16 แพลตฟอร์มคริปโต Staking ชั้นนำ ปี 2024

แพลตฟอร์มคริปโต Staking เปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถสร้างรายได้ Passive Income จาก โทเค็นที่ไม่ได้ใช้งาน ซึ่งเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการได้รับทั้งรายได้และการเติบโตของเงินทุนผ่านกลยุทธ์การลงทุนระยะยาว

คู่มือเปรียบเทียบนี้จะรีวิวและจัดอันดับ แพลตฟอร์มคริปโต Staking ที่ดีที่สุดสำหรับผลตอบแทน APY สูงสุด โดยพิจารณาจากเหรียญที่รองรับ, ความปลอดภัย, และปัจจัยอื่น ๆ

รีวิวเต็มรูปแบบและครอบคลุมสำหรับแพลตฟอร์มคริปโต Staking ข้างต้น มีให้อ่านในส่วนถัดไป

ปัจจัยหลักในการรีวิวแพลตฟอร์มคริปโต Staking ชั้นนำ

ในการเลือกแพลตฟอร์มคริปโต Staking ที่ดีที่สุดสำหรับปี 2024 นักลงทุนจำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยหลักดังต่อไปนี้

• APY
• เงื่อนไขการ Lock
• ความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ
• เหรียญที่รองรับ
• ยอดขั้นต่ำในบัญชี

ในรีวิวโดยละเอียดด้านล่างของ 16 แพลตฟอร์มคริปโต Staking ที่ดีที่สุดสำหรับปี 2024 เราจะชี้ให้เห็นว่าแต่ละแพลตฟอร์มมีผลงานโดดเด่นในปัจจัยหลักเหล่านี้อย่างไร

1. PlayDoge – โทเค็นมาแรงประจำปี 2024 ที่จะทำให้นักลงทุนหลายคนได้ย้อนอดีตไปยังยุค 90s

ต่อจากเหตุการณ์ Bitcoin Having แล้ว โปรเจกต์เหรียญต่าง ๆ พากันออกมาแสดงตัวตนและเรียกร้องความสนใจจากนักลงทุนเป็นจำนวนมาก และ PlayDoge ก็เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มคริปโต Staking ชั้นนำที่น่าสนใจอีกหนึ่งโปรเจกต์ เพราะมันจะช่วยให้คุณสามารถ Staking ได้ดีโดยขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงเสมือนในมือถือของคุณ

PlayDoge จะมีการสร้างแอปพลิเคชั่นเพื่อเลี้ยงดู Doge สุนัขพันธ์ชิบะที่เป็นมีมสุดฮอตบนโลกอินเทอร์เน็ต คุณและ Doge จะต้องร่วมมือกันฝ่าฟันอุปสรรคในมินิเกมเพื่อรับรางวัลเพิ่มเติม ซึ่งความยากง่ายของเกมจะขึ้นอยู่กับสุขภาพของสัตว์เลี้ยงคณด้วย

หากเลี้ยงดูไม่ดีหรือให้อาหารไม่ตรงเวลา มีโอกาสที่เจ้า Doge จะหนีเตลิดไปหรือเสียชีวิต กรณีนี้คุณต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่อีกครั้ง ซึ่งทำให้ผู้เล่นเสียดายเวลาเป็นอย่างมาก

ตอนนี้ PlayDoge สามารถระดมทุนไปได้เกือบ 5 ล้านดอลลาร์ และมีราคาอยู่ที่โทเค็นละ 0.00509 ดอลลาร์ คาดว่าจะขึ้นสูงหลังจากเปิดตัวบนตลาดการซื้อขายอย่างเป็นทางการอย่างแน่นอน

2. Coinbase – รับ APY สูงสุด 5.75% ด้วยแพลตฟอร์ม Staking ที่ใช้งานง่าย

Coinbase เป็นกระดานเทรดคริปโตและโบรกเกอร์ที่ได้รับความนิยมซึ่งรองรับเหรียญกว่า 100 สกุล เป็นแหล่งรวมแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่าย ซึ่งเหมาะสำหรับมือใหม่ ณ ขณะที่เขียนบทความนี้ Coinbase รองรับเหรียญ Staking 6 สกุล ได้แก่ Algorand, Cardano, Cosmos, Ethereum, Solana, และ Tezos ในแง่ของผลตอบแทนนั้น APY ที่ดีที่สุดอยู่ที่ 5.75% เมื่อ Stake Algorand

ควรทราบว่าการ Staking บน Coinbase ไม่รองรับลูกค้าในสหรัฐฯ นอกจากนี้ รางวัล Staking จะจ่ายให้กับทรัพย์สินคริปโตที่ซื้อบนแพลตฟอร์ม Coinbase เท่านั้น ซึ่งอาจเป็นประเด็นที่ต้องพิจารณา เนื่องจาก Coinbase เรียกเก็บค่าธรรมเนียมการซื้อขาย 1.49% นอกจากนี้ การซื้อเหรียญโดยตรงด้วยบัตรเดบิตจะมีค่าธรรมเนียม 3.99%

นอกเหนือจากการ Staking แล้ว Coinbase ยังรองรับบริการ DeFi yield ซึ่งรองรับทั้ง Dai และ Tether อย่างไรก็ตาม ผลตอบแทนจะแตกต่างกันไปตามสภาวะตลาด นอกจากนี้ ยังสามารถติดตามรางวัล Staking และ DeFi yield แบบเรียลไทม์ผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันมือถือของ Coinbase สำหรับ Android และ iOS

3. Wiener AI – สุนัขไส้กรอกธีม AI ให้ APY กว่า 1,500%

WienerAI มาในรูปแบบสุนัขไส้กรอก (สายพันธ์ดัชชุน) ที่สนุกสนาน ทำงานเป็นโทเค็น ERC-20 บนบล็อกเชน Ethereum ทำให้เข้ากันได้กับแอปพลิเคชันแบบกระจายอำนาจและคริปโตเคอเรนซีมากมาย ความเข้ากันได้อย่างกว้างขวางนี้ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและการเข้าถึง ยกระดับสถานะให้เหนือกว่าเหรียญมีมสุนัขทั่วไป

WienerAI ทำงานภายใต้กรอบ Ethereum ใช้ระบบ Staking ที่ให้รางวัลผู้ถือโทเค็นผ่านการซื้อและถือ WAI ซึ่งเป็นเหรียญของ WienerAI นักลงทุนจะได้ APY ที่ปัจจุบันสูงกว่า 1500% กลไกการ Stake แบบเฉพาะนี้ได้สร้างความพึงพอใจให้กับผู้ที่สนับสนุนตั้งแต่แรก โดยมีการ Stake โทเค็น WAI ไปแล้วกว่า 500 ล้านโทเค็น

