมาสู่การทำกำไรได้ในที่สุด
4. Statistical Arbitrage
การทำ Arbitrage ในรูปแบบนี้จะมีการใช้แบบจำลองข้อมูลและบอทเป็นตัวช่วยในการซื้อขาย เพื่อให้นักลงทุนเข้าถึงราคาที่ต่ำที่สุดและขายในราคาที่สูงที่สุดอย่างที่ต้องการได้ ดังนั้น หัวใจสำคัญของกระบวนการในการทำ Arbitrage คือการหลีกเลี่ยงการใช้มนุษย์ แต่จะเป็นกระบวนการอัตโนมัติ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงจากความผิดพลาดของมนุษย์ ช่วยประหยัดเวลา และช่วยสร้างผลตอบแทนที่มากขึ้นได้อีกด้วย
Arbitrage ทำงานอย่างไรในตลาดคริปโต
อย่างที่บอกไปแล้วว่า Arbitrage ทำงานโดยใช้ประโยชน์จากความแตกต่างของตลาด ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ราคาสินทรัพย์เบี่ยงเบนจากราคาในอีกตลาดหนึ่งอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อมีโอกาส Arbitrage เทรดเดอร์จะซื้อสินทรัพย์ในตลาดที่มีราคาต่ำกว่า และขายในตลาดที่มีราคาสูงกว่า ทำให้เกิดกำไรจากส่วนต่างราคา
แต่ช่องว่างในกลยุทธ์ Arbitrage คือสิ่งที่หายาก ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ๆ และจำเป็นต้องมีการเฝ้าดูตลาดอย่างใกล้ชิด เพื่อฉวยโอกาสนี้ไปให้ได้ ซึ่งหากคุณยังคงเป็นมือใหม่ในการลงทุนคริปโต คุณมักจะใช้เวลานานในการมองเห็นช่องว่างนี้ และกว่าจะลงมือทำอะไรสักอย่าง โอกาสนั้น ๆ ก็อาจหลุดลอยไปแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อหักต้นทุนค่าดำเนินการต่าง ๆ เช่น ค่าแก๊สหรือค่าธรรมเนียมไปแล้ว อาจไม่คุ้มค่าในการที่จะใช้กลยุทธ์ Arbitrage นี้ ดังนั้นการทำ Arbitrage ในคริสโตเคอเรนซี่จึงจำเป็นต้องใช้ทั้งความรวดเร็วในการมองโอกาสให้ออก รวมไปถึงจะต้องคำนวณต้นทุนค่าใช้จ่ายอย่างแม่นยำ เพื่อที่จะประเมินความคุ้มค่าและทำตามกลยุทธ์ที่ต้องการในทันที
ผู้ใช้กลยุทธ์ Arbitrage คือใคร?
แน่นอนว่ากลยุทธ์ Arbitrage ไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน และคนที่มีความรู้ไม่มากพอก็มีสิทธิที่จะล้มเหลวกับการใช้กลยุทธ์นี้ได้
ผู้ที่ใช้กลยุทธ์ Arbitrage คือ คนที่มักจะทำงานในสถาบันการเงินขนาดใหญ่ ทุนสูง และมักจะมีการเทรดด้วยเงินจำนวนมาก ทำให้ส่วนต่างราคาเล็ก ๆ น้อย ๆ รวมกันได้มูลค่าที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม โอกาสในการทำ Arbitrage มีอยู่เพียงชั่วขณะเท่านั้น ดังนั้น จึงต้องมีการใช้ซอฟต์แวร์ที่ซับซ้อนเพื่อช่วยให้มองหาโอกาสได้ดีมากยิ่งขึ้น
ในขณะที่ สถาบันการเงินขนาดใหญ่ เช่น ธนาคารและกองทุนเฮดจ์ฟันด์ ก็นิยมใช้กลยุทธ์ Arbitrage เช่นกัน แต่มักเป็นการทำ Arbitrage ที่มีความเสี่ยงต่ำ และเน้นการใช้เงินทุนจำนวนมากบวกกับความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ตลาด เพื่อให้ได้มาซึ่งกำไรที่จับต้องได้
ข้อดีของการทำ Arbitrage ในสินทรัพย์คริปโต คืออะไร
จากข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้น ข้อดีของการทำ Arbitrage คือ
1 ความเสี่ยงต่ำ
