Initial Exchange Offering (IEO) คืออะไร?

Initial Exchange Offering หรือ IEO คือการระดมทุนผ่านการขายโทเค็นที่ได้รับการดูแลโดยกระดานเทรดคริปโต IEO จะเปิดให้เฉพาะผู้ใช้ของกระดานเทรดนั้นๆ เท่านั้น แม้ว่าบาง IEO อาจจะเกิดขึ้นในหลายกระดานเทรดพร้อมกันก็ตาม เช่นเดียวกับ ICO IEO ให้นักลงทุนซื้อคริปโตเคอเรนซีใหม่ๆ (หรือโทเค็น) ในขณะเดียวกันก็ระดมทุนให้กับโครงการคริปโตที่มีแนวโน้มดีด้วย

Initial Exchange Offering หรือ IEO คืออะไร?

หลายคนในวงการคริปโตเรียก Initial Exchange Offering ว่าเป็นก้าวต่อไปในวิวัฒนาการของ ICO เนื่องจาก ICO ไม่มีการกำกับควบคุม และส่วนใหญ่กลายเป็นการหลอกลวง STO จึงถูกคาดหวังว่าจะเป็นทางออก อย่างไรก็ตาม STO ส่วนใหญ่ยังคงถูกจำกัดด้วยกระบวนการที่ช้าและแพง รวมถึงข้อบังคับที่เข้มงวด

IEO จึงเป็นจุดกึ่งกลางที่ช่วยแก้ไขปัญหาของทั้งสองฝ่าย แม้ว่า ICO ที่ได้รับความช่วยเหลือจากกระดานเทรดจะมีมาสักพักแล้ว แต่ IEO เริ่มได้รับความสนใจมากขึ้นหลังจากการเปิดตัว Binance Launchpad ในช่วงปลายปี 2019 โดยในปี 2019 มี IEO มากกว่า 50 โครงการ ซึ่งระดมทุนได้มากกว่า 159 ล้านดอลลาร์ ตามรายงานของ ICObench โดย IEO พยายามที่จะโปรโมตเฉพาะโครงการที่ถูกกฎหมายเท่านั้น เพราะนี่เกี่ยวข้องกับความน่าเชื่อถือของกระดานเทรดด้วย

ดังนั้น กระบวนการตรวจสอบจึงลึกซึ้งกว่า และไม่ใช่ทุกไอเดียที่จะได้รับการสนับสนุนจากกระดานเทรด นอกจากนี้ การระดมทุนผ่านกระดานเทรดยังเข้าถึงได้ง่ายกว่า STO ซึ่งอนุญาตให้เกือบทุกคนมีอิสระในการเข้าร่วมและลงทุน (ยกเว้นประเทศที่มีข้อจำกัดด้านกฎระเบียบ โดยดูได้ด้านล่าง) และทีมขายโทเค็นมีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบจากหน่วยงานกำกับดูแลน้อยลง เนื่องจากต้องผ่านการตรวจสอบ KYC/AML ของนักลงทุนโดยกระดานเทรดอยู่แล้ว

โดยพื้นฐานแล้ว IEO เป็นอีกวิธีหนึ่งในการระดมทุนให้กับสตาร์ทอัพคริปโตต่างๆ โดยมีกระดานเทรดคริปโตทำหน้าที่เป็นคนกลาง ด้วยความช่วยเหลือจากกระดานเทรดคริปโต โครงการต่างๆ สามารถได้รับการเปิดเผย ความสนใจ และความน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้นอย่างมาก หลังจากการระดมทุน IEO ที่ประสบความสำเร็จ ผู้ออกโทเค็นจะจ่ายค่าธรรมเนียมการลิสพร้อมกับจำนวนโทเค็นที่ตกลงกันไว้ให้กับกระดานเทรดเพื่อใช้บริการแพลตฟอร์ม IEO ในไม่ช้า โทเค็นก็จะถูกลิสบนกระดานเทรดที่นักลงทุนสามารถเข้าถึงสภาพคล่องได้ทันที

ลักษณะของ Initial Exchange Offering (IEO)