มีโทเค็น WAI ทั้งหมด 69,000 ล้านโทเค็นที่ถูกจัดสรรไว้ โดย 30% สำหรับช่วงพรีเซล ให้โอกาสนักลงทุนเข้ามาซื้อในราคาที่ถูกลงก่อนที่โครงการจะเปิดสู่สาธารณะ อีก 20% ถูกจัดสรรไว้สำหรับรางวัล Staking เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ผู้ใช้ล็อคโทเค็น WAI เพื่อสนับสนุนการทำงานของเครือข่าย

นอกจากนี้ 20% ถูกสำรองไว้สำหรับรางวัลชุมชน ซึ่งจะส่งเสริมการมีส่วนร่วมผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น การสร้างคอนเทนต์ อีก 20% ถูกจัดสรรสำหรับการตลาดเพื่อเพิ่มการรับรู้และการนำ WienerAI ไปใช้ ส่วนที่เหลืออีก 10% เพื่อให้มีสภาพคล่องบนกระดานเทรดแบบกระจายอำนาจและแบบรวมศูนย์

การพรีเซลของ WienerAI มอบโอกาสให้นักลงทุนได้เป็นเจ้าของโทเค็น WAI ในราคาลดพิเศษก่อนการลิสในกระดานเทรด โดยใช้ระบบเทียร์ราคา โดยราคาจะเพิ่มขึ้นทุก ๆ 2 วัน ซึ่งกระตุ้นให้ผู้ใช้รีบเข้าร่วมแต่เนิ่น ๆ ด้วยยอดระดมทุนแล้วกว่า 640,000 ดอลลาร์ นี่คือโอกาสที่จะเข้าร่วมในช่วงเริ่มต้นของโครงการ

ติดตาม Wiener Dog AI บน X เพื่ออัปเดตข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับการพรีเซลโทเค็น

4. Dogeverse – เหรียญมีมแบบ Multi-Chain ให้ผลตอบแทน 584% ผ่านแพลตฟอร์ม Staking

Dogeverse($DOGEVERSE) คือแพลตฟอร์มคริปโต Staking ที่ดีที่สุดในปี 2024 นี่เป็นเหรียญมีมสุนัข Doge Multi-Chain ตัวแรกที่ให้รางวัล Staking สูงแก่ผู้ถือโทเค็น

ปัจจุบัน นักลงทุนที่สนใจเหรียญพรีเซลนี้สามารถซื้อโทเค็น $DOGEVERSE ผ่านการพรีเซลและ Stake เหรียญของตนได้ทันที ณ เวลาที่เขียนบทความนี้ ราคาของ $DOGEVERSE อยู่ที่ 0.000292 ดอลลาร์ใน พรีเซล

ผ่านกลไกการ Stake ผู้ลงทุนสามารถรับ APY (ผลตอบแทนเป็นเปอร์เซ็นต์ต่อปี) สูงถึง 584% มีโทเค็นมากกว่า 2.7 พันล้าน ที่ถูกล็อคบน Smart Contract แล้ว โดยยิ่งมีโทเค็นถูก Stake มากเท่าไหร่ APY จะลดลงเท่านั้น

จากอุปทานรวม 200,000 ล้านโทเค็น 10% (20,000 ล้านโทเค็น) จะนำไปแจกเป็นรางวัล Staking ในช่วงสองปีข้างหน้า

จุดเด่นของ Dogeverse คือรองรับการทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่นข้าม 6 บล็อกเชน แม้จะสร้างขึ้นบน Ethereum แต่ Dogeverse จะใช้เทคโนโลยีของ Wormhole และ Portal Bridge เพื่อเชื่อมกับ Binance, Polygon, Avalanche, Solana และ Base Blockchain

เพียงไม่กี่วันหลังจากการพรีเซล Dogeverse ได้ระดมทุนไปแล้วกว่า 1.7 ล้านดอลลาร์ ความนิยมของพรีเซลและแพลตฟอร์ม Staking กำลังเพิ่มสูงขึ้นในช่วงที่มีกระแส Doge Day ซึ่งเกิดขึ้นในวันที่ 20 เมษายนของทุกปี

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถอ่าน Whitepaper ของ Dogeverse และเข้าร่วม Telegram ได้

5. Mega Dice Token – โทเค็น CasinoFi มอบโบนัสรายวันให้ผู้ Stake โทเค็น

Mega Dice Token($DICE) ขับเคลื่อนระบบนิเวศเกมทั้งหมดของ Mega Dice Casino ซึ่งมีเกมมากกว่า 4,500 เกมและตลาดเดิมพันกีฬามากกว่า 50 รายการ ปัจจุบันถูกใช้โดยผู้เล่นกว่า 50,000 ราย

ผ่านโทเค็น $DICE Mega Dice Casino กำลังยกระดับเป็นแพลตฟอร์ม Staking คริปโตและแพลตฟอร์มที่ใช้บล็อกเชน โทเค็นดั้งเดิมสามารถ Stake บน Smart Contract ของ Mega Dice โดยสามารถ Stake โทเค็นได้ 10 วัน, 3 เดือน หรือ 6 เดือน ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล

ดังนั้นผู้ Stake โทเค็นจึงสามารถรับ APY ได้อย่างต่อเนื่องด้วย $DICE ผู้ถือโทเค็นที่ Stake จะได้รับรางวัลและโบนัสรายวันอีกด้วย ภายในระบบนิเวศ คุณจะได้สิทธิ์เข้าถึงเกมคาสิโนใหม่ๆ, กิจกรรมส่งเสริมการขาย, และคุณสมบัติอื่นๆ ก่อนใคร

Mega Dice Token มีอุปทานรวม 420 ล้านโทเค็น 42 ล้านโทเค็นจะถูกแจกจ่ายเป็นรางวัล Staking จากกองทุน Staking ปัจจุบัน 35% ของอุปทานกำลังเสนอขายผ่านการพรีเซล ในช่วง พรีเซลปัจจุบันผู้ลงทุนที่สนใจสามารถซื้อ $DICE ได้ในราคา 0.069 ดอลลาร์ต่อโทเค็น

ผู้ลงทุนช่วงแรกจะได้รับโทเค็นฟรี และยังมีสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลจากกองทุน Airdrop มูลค่า 2.25 ล้านดอลลาร์ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้โดยการอ่าน Whitepaper ของ Mega Dice Token และเข้าร่วม Telegram Channel