กลยุทธ์การเทรดแบบ Arbitrage ถือว่ามีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำมากกว่ากลยุทธ์อื่น ๆ เนื่องจากเป็นการเทรดในระยะสั้น และไม่ต้องมีการวิเคราะห์เชิงเทคนิคใด ๆ เป็นพิเศษ อาจมีเพียงการใช้บอทซื้อขาย เพื่อให้การใช้กลยุทธ์ดังกล่าวเกิดขึ้นด้วยความรวดเร็ว และประสบความสำเร็จในการทำกำไรได้
2 เทรดได้ทุกสภาวะตลาด
กลยุทธ์การทำ Arbitrage สามารถทำได้ทุกช่วงเวลา ไม่ว่าจะอยู่ในตลาดซบเซาหรือตลาดขาขึ้น โดยไม่ต้องสนใจสภาวะหรือเทรนด์การซื้อขาย อย่างไรก็ตาม การเทรดในตลาดขาขึ้นมีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้มากกว่าตลาดซบเซา
ความเสี่ยงของกลยุทธ์ Arbitrage คืออะไร
แม้ว่าความเสี่ยงในการทำ Arbitrage จะต่ำ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ากลยุทธ์การทำ Arbitrage จะไร้ความเสี่ยง ดังนั้น นักลงทุนทุกคนจึงจำเป็นจะต้องศึกษาความเสี่ยงของกลยุทธ์ดังกล่าวนี้ให้ดี เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความเสี่ยงนั้น ๆ ขึ้นกับการเทรดของตนเอง โดยเราสามารถที่จะระบุความเสี่ยงที่คุณจำเป็นต้องรู้ ได้ดังต่อไปนี้
1 คำนวณผลตอบแทนผิดพลาด
บางครั้ง ช่องว่างของราคาที่เกิดขึ้นอาจน้อยเกินไปที่คุณจะทำ Arbitrage ได้ และไม่เพียงพอต่อการหักลบกับต้นทุนในการทำธุรกรรม จนทำให้แทนที่จะได้กำไรกลับกลายเป็นการติดลบแทน
2 ความผันผวนของราคาในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล
สินทรัพย์ดิจิทัลมีความผันผวนที่สูงมากกว่าสินทรัพย์ประเภทอื่น ๆ ดังนั้น การทำ Arbitrage คือการใช้ช่วงเวลาตัดสินใจเพียงสั้น ๆ และหากคุณช้าไปเพียงเสี้ยววินาที อาจจะทำให้เกิดความผิดพลาดจากการผันผวนของราคาได้ ซึ่งนำมาสู่การขาดทุนที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น
3 ความปลอดภัยในการทำธุรกรรม
วิธีทำ Arbitrage อาจมีการฝากเงินและถอนเงินจากกระดานแลกเปลี่ยนต่าง ๆ อยู่บ่อยครั้ง และการใช้กระดานแลกเปลี่ยนที่ไม่มีมาตรฐาน หรือไม่มีการรับรองความปลอดภัย อาจทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการถูกโกงได้ ดังนั้น การใช้กลยุทธ์ดังกล่าวจึงมีความจำเป็นที่จะต้องเลือกใช้แพลตฟอร์มที่ปลอดภัยด้วยทุกครั้ง
บทสรุป
โดยสรุปแล้ว Arbitrage คือ การแสวงหากำไรจากความแตกต่างของราคาในสินทรัพย์ที่เหมือนกันหรือคล้ายคลึงกันในตลาดต่าง ๆ โดยใช้ประโยชน์จากความไร้ประสิทธิภาพของตลาดในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง ก่อนที่ตลาดกลับคืนสู่สภาวะสมดุล ทั้งนี้ ไม่ใช่ว่าการทำ Arbitrage จะเหมาะสำหรับทุกคน เพราะกลยุทธ์นี้มีความเสี่ยงที่อาจขาดทุนได้ หากไม่มีความรู้ เครื่องมือ หรือประสบการณ์ที่มากเพียงพอ
ดังนั้น หากคุณเลือกแล้วที่ทำเงินในตลาด web3.0 โดยสร้างผลตอบแทนด้วยการเทรดแบบ Arbitrage จำเป็นจะต้องเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อรับมือกับความผันผวนหรือความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ รวมถึงจะต้องกระจายกลยุทธ์ในการลงทุนให้หลากหลาย เพื่อสร้างผลตอบแทนโดยรวมสำหรับการลงทุนทั้งในระยะสั้นและระยะยาวตามที่คาดหวัง หากนักลงทุนทุกคนใช้ประสบการณ์ที่มากเพียงพอในการ ลงทุน เชื่อว่าโอกาสในการทำกำไรในตลาดคริปโตเคอร์เรนซี่ก็ยังคงมีความเป็นไปได้สูง
อ้างอิง