เหมือนกับ ICO ทางด้านของ Initial Exchange Offering จะมีจำนวนเหรียญที่เสนอขายจำกัดในราคาคงที่ มีขีดจำกัดขั้นต่ำและสูงของโทเค็นที่สามารถซื้อได้ต่อผู้ใช้หนึ่งคน มีทั้งจุด soft cap และ hard cap รวมถึงคริปโตเคอเรนซีที่ยอมรับเฉพาะ

อย่างไรก็ตาม ต่างจากโทเค็นของ ICO ที่โทเค็นของ IEO จะถูกสร้างขึ้นแล้วก่อนการระดมทุน นอกจากนี้ โทเค็นเหล่านี้จะเข้าสู่ตลาดหลังจากการระดมทุน IEO หลายวันหรือหลายสัปดาห์ ซึ่งทำให้สะดวกกว่าสำหรับนักลงทุน (ทำให้มีสภาพคล่องทันที)

นอกจากนี้ กระบวนการ IEO ยังต้องอาศัยคนกลาง (แพลตฟอร์ม IEO) ที่ได้รับความไว้วางใจให้จัดการเงินทุน อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ยังทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนในโครงการเพิ่มขึ้นอีกด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ ICO ส่วนใหญ่ไม่มี

ข้อดีและข้อเสียของ IEO

โดยพื้นฐานแล้ว ข้อดีของ IEO ได้แก่

1. ความเชื่อมั่นของนักลงทุนเพิ่มขึ้น นักลงทุนไม่ต้องติดต่อกับทีมโครงการ IEO โดยตรง แต่ติดต่อกับกระดานเทรดแทน ซึ่งทำให้น่าเชื่อถือและปลอดภัยกว่าในกรณีที่เกิดปัญหา
2. ความปลอดภัยทั้งสำหรับผู้ออกโทเค็นและนักลงทุน ผู้ออกโทเค็นก็ได้รับประโยชน์เช่นกัน เนื่องจากแพลตฟอร์ม IEO ดูแลเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกฎระเบียบทั้งหมด เช่น การตรวจสอบ KYC/AML ที่จำเป็นสำหรับทุกคน
3. กระบวนการที่ราบรื่น แพลตฟอร์ม IEO ทำให้แทบทุกคนไม่ว่าจะมีประสบการณ์ในวงการคริปโตมากน้อยแค่ไหน สามารถเข้าร่วมได้อย่างง่ายดาย
4. การันตีการลิสบนกระดานเทรด โทเค็นของ IEO จะถูกลิสบนกระดานเทรดที่ระดมทุน IEO ในไม่ช้าหลังจากการระดมทุน
5. กำจัดการหลอกลวง ทีมโครงการ IEO จะไม่ใช้นามแฝงหรือตัวตนปลอม ดังนั้นทีมงานจะไม่หายตัวไปหลังจากได้เงินของคุณ
6. ประโยชน์สำหรับโครงการ เช่น การโปรโมตเพิ่มเติมจากกระดานเทรด ความน่าเชื่อถือ การเปิดเผย และความสนใจในโครงการที่เพิ่มขึ้น
7. ประโยชน์สำหรับกระดานเทรด รวมถึงผู้ใช้ใหม่ที่สมัครสมาชิกด้วยจุดประสงค์ที่จะซื้อขายโทเค็น IEO
8. ประโยชน์สำหรับผู้ถือโทเค็นของกระดานเทรด กระดานเทรดส่วนใหญ่ใช้ IEO เพื่อเพิ่มกรณีการใช้งานสำหรับโทเค็นหลักของตนเอง (หากมี) ซึ่งน่าจะเพิ่มมูลค่าของโทเค็นเหล่านั้นด้วย