6. 99Bitcoins – แพลตฟอร์ม Learn2Earn ให้ผลตอบแทน Staking 47,000%

99Bitcoins เปิดตัวแพลตฟอร์มการศึกษาออนไลน์เกี่ยวกับคริปโตในปี 2010 และมีฐานผู้ติดตามจำนวนมากกว่า 700,000 คน ตอนนี้ 99Bitcoins ได้เปิดตัวโทเค็น Learn2Earn $99BTC ซึ่งสามารถนำไป Stake เพื่อสร้างผลตอบแทนมหาศาลได้

ผ่าน Smart Contract ที่ปลอดภัยของ 99Bitcoins ผู้ถือโทเค็นสามารถ Stake $99BTC ของตัวเองได้ ณ ขณะที่เขียนบทความนี้ ผู้ลงทุนสามารถรับ APY ที่น่าสนใจสูงถึง 47,000% ต่อปี โดยมีโทเค็นมากกว่า 22 ล้านถูกล็อคไว้ในแพลตฟอร์ม Staking แล้ว

นอกจากแพลตฟอร์ม Staking แล้ว 99Bitcoins ยังเสนอโอกาสในการทำกำไรผ่านหลักสูตร Learn2Earn สมาชิกที่สนใจสามารถรับโทเค็น $99BTC ได้ โดยการทำแบบทดสอบและเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับคริปโตและบล็อกเชน

ผู้ถือโทเค็นจะได้รับสิทธิพิเศษในการเข้าถึงกลุ่ม VIP, สัญญาณการเทรด และกิจกรรมพิเศษของชุมชน ดังนั้น 99Bitcoins จึงส่งเสริมการถือโทเค็นระยะยาวในหลายวิธี โครงการนี้มีอุปทานรวม 99,000 ล้าน โดย 14% (13,860 ล้าน) จะถูกแจกจ่ายเป็นรางวัล Staking

อีก 17% จะมอบเป็นรางวัลให้กับชุมชน รางวัล Staking และชุมชนนี้ได้ส่งผลให้การพรีเซลเปิดตัวอย่างประสบความสำเร็จ โดยสามารถระดมทุนได้กว่า 115,000 ดอลลาร์ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ปัจจุบัน $99BTC ราคาอยู่ที่ 0.001 ดอลลาร์ต่อโทเค็น

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Staking Platform แบบ Learn2Earn นี้ได้ผ่านการอ่าน Whitepaper ของ 99Bitcoins และเข้าร่วม Telegram Channel

7. Sponge V2 – คริปโต PoS พร้อมเกม P2E ที่ไม่เหมือนใครและโมเดล Stake-to-Bridge ให้ APY ขั้นต่ำ 40%

Sponge V2 เป็นอัปเดตใหม่ล่าสุดของเหรียญมีม $SPONGE ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในปี 2023

โดยเปลี่ยนจากความน่าสนใจแบบมีมไปสู่ทรัพย์สินที่มุ่งเน้นยูทิลิตี้มากขึ้น SPONGEV2 มีคุณสมบัติที่เป็นนวัตกรรมใหม่เพื่อเพิ่มตำแหน่งในตลาดและการมีส่วนร่วมของผู้ใช้

แกนหลักของ Sponge V2 คือกลไก Stake-to-Bridge โมเดลนี้ช่วยให้ผู้ใช้แปลงโทเค็น V1 เป็นโทเค็น V2 ได้ ซึ่งช่วยให้การเปลี่ยนไปใช้เวอร์ชันใหม่ทำได้ง่าย

กระบวนการ Stake ถูกออกแบบมาสำหรับการลงทุนระยะยาว โดยโทเค็น V1 จะถูกล็อคถาวร เน้นย้ำถึงกลยุทธ์ของโครงการสำหรับการเติบโตและความมั่นคงอย่างยั่งยืน

Sponge V2 ให้ APY สูงถึง 40% เป็นเวลา 4 ปี กระตุ้นให้ผู้ใช้มีความภักดีและมีส่วนร่วมในระยะยาว

เหรียญมีม Sponge V2 ยังมีแพลตฟอร์มเกม P2E ที่น่าสนใจ ซึ่งผู้ใช้สามารถใช้ประโยชน์จากโทเค็น V2 ในการเล่นและสะสมโทเค็นเพิ่มเติมได้ ขณะที่ทางด้านเกมก็มีการเพิ่มการโต้ตอบและการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ให้มากขึ้น

อุปทานรวมของโทเค็น Sponge V2 มี 150,000 ล้านโทเค็น การจัดสรรจำนวนมาก (มากกว่า 51%) มอบให้กับรางวัล Staking และการเล่นเกม P2E ทำให้มีแรงจูงใจสูงสำหรับการมีส่วนร่วมของผู้ใช้

ด้วยการมุ่งเน้นที่การเติบโตแบบออร์แกนิค SPONGEV2 ไม่มีช่วงพรีเซล แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นต่อการเพิ่มจำนวนผู้ใช้อย่างแท้จริงและผลกระทบต่อตลาด

Sponge V2 มีเป้าหมายที่จะใช้ประโยชน์จากความน่าสนใจของโทเค็น $SPONGE ดั้งเดิม ด้วยแผนที่จะลิสในกระดานเทรดชั้นนำ SPONGEV2 มีโอกาสที่จะเดินตามรอยประสิทธิภาพทางการตลาดของรุ่นก่อนได้

โครงการนี้ใช้ฐานชุมชนที่แข็งแกร่งกว่า 30,000 คน มีเป้าหมายที่จะขยายการเข้าถึงผ่านการตลาดเชิงรุกและกิจกรรมที่ขับเคลื่อนโดยชุมชน

ผู้ลงทุนที่สนใจสามารถอ่าน Whitepaper ของ SPONGEV2 และเข้าร่วม Telegram Channel นอกจากนี้ การติดตาม Sponge บนแพลตฟอร์มอย่าง X (Twitter) จะช่วยให้ได้รับข้อมูลเชิงลึกล่าสุดเกี่ยวกับการลิสในกระดานเทรดและการพัฒนาโครงการ

8. Smog – แพลตฟอร์มคริปโต Staking ยอดนิยมพร้อมรางวัล Airdrop มหาศาล และ APY Staking 42%

Smog ($SMOG) เป็นแพลตฟอร์มคริปโต Staking ที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนนับตั้งแต่เปิดตัวบน Jupiter DEX มูลค่าของโทเค็นพุ่งขึ้นอย่างมากกว่า 3,000% จาก 0.001419 ดอลลาร์เป็น 0.047 ดอลลาร์ ทำให้มูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นจาก 2 ล้านดอลลาร์เป็นกว่า 64 ล้านดอลลาร์

Smog ให้ APY สำหรับการ Stake 42% โดยมีระยะเวลาล็อค 90 วัน เพื่อสนับสนุนการถือโทเค็นระยะยาว อัตรานี้สูงกว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ มาก ทำให้นี่เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มคริปโต Staking ที่ดีที่สุดในท้องตลาด

นอกจากนี้ 10% ของอุปทานโทเค็นถูกสำรองไว้สำหรับการลิสในกระดานเทรดรวมศูนย์ในอนาคต ทำให้เข้าถึงได้มากขึ้น

Smok มีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จตามรอยและแม้กระทั่งเกินกว่าเหรียญมีมชื่อดังอย่าง Pepe และ Bonk โดย Smok ได้จัดสรรครึ่งหนึ่งของอุปทานรวม 1,400 ล้านไว้สำหรับการตลาด

“Greatest SOL Airdrop” หรือ แอร์ดรอปที่เจ๋งที่สุดของ Solana เป็นคุณสมบัติหลักของโทเค็นนี้ โดยจะแจกจ่ายโทเค็น 490 ล้านให้กับผู้ถือที่มีส่วนร่วมกับชุมชนและทำภารกิจสำเร็จเพื่อรับแต้ม Airdrop

นักลงทุนที่กำลังมองหาแพลตฟอร์มคริปโต Staking ที่มีแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่ง มีรางวัลให้กับชุมชนอย่างต่อเนื่องและรางวัล Staking ที่น่าดึงดูด จะพบว่า Smog นั้นน่าสนใจไม่น้อย

ผู้ใช้สามารถอ่าน Whitepaper ของ Smog เพื่อดูรายละเอียดและการอัปเดตเพิ่มเติม และเชื่อมต่อกับชุมชนผ่านช่อง Telegram และบัญชี X (Twitter) อย่างเป็นทางการ

9. Kraken – จ่ายรางวัล Staking ทุก 2 สัปดาห์ พร้อมรับ APY 20% เมื่อ Stake Mina

Kraken เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มคริปโต Staking ที่ดีที่สุดสำหรับการแจกรางวัลอย่างรวดเร็ว กระดานเทรดที่ได้รับความนิยมแห่งนี้จะจ่ายรางวัล Staking สองครั้งต่อสัปดาห์ ซึ่งเป็นส่วนเสริมของผลตอบแทนที่ได้เปรียบคู่แข่ง โดยทั้งหมดแล้วมีทรัพย์สินดิจิทัล 15 รายการที่สามารถ Stake บน Kraken ได้ นอกจาก Bitcoin แล้ว การ Stake เหรียญทั้งหมดบน Kraken จะเริ่มดำเนินการแบบ on-chain

เหรียญยอดนิยมในการ Stake ได้แก่ Ethereum, Tezos, Tron, Solana และ Polkadot ในแง่ของ APY อัตราที่ดีที่สุดคือ 20% ซึ่งมอบให้เมื่อ Stake Mina ส่วน Kusama และ Kava ก็มีการแข่งขันสูงเช่นกัน โดยมีรางวัล Staking สูงสุดถึง 18% ทั้งนี้ ข้อตกลงการ Stake ทั้งหมดบน Kraken จะเป็นแบบยืดหยุ่น

10. OKX – แพลตฟอร์มคริปโต Staking ระดับโลก เสนอ APY สูงสุด 300%

อีกหนึ่งตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับการ Staking คริปโตในปี 2024 คือ OKX กระดานเทรดคริปโตระดับโลกแห่งนี้มีการซื้อขายคริปโตเคอเรนซียอดนิยมมากกว่า 340 สกุล และให้โอกาสนักลงทุนได้รับดอกเบี้ยจากเหรียญหลายตัว

แพลตฟอร์ม Staking ของ OKX ถูกรวมเข้ากับกระดานเทรดโดยตรง ทำให้ใช้งานได้ง่ายมาก ผู้ใช้สามารถเลือกจากเหรียญหลายตัวเพื่อ Stake บางเหรียญให้ผลตอบแทน APY สูงสุดถึง 70% มีเหรียญน่าลงทุนจำนวนมากที่สามารถ Stake ด้วยระยะเวลาผูกมัดที่ยืดหยุ่น และมีอัตราที่สูงกว่าสำหรับการล็อค 15, 30, 60, 90 หรือ 120 วัน

นอกเหนือจากการ Staking แบบ DeFi แล้ว OKX ยังมีบัญชีออมทรัพย์คริปโต ซึ่งนักลงทุนสามารถรับดอกเบี้ยจากโทเค็นได้ บัญชีเหล่านี้ให้ผลตอบแทน APY สูงสุดถึง 300% สำหรับโทเค็นบางตัว Stablecoin เช่น Tether และ USD Coin ให้ผลตอบแทน 10% ในขณะที่ Bitcoin และ Ethereum ให้ 5% สำหรับโทเค็นในบัญชีออมทรัพย์ OKX จะไม่มีระยะเวลาการล็อค

OKX จ่ายดอกเบี้ยทุกชั่วโมง ดังนั้นนักลงทุนจึงสามารถเริ่มทบต้นผลตอบแทนได้ทันที OKX ยังเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์ม Yield Farming คริปโตที่ดีที่สุด โดยมี APY สูงถึง 6.52% ในคริปโตบางคู่

OKX ทำให้การซื้อคริปโตแล้วนำไป Stake เป็นเรื่องง่าย กระดานเทรดนี้รองรับบัตรเครดิต บัตรเดบิต การโอนเงินผ่านธนาคาร และ e-Wallet ในการซื้อคริปโต โดยมีขนาดการเทรดขั้นต่ำ 10 ดอลลาร์ นอกจากนี้ ค่าธรรมเนียมในการซื้อคริปโตบน OKX เพียง 0.10% ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดในอุตสาหกรรมนี้

11. Crypto.com – รับ APY สูงสุด 14.5% ใน Passive Interest

Crypto.com เป็นกระดานเทรดสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำที่มีค่าธรรมเนียมการซื้อขายต่ำที่สุดในอุตสาหกรรมนี้ หลังจากลดโครงสร้างค่าธรรมเนียมล่าสุด การซื้อและขายคริปโตโดยเสียค่าคอมมิชชันเพียง 0.075% ซึ่งหมายความว่าสำหรับทุก ๆ 1,000 ดอลลาร์ของมูลค่าคริปโตที่ซื้อขาย จะเสียค่าคอมมิชชันเพียง 0.75 ดอลลาร์