อย่างไรก็ตาม IEO ยังมีความเสี่ยงและข้อกังวลบางประการดังนี้

1. กฎระเบียบและข้อจำกัดที่ไม่ชัดเจน หลายประเทศได้ออกข้อจำกัดหรือสั่งห้าม ICO โดยสิ้นเชิง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อ IEO ด้วยเช่นกัน แม้ว่าจะคนละรูปแบบ แต่หลักการพื้นฐานของ IEO ก็ยังคงเหมือนเดิม
2. ผู้ลงทุนทุกคนต้องปฏิบัติตาม AML/KYC วงการคริปโตเป็นที่รู้กันดีว่าเต็มไปด้วยบุคคลที่ใส่ใจกับความเป็นส่วนตัว ดังนั้นการผ่านขั้นตอนการตรวจสอบ KYC/AML อาจเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้สำหรับบางคน
3. การจัดการตลาดและการกระจุกตัวของเหรียญ โทเค็น IEO ส่วนใหญ่ถูกสร้างขึ้นล่วงหน้า ดังนั้นคุณควรตรวจสอบการจัดสรรและกระจายโทเค็นอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุนเสมอ ทั้งทีมโครงการและกระดานเทรด IEO อาจเก็บโทเค็นจำนวนมากไว้กับตัวเอง ซึ่งอาจส่งผลต่อการเข้ามาแทรกแซงราคาในภายหลังได้ ทำให้ไม่ใช่ความลับที่กระดานเทรดส่วนใหญ่มีส่วนร่วมในการ “Wash trading”
4. จำนวนนักลงทุนที่จำกัด มีข้อร้องเรียนจากนักลงทุนมากมายว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะได้ซื้อโทเค็นระหว่างการระดมทุน IEO
5. บอท มีความกังวลเกี่ยวกับบอทที่สามารถโปรแกรมให้เข้าร่วม IEO และเอาชนะนักลงทุนที่เป็นมนุษย์ได้
6. FOMO อย่าลืมทำการศึกษาด้วยตัวคุณเองและตรวจสอบโครงการและแนวคิดของโครงการด้วยตัวคุณเอง ทั้งผู้จัดการโครงการ IEO และแพลตฟอร์ม IEO ต่างมีแรงจูงใจที่จะสร้างกระแสให้มากที่สุดเพื่อขายเหรียญให้หมด อย่าลืมตรวจสอบ whitepaper ของโครงการ แนวคิด และพิจารณาว่าโครงการนั้นจำเป็นต้องใช้โทเค็นจริงหรือไม่ สำหรับ “สัญญาณเตือน” อื่นๆ ของ IEO โปรดดูคู่มือเกี่ยวกับความเสี่ยงของ ICO ในปี 2021 ของเรา

IEO ครั้งใหญ่ครั้งแรกคือ BitTorrent อันโด่งดัง ซึ่งเปิดตัวโดย TRON ผ่าน Binance ในเดือนมกราคม 2019 โทเค็น BTT จำนวนเกือบ 60,000 ล้านหน่วยถูกขายหมดภายในไม่กี่นาที และระดมทุนได้ประมาณ 7.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากเห็นความสำเร็จของ IEO บน Binance

กระดานเทรดชั้นนำอื่นๆ ก็เริ่มเลียนแบบโมเดลนี้ อีกหนึ่ง IEO ที่โดดเด่นคือ Veriblock (VBK) ซึ่งระดมทุนได้ 7 ล้านดอลลาร์ภายใน 10.4 วินาทีผ่าน Bittrex International ต่อมา สถิตินี้ถูกแซงโดย IEO ของ Blockcloud ที่ดำเนินการผ่าน OKEx Jumpstart ซึ่งขายโทเค็น BLOC มูลค่า 2.5 ล้านดอลลาร์หมดภายในเวลาเพียงหนึ่งวินาทีเท่านั้น

กระดานเทรดที่รองรับ IEO

ณ เดือนพฤษภาคม 2019 กระดานเทรดที่ได้เปิดตัวแพลตฟอร์ม IEO ของตัวเองมีดังนี้

จะเข้าร่วม IEO ได้อย่างไร?