แม้ว่า Crypto.com จะไม่รองรับการ Staking แต่ก็มีบัญชีดอกเบี้ยคริปโต ซึ่งโดยความจริงแล้วทำงานในลักษณะเดียวกัน ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือทรัพย์สินคริปโตจะถูกนำไปใช้เป็นเงินกู้ Crypto.com นี้มีการสนับสนุนโทเค็นหลายสิบตัว และนักลงทุนสามารถเลือกเงื่อนไขการถอนแบบยืดหยุ่นหรือล็อกไว้ 1-3 เดือน

อัตราดอกเบี้ยที่ดีที่สุดมักจะอยู่ในข้อตกลงระยะยาว รางวัล Staking ของ Crypto.com มี APY สูงถึง 14.5% บนคริปโต และสูงถึง 8.5% บน Stablecoin นอกจากนี้ APY ที่ดีที่สุดต้องให้ผู้ใช้ Stake โทเค็น CRO ซึ่งเป็นโทเค็นดั้งเดิมของ Crypto.com ผู้ใช้กระดานเทรด Crypto.com จะเข้าถึงเหรียญได้มากกว่า 250 สกุล โดยการชำระเงินด้วยบัตรเดบิตหรือเครดิตจะเสียค่าธรรมเนียม 2.99%

12. DeFi Swap – กระดานเทรดแบบกระจายอำนาจใหม่พร้อมเครื่องมือ Staking ผลตอบแทนสูง APY สูงสุด 75% บน DEFC

DeFi Swap เป็นแพลตฟอร์มคริปโต Staking ที่ดีที่สุดสำหรับนักลงทุนที่ชอบใช้กระดานเทรดแบบกระจายอำนาจ ซึ่งหมายความว่านักลงทุนจะสามารถรับรางวัล Staking ได้โดยไม่ต้องใช้ตัวกลาง แค่เชื่อมต่อกระเป๋าคริปโตกับกระดานเทรด DeFi Swap เพียงอย่างเดียว โดยไม่ต้องใช้ข้อมูลส่วนตัวหรือเอกสาร KYC

DeFi Swap เป็นกระดานเทรดที่มาแรงในด้านนี้ ในระยะแรก จะรองรับข้อตกลง Staking บนโทเค็นที่ทำงานบน Binance Smart Chain ต่อไปในอนาคต DeFi Swap จะรองรับการทำงานข้ามเชน ซึ่งหมายความว่านักลงทุนจะสามารถ Stake โทเค็นบนเครือข่ายบล็อกเชนอื่น ๆ เช่น Ethereum และ Solana

DeFi Swap ยังมีบริการซื้อขายแบบกระจายอำนาจ หลังจากเชื่อมต่อกระเป๋า ผู้ใช้สามารถสลับโทเค็นหนึ่งเป็นอีกโทเค็นหนึ่งได้โดยไม่จำเป็นต้องมีผู้ขายอยู่อีกด้านของการเทรด ค่าธรรมเนียมบน DeFi Swap ถือว่าได้เปรียบ และแพลตฟอร์มเองก็ใช้งานง่าย DeFi Swap ยังรองรับ Yield Farming ซึ่งเป็นอีกทางหนึ่งในการสร้างรายได้ Passive Income นอกเหนือจากการ Stake

อีกหนึ่งแง่มุมที่น่าสนใจของกระดานเทรด DeFi Swap คือโครงการนี้มีทรัพย์สินดิจิทัลดั้งเดิมของตัวเอง นั่นคือ DeFi Coin (DEFC) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของบริการกระดานเทรด DeFi Swap ทั้งหมด และช่วยให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงการเติบโตได้ นอกจากบน DeFi Swap แล้ว ยังสามารถซื้อ DeFi Coin ได้บน PancakeSwap อีกด้วย

13. MyCointainer – รับ APY สูงสุด 133% ด้วยการรัน Node

แพลตฟอร์มหารายได้คริปโต MyCointainer ช่วยให้ผู้ใช้สามารถรับ APY สูงสุด 133% ได้ โดยการรัน Node สำหรับทรัพย์สิน 122 รายการ และเก็บรางวัลได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นกระดานเทรด, PoS, Masternode หรือ Cold Staking

ผู้ใช้สามารถติดตามผลตอบแทนรายวันได้ทั้งในแอปมือถือ (iOS หรือ Android) หรือในเวอร์ชันเดสก์ท็อปก็ได้

แพลตฟอร์มนี้อยู่ในตลาดมาแล้วสี่ปีนับตั้งแต่เปิดตัวโดย Bartosz Pozniak ในปี 2018 โดยให้บริการอย่างถูกกฎหมายจากเอสโตเนีย พร้อมให้การสนับสนุนทั่วโลกผ่านแอปมือถือ

MyCointainer ยังมีวิธีการฝากเงินหลากหลายให้เลือกใช้เพื่อเติมเงินเข้ากระเป๋า ตั้งแต่การชำระเงินผ่าน SEPA & SWIFT และ Visa/Mastercard ไปจนถึงวิธีการชำระเงินที่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมแต่รวดเร็วและสะดวก

สำหรับรางวัลเพิ่มเติมนั้น แพลตฟอร์มนี้มี Crypto Cashback, Airdrop และโปรแกรมแนะนำ ส่วนขยาย MyCointainer Crypto Cashback ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับเงินคืน 56% เมื่อช้อปปิ้งออนไลน์ โดยแพลตฟอร์มเป็นพันธมิตรกับร้านค้าและบริการออนไลน์ประมาณ 300 แห่งทั่วโลก ครอบคลุมหมวดหมู่ต่างๆ เช่น เสื้อผ้า การศึกษา การท่องเที่ยว และความบันเทิง

MyCointainer ให้โอกาสผู้ใช้เข้าร่วม Airdrop หลายรายการ โดยปัจจุบันมี 7 รายการบนแพลตฟอร์ม ณ เวลาที่เขียนบทความนี้

ผู้เข้าร่วม Airdrop จะได้รับตั้งแต่ 40 USDT ถึง 1,000,000 USDT แต่มีระยะเวลาจำกัด ดังนั้นนักลงทุนควรระวังอย่าพลาดข้อเสนอเหล่านี้

โปรแกรมแนะนำของ MyCointainer มีให้เลือกหลากหลาย โดยปัจจุบันมีรางวัลการแนะนำ 3 ประเภทดังนี้

• ฟรี Staking Token มูลค่า 15 ยูโร สำหรับการแนะนำแต่ละครั้ง
• 20% จากรายได้ MyCointainer สำหรับเพื่อนแต่ละคนที่คุณแนะนำ
• 10% ของราคาสุทธิสำหรับการแนะนำบริการโฮสติ้ง “stake-all” ของ MyCointainer

นอกจากนี้ แพลตฟอร์ม MyCointainer ยังมีแพ็คเกจสมาชิกพิเศษที่ช่วยลดค่าธรรมเนียมรางวัล และเข้าถึงของรางวัล VIP หลากหลายประเภท

14. Binance – Stake 14 เหรียญที่แตกต่างกันเพื่อรับ APY สูงสุดถึง 76%

ระบบนิเวศ Binance ปัจจุบันประกอบด้วยกระดานเทรดคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีเหรียญใหม่ๆลิสมากมาย เมื่อวัดจากปริมาณการซื้อขาย, ทรัพย์สินดิจิทัล 5 อันดับแรกเมื่อวัดจากมูลค่าตลาด, และมีระบบครบวงจรสำหรับการสร้างรายได้ Passive Income ณ ขณะที่เขียนบทความนี้ เครื่องมือ Staking ของ Binance รองรับเหรียญ 14 สกุล ซึ่งรวมถึง BNB, AAVE, Ethereum, XRP, Litecoin และ Bitcoin

ผลตอบแทนจะแตกต่างกันไปตามเหรียญ โดยอัตราดอกเบี้ยสูงสุด ณ ขณะที่เขียนบทความนี้คือ 8.7% สำหรับการ Stake DYDX เหรียญ Stake บางตัวมาพร้อมกับเงื่อนไขการถอนแบบยืดหยุ่น ในขณะที่บางตัวต้องมีระยะเวลาล็อกสูงสุดถึง 120 วัน และยังสามารถรับอัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้นได้อีก หากเลือกบัญชีดอกเบี้ย Binance เช่น Axie Infinity ในระยะ 90 วันให้ APY 76%

นอกเหนือจากการมีผลิตภัณฑ์ที่ให้ดอกเบี้ยแล้ว Binance ยังเป็นหนึ่งในกระดานเทรดคริปโตที่ถูกที่สุดในอุตสาหกรรมนี้ การซื้อและขายคริปโตจะเสียค่าธรรมเนียมเพียง 0.1% ต่อครั้ง Binance รองรับมากกว่า 1,000 ตลาด ซึ่งรวมถึงเหรียญมีมที่ดีที่สุดหลายตัวสำหรับนักลงทุนเก็งกำไร นอกจากนี้ Binance ยังลิสบรรดาเหรียญโตไวที่สุดจากเครือข่าย BSC อีกด้วย

15. BlockFi – ปล่อยกู้คริปโตเพื่อสร้างดอกเบี้ยรายได้ รับ APY สูงสุด 7.5%

BlockFi เป็นแพลตฟอร์มปล่อยกู้คริปโตชั้นนำที่รองรับบัญชีดอกเบี้ยและสินเชื่อ แม้ BlockFi จะไม่รองรับเครื่องมือ Staking โดยเฉพาะ แต่ก็ช่วยให้นักลงทุนสามารถฝากเหรียญเพื่อสร้างรายได้ Passive Income ได้ โดยเหรียญที่ฝากโดยนักลงทุนจะถูกนำไปใช้เป็นเงินกู้ให้กับบุคคลที่สามที่ใช้คริปโตเป็นหลักประกัน

BlockFi รองรับบัญชีดอกเบี้ยสำหรับสินทรัพย์คริปโต 15 รายการ ซึ่งรวมถึง Stablecoin ที่หลากหลาย อัตราดอกเบี้ยจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับเหรียญและจำนวนเงินที่ลงทุน ตัวอย่างเช่น นักลงทุนสามารถรับ APY 3.5% บน Bitcoin ได้สำหรับ 0.1 BTC แรก สำหรับยอดฝากที่มากกว่านั้นจะได้รับดอกเบี้ย 2%

อย่างไรก็ตาม อัตราที่ดีที่สุดจริงๆ นั้นมอบให้กับ Stablecoin ซึ่งจะดึงดูดนักลงทุนที่ต้องการสร้างรายได้ Passive Income โดยไม่ต้องเผชิญกับความผันผวน เช่น BUSD และ USDC ให้ผลตอบแทน 7.5%

16. Nexo – แพลตฟอร์มหารายได้ชั้นนำด้วยผลตอบแทนสูง APY สูงสุด 36%

Nexo เป็นคู่แข่งโดยตรงของ BlockFi เนื่องจากแพลตฟอร์มนี้มีความเชี่ยวชาญด้านบริการปล่อยกู้คริปโต นักลงทุนสามารถฝากโทเค็นเข้า Nexo เพื่อรับอัตราดอกเบี้ยสูง โดย Axie Infinity ให้ผลตอบแทนสงสุดถึง 36% Bitcoin และ Ethereum ก็ให้ผลตอบแทนดีเช่นกัน โดยมีอัตราสูงสุดที่ 7% และ 8% ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ได้อัตราที่ดีที่สุดบน Nexo นักลงทุนจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดบางประการ ซึ่งมักรวมถึงการฝากขั้นต่ำหนึ่งเดือนและรับดอกเบี้ยเป็นโทเค็น NEXO อย่างไรก็ตาม Nexo ได้รับความนิยมสำหรับการจ่ายเงินที่รวดเร็ว โดยจ่ายรางวัลเป็นรายวัน Nexo ไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมใดๆ จาก APY ที่โฆษณา

17. Bitstamp – กระดานเทรดคริปโตชั้นนำที่มี Staking APY สูงสุด 4.12%

Bitstamp เป็นกระดานเทรดคริปโตที่มีชื่อเสียงซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2013 แพลตฟอร์มนี้ส่วนใหญ่ใช้โดยนักลงทุนที่ต้องการค่าคอมมิชชันต่ำและการเข้าถึงตลาดที่หลากหลาย ตัวอย่างเช่น ปริมาณการซื้อขายต่ำกว่า 1,000 ดอลลาร์จะเข้าถึงค่าคอมมิชชัน 0% เมื่อซื้อและขายคริปโต

แม้ว่า Bitstamp จะมีบริการ Staking ด้วย แต่ปัจจุบันรองรับเพียงสองทรัพย์สินคริปโตเท่านั้น ได้แก่ Ethereum ซึ่งให้ APY 4.12% ส่วนทรัพย์สินคริปโตอีกตัวที่รองรับคือ Algorand ซึ่งให้ APY เพียง 1.6% จำนวนขั้นต่ำในการ Stake บน Ethereum คือ 0.1 ETH ส่วน Algorand ไม่มีขั้นต่ำ

สรุปเปรียบเทียบแพลตฟอร์มคริปโต Staking ที่ดีที่สุด

ตารางเปรียบเทียบด้านล่างนี้สรุปแพลตฟอร์มคริปโต Staking ที่ให้ APY สูงสุดซึ่งได้รับการรีวิวข้างต้น

ข้อมูลพื้นฐานของการ Stake คริปโต

การ Stake ช่วยให้นักลงทุนสามารถรับดอกเบี้ยจากโทเค็นไม่ได้ใช้งานในกระเป๋าคริปโต อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะดำเนินการต่อ การทำความเข้าใจกลไกการ Stake คริปโตอย่างถ่องแท้เป็นสิ่งสำคัญ

ดังนั้น จุดประสงค์ของส่วนนี้คือการอธิบายพื้นฐานของการ Stake เหรียญคริปโต

การ Staking คริปโตเคอเรนซีทำงานอย่างไร?