ในแง่หนึ่ง IEO ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าร่วมได้ง่ายยิ่งขึ้น ต่างจาก ICO ที่คุณไม่จำเป็นต้องส่งเงินไปยัง smart contract ตรวจสอบที่อยู่ในการทำธุรกรรม หรือตรวจสอบให้แน่ใจว่าธุรกรรมของคุณมี gas หรือค่าธรรมเนียมเพียงพอในการประมวลผลตรงเวลา กระบวนการ IEO ทั่วไปมีลักษณะดังนี้

1. หา IEO ที่คุณต้องการลงทุน
2. คุณต้องลงทะเบียนบนกระดานเทรดและยืนยันบัญชีของคุณโดยผ่านกระบวนการ KYC/AML
3. ตรวจสอบคริปโตเคอเรนซีที่คุณสามารถใช้ในการเข้าร่วม IEO และฝากเงินเข้าบัญชีของคุณ
4. รอจนกว่า IEO จะเริ่มขึ้น แล้วซื้อโทเค็น

แน่นอนว่ากระบวนการอาจไม่ตรงตามที่อธิบายไว้ในที่นี้เสมอไป เนื่องจากแพลตฟอร์ม IEO แต่ละแห่งมีวิธีการในการทำให้กระบวนการเป็นธรรมกับผู้ใช้ทุกคนแตกต่างกันออกไป ยกตัวอย่างเช่น Binance Launchpad ได้นำวิธีการกระจายโทเค็นแบบสุ่มมาใช้สำหรับ IEO ของ Matic Network โปรดจำไว้ว่า IEO ทุกครั้งมักจะขายหมดอย่างรวดเร็ว ดังนั้นต้องรวดเร็วและพร้อมเมื่อถึงเวลา!

ประเทศที่ IEO เป็นสิ่งผิดกฎหมาย

น่าเสียดายที่ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีอิสระในการเข้าร่วม IEO ในหลายประเทศยังคงมีข้อจำกัดตามกฎระเบียบ มีเพียงเกาหลีใต้เท่านั้นที่มีแนวทางโดยละเอียดเกี่ยวกับ IEO เนื่องจากรัฐบาลส่วนใหญ่ยังคงมองว่า ICO และ IEO เหมือนกัน จึงไม่แน่ชัดว่าประเทศสำคัญจะเลือกที่จะควบคุมตลาดนี้แตกต่างกันหรือไม่ ดังนั้น เช่นเดียวกับ ICO, IEO จึงถูกห้าม (หรืออย่างน้อยอาจถือว่าผิดกฎหมาย) ในบางประเทศ ได้แก่

• Afghanistan (อัฟกานิสถาน)
• Albania (แอลเบเนีย)
• Bosnia and Herzegovina (บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา)
• Burundi (บุรุนดี)
• Canada (แคนาดา)
• Central Africa (แอฟริกากลาง)
• Congo (คองโก)
• Cote d’Ivoire (ไอวอรี่โคสต์)
• Ethiopia (เอธิโอเปีย)
• Guinea-Bissau (กินี-บิสเซา)
• Iran (อิหร่าน)
• Iraq (อิรัก)
• Lebanon (เลบานอน)
• Liberia (ไลบีเรีย)
• Libya (ลิเบีย)
• Macedonia (มาซิโดเนีย)
• Mainland China (จีนแผ่นดินใหญ่)
• Malaysia (มาเลเซีย)
• Myanmar (เมียนมา)
• New Zealand (นิวซีแลนด์)
• North Korea (เกาหลีเหนือ)
• Serbia (เซอร์เบีย)
• Somalia (โซมาเลีย)
• South Sudan (เซาท์ซูดาน)
• Sri Lanka (ศรีลังกา)
• Sudan (ซูดาน)
• Syria (ซีเรีย)
• Thailand (ไทย)
• Belarus (เบลารุส)
• Guinea (สาธารณรัฐกินี)
• Trinidad and Tobago (ตรินิแดดและโตเบโก)
• Tunisia (ตูนิเซีย)
• Uganda (ยูกันดา)
• Ukraine (ยูเครน)
• The United States (สหรัฐอเมริกา)
• Venezuela (เวเนซุเอลา)
• Yemen (เยเมน)
• Zimbabwe (ซิมบับเว)

ก่อนที่คุณจะเข้าร่วม IEO ให้ปรึกษาที่ปรึกษากฎหมายเพื่อให้แน่ใจว่าเป็นสิ่งถูกกฎหมายที่จะทำเช่นนั้นในเขตอำนาจศาลของคุณ