ในรูปแบบพื้นฐานที่สุด การ Stake กำหนดให้นักลงทุนฝากโทเค็นเข้าไปในเครือข่ายบล็อกเชนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะช่วยรักษาความปลอดภัยและกระจายอำนาจให้กับเครือข่าย นักขุดหรือผู้ทำหน้าที่ตรวจสอบธุรกรรมบล็อกเชนจะได้รับรางวัลเป็นโทเค็นที่ Stake ไว้เพื่อตอบแทนความพยายาม

ในทางกลับกัน นักลงทุนที่ Stake โทเค็นก็จะได้รับดอกเบี้ยตราบเท่าที่ยัง Stake โทเค็นอยู่ ผลตอบแทนจะแตกต่างกันไปตามเหรียญและเครือข่ายบล็อกเชนที่อยู่เบื้องหลัง อย่างไรก็ตาม การ Stake เป็นวิธีแบบ Passive Income ในการสร้างรางวัลคริปโต

อีกปัจจัยหนึ่งที่ต้องจำเกี่ยวกับการ Stake คือ บ่อยครั้งที่จะมีระยะเวลาล็อคขั้นต่ำ ซึ่งหมายถึงจำนวนวันที่โทเค็นจะถูกล็อคไว้ในเครือข่ายบล็อกเชนนั้น ๆ ในช่วงเวลานี้ นักลงทุนจะไม่สามารถถอนโทเค็นของตนได้

การขุดคริปโต กับ การ Stake

ทั้งการขุดและการ Stake คริปโตทำงานควบคู่กันไป อย่างไรก็ตาม สองคำนี้หมายถึงกระบวนการที่แตกต่างกัน

เมื่อพูดถึงการขุด หมายถึงกระบวนการตรวจสอบธุรกรรมบล็อกเชนเพื่อให้แน่ใจว่าเครือข่ายยังคงกระจายอำนาจและปลอดภัย

ในหลาย ๆ กรณี ใครก็ตามสามารถเป็นนักขุดได้เพียงแค่เชื่อมต่อฮาร์ดแวร์เฉพาะเข้ากับอุปกรณ์ ซึ่งเป็นวิธีแบบ Passive Income ในการรับคริปโตฟรี แม้ว่าจะยังมีต้นทุนบางอย่าง เช่น การใช้พลังงานไฟฟ้า

ในทางกลับกัน การ Stake หมายถึงกระบวนการล็อคโทเค็นคริปโตเป็นระยะเวลาขั้นต่ำจำนวนหนึ่ง โทเค็นเหล่านี้ถูกนำไปใช้เป็นรางวัลสำหรับนักขุดในการทำงาน การ Stake มีความคุ้มค่ามากกว่าเมื่อเทียบกับการขุด แม้ว่าผลตอบแทนมักจะด้อยกว่า สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขุดคริปโต ผู้อ่านสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความของเราเกี่ยวกับแพลตฟอร์มขุดคริปโตที่ดีที่สุดในปี 2024

การ Stake on-chain และ off-chain

นักลงทุนมักมีตัวเลือกในการ Stake โทเค็นแบบ on-chain หรือ off-chain

การ Stake on-chain หมายถึงกระบวนการฝากโทเค็นเข้าไปยังโปรโตคอลบล็อกเชนที่เกี่ยวข้องโดยตรง ซึ่งมักถือว่าเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยที่สุดในสองวิธี แต่ซับซ้อนกว่ามาก นอกจากนี้ เมื่อเลือกสัญญา on-chain ข้อกำหนดการ Stake ขั้นต่ำอาจสูงได้

การ Stake off-chain ช่วยให้นักลงทุนสามารถสร้างรายได้แบบ Passive Income ผ่านแพลตฟอร์มของบุคคลที่สาม เช่น Crypto.com ซึ่งโดยทั่วไปมักให้ผลตอบแทนที่น้อยกว่า แต่การ Stake off-chain ใช้งานง่ายกว่า นอกจากนี้ การ Stake off-chain มักกำหนดเงินลงทุนเริ่มต้นที่ต่ำกว่ามาก

ทำไมต้อง Stake คริปโต?

นักลงทุนระยะยาวที่สนใจในคริปโตควรพิจารณาการ Stake ด้วยเหตุผลที่ว่า เมื่อซื้อคริปโตแล้ว โทเค็นจะอยู่ในกระดานเทรดหรือกระเป๋าโดยไม่ได้สร้างรายได้ใด ๆ ซึ่งเหมือนกับการซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนแต่ไม่ปล่อยเช่า

ในทางกลับกัน หากนำเหรียญคริปโตที่ซื้อมา Stake แทน นักลงทุนจะได้สร้างรายได้แบบ Passive Income ผู้ที่ Stake ยังคงเป็นเจ้าของทรัพย์สินคริปโตที่เกี่ยวข้องอย่างครบถ้วน ดังนั้นกำไรส่วนทุนใด ๆ ที่โทเค็นสร้างขึ้นก็จะยังคงเกิดขึ้น

• ยกตัวอย่างเช่น สมมติว่านักลงทุนถือ ETH 2 เหรียญและตัดสินใจ Stake ด้วย APY 5%
• หลังจาก 12 เดือนของการ Stake นักลงทุนจะได้รับ ETH เพิ่มอีก 0.1% ในรูปแบบของรางวัล
• ดังนั้น ตอนนี้จะมี ETH 2.1 เหรียญ หากมูลค่าของ ETH เพิ่มขึ้นในตลาดนับแต่นั้นมา ก็จะทำให้กำไรส่วนทุนของนักลงทุนเพิ่มสูงขึ้นด้วย

ข้อเสียเพียงอย่างเดียวของการ Stake คือ หากนักลงทุนเลือกข้อตกลงที่กำหนดระยะเวลาล็อคขั้นต่ำ ในช่วงที่โทเค็นถูกล็อคไว้ นักลงทุนจะไม่สามารถขอถอนได้ และอาจเกิดต้นทุนค่าเสียโอกาสในช่วงเวลานี้

ภาษีการ Stake คริปโต

ภาษีคริปโตโดยทั่วไปจะแตกต่างกันไปตามที่อยู่ของนักลงทุน อย่างไรก็ตาม ในหลายเขตอำนาจศาล การ Stake คริปโตจะถูกเก็บภาษีในลักษณะเดียวกับภาษีเงินได้

ซึ่งต่างจากภาษีกำไรส่วนทุนจากคริปโตอย่างมาก เนื่องจากส่วนใหญ่จะต้องจ่ายก็ต่อเมื่อมีการขายโทเค็นแล้วเท่านั้น

ภาษีจากการ Stake มักคำนวณจากมูลค่าของรางวัลเมื่อได้รับ ซึ่งอาจทำให้ยากที่จะทราบว่าต้องเสียภาษีเท่าไหร่กันแน่ เนื่องจากความผันผวนของตลาดคริปโต

ขอแนะนำอย่างยิ่งให้นักลงทุนปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีเพื่อประเมินภาระภาษีจากการ Stake คริปโตของตน

การ Stake คริปโตปลอดภัยหรือไม่?

จะมีความเสี่ยงบางอย่างเสมอเมื่อ Stake คริปโต

ประการแรกและสำคัญที่สุด ในขณะที่นักลงทุนอาจได้สร้างรายได้จากความพยายาม Stake กระบวนการนี้ก็ยังคงอาจส่งผลให้เกิดการขาดทุนได้หากมูลค่าของโทเค็นที่เกี่ยวข้องลดลงในตลาด

นอกจากนี้ เมื่อ Stake off-chain นักลงทุนจำเป็นต้องพิจารณาความเสี่ยงของตัวแพลตฟอร์มเอง เพราะถึงอย่างไร หากแพลตฟอร์ม Stake ประสบปัญหาทางการเงิน ก็อาจไม่สามารถคืนโทเค็นที่นักลงทุนฝากไว้ได้

การ Stake on-chain ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน เพราะหากเครือข่ายถูกแฮ็ก อาจส่งผลให้โทเค็นที่ Stake ไว้ถูกขโมยได้

บทสรุป – ค้นหาแพลตฟอร์ม Staking Bitcoin ที่ดีที่สุด

คู่มือนี้ได้เปรียบเทียบแพลตฟอร์ม Staking คริปโตที่ดีที่สุดในตลาดปัจจุบัน เราได้ครอบคลุมตัวเลือกทั้งแบบ On-Chain และ Off-Chain ในช่วงของผลตอบแทนและเหรียญที่รองรับที่หลากหลาย

เราขอแนะนำเหรียญมาแรง PlayDoge ใหม่ล่าสุดเป็นแพลตฟอร์มคริปโต Staking ที่มี APY สูงสุด นี่เป็นเหรียญมีม multi-chain ตัวใหม่ที่กำลังมาแรง มีผลตอบแทน APY 537%

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับแพลตฟอร์มคริปโต Staking ที่ให้ APY สูงสุด

การ Stake คริปโตคืออะไร?

การ Stake คริปโตเป็นกลยุทธ์การลงทุนแบบ Passive Income โดยกำหนดให้นักลงทุนฝากทรัพย์สินคริปโตเข้าสู่โปรโตคอลบล็อกเชนเพื่อช่วยรักษาความปลอดภัยและการทำงานของเครือข่าย จากนั้นนักลงทุนจะได้รับอัตราดอกเบี้ยจากโทเค็นตราบเท่าที่ยัง Stake อยู่

หนึ่งในเหรียญที่ดีที่สุดสำหรับการ Stake ตอนนี้คือ Ethereum ซึ่งเพิ่งเปลี่ยนไปใช้ระบบ Proof-of-Stake ดังนั้น Ethereum จึงถือเป็นหนึ่งในเหรียญ Proof-of-Stake ที่ดีที่สุดในการซื้อและถือระยะยาว นอกจากนี้ ยังจะทำให้ Ethereum กลายเป็นหนึ่งในคริปโตเคอเรนซีที่ประหยัดพลังงานมากที่สุดในตลาดอีกด้วย BTC20 ก็เป็นอีกหนึ่งเหรียญที่ยอดเยี่ยมสำหรับการ Stake แม้ว่า APY จะยังไม่เป็นที่ทราบก็ตาม

การ Stake คริปโตคุ้มค่าไหม?

ใช่ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการ Stake คริปโตนั้นคุ้มค่า ไม่เช่นนั้น โทเค็นจะคงอยู่ในกระเป๋าคริปโตโดยไม่สร้างรายได้ใด ๆ การ Stake ช่วยให้นักลงทุนสามารถสร้างรายได้ Passive Income ได้ตราบเท่าที่ยังถือครองโทเค็นอยู่

แพลตฟอร์ม Staking คริปโตที่ดีที่สุดคืออะไร?

หนึ่งในแพลตฟอร์มคริปโต Staking ชั้นนำคือ Dogeverse ซึ่งมอบผลตอบแทนการ Stake ขั้นต่ำสูงถึง 584% สำหรับผู้ Stake ช่วงแรก

จะ Stake คริปโตได้อย่างไร?

วิธีที่ง่ายที่สุดในการ Stake คริปโตคือการเลือกแพลตฟอร์มของบุคคลที่สามที่มีการ Stake แบบ Off-Chain กระบวนการนี้โดยทั่วไปจะกำหนดให้นักลงทุนเปิดบัญชีกับแพลตฟอร์มก่อนที่จะฝากโทเค็นเข้าสู่ Pool สำหรับ Staking จากนั้นจะมีการสร้างดอกเบี้ยจากโทเค็น

สามารถรวยจากการ Stake คริปโตได้ไหม?

ทรัพย์สินคริปโตบางตัวให้รางวัล Staking ที่คุ้มค่ามาก ซึ่ง APY อาจสูงถึงสองหรือแม้แต่สามหลักก็ได้ อย่างไรก็ตาม ไม่มีการรับประกันว่านักลงทุนจะได้กำไรทางการเงินจากการ Stake หากมูลค่าของโทเค็นลดลงในตลาดมากกว่าที่สร้างขึ้นจากรางวัล Staking นักลงทุนก็จะขาดทุน