Altcoin คืออะไรและแตกต่างจาก Bitcoin ยังไง? มือใหม่ควรอ่าน!
Altcoin อ่านว่า ‘อัลท์คอยน์’ ซึ่งหมายถึงเหรียญคริปโตทางเลือก โดยมีหมุนเวียนอยู่ในตลาดมากกว่า 2,000 สกุล ทั้งหมดคืออะไร? และที่สำคัญกว่านั้น เหรียญเหล่านี้แตกต่างจาก Bitcoin ยังไงกันนะ?
แล้ว Altcoin คืออะไรกันแน่? ดีหรือเปล่า หรือเป็นแค่เหรียญราคาถูกที่มีต้นฉบับเป็น Bitcoin?
คุณอาจแปลกใจที่ว่า Altcoin เหรียญแรกที่เข้าสู่ตลาดควบคู่กันกับ Bitcoin นั้นถูกสร้างขึ้นในปี 2011 ซึ่งก็คือ Namecoin (NMC) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระจายอำนาจการจดทะเบียนชื่อโดเมนบนเว็บ และยังใช้เป็นเหรียญคริปโตทางเลือกอีกด้วย
ปัจจุบัน Alternative Coin มีมากกว่า 2,000 สกุลที่หมุนเวียนอยู่ในตลาดคริปโต ซึ่งคุณอาจสงสัยว่าเราต้องเหรียญจำนวนมากขนาดนี้หรือไม่ แต่ความจริงก็คือ นี่เป็นการแข่งขันในตลาดคริปโตเท่านั้น ทุกคนล้วนมีอิสระที่จะเปิดตัวเหรียญคริปโตของตัวเอง และทุกคนที่ทำแบบนั้นก็ได้คิดหรืออย่างน้อยก็แสร้งทำเป็นว่าพวกเขามีเหรียญสุดพิเศษมานำเสนอ แต่ในความเป็นจริง เหรียญส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบโทเค็นคริปโตหรือยูทิลิตี้ และอาจใช้เป็นรางวัลสำหรับแอพและแพลตฟอร์ม ซึ่งแม้ว่าจะมีเหรียญ Altcoin มากมายในตลาด แต่มีเพียงเหรียญที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่านั้นที่จะอยู่รอดเพื่อให้ได้รับการยอมรับในวงกว้าง
การแข่งขันที่เติบโตขึ้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อ Bitcoin แต่อย่างใด โดยในกรณีส่วนใหญ่ นี่เป็นเพียงการผลักดันตลาดคริปโตไปข้างหน้าเท่านั้น นอกจากนี้ ไม่ใช่ว่า Altcoin ทุกเหรียญจะเข้ามาแทน Bitcoin โดยตรง แต่ก็มักจะมาพร้อมกับคุณค่าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะติดมา
ในคู่มือนี้ คุณจะได้รู้จักกับ Altcoin 10 อันดับแรกว่ามีประโยชน์ยังไงและเป้าหมายคืออะไร? โดยเหรียญ Altcoin ที่จะพูดถึงในบทความนี้ ได้แก่ Litecoin (LTC), Ethereum (ETH), EOS (EOS), Ripple (XRP), Tether (USDT), IOTA (MIOTA), Cardano (ADA), Bitcoin Cash (BCH), Tron (TRX), และ Monero (XMR)
Litecoin (LTC). เหมือนกันกับ Bitcoin เหรียญ Litecoin ก็เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีวัตถุประสงค์เพียงอย่างเดียว นั่นก็คือการชำระเงินดิจิทัลแบบกระจายอำนาจ ถูกสร้างขึ้นในปี 2011 เพื่อเป็นทางเลือกหลังมีการรับรู้ถึงข้อบกพร่องของ Bitcoin โดยนำเสนอธุรกรรมที่เร็วขึ้น ค่าธรรมเนียมที่ถูกกว่า และจำนวนเหรียญที่มากขึ้น โดยผู้ก่อตั้ง Litecoin และอดีตวิศวกรของ Google อย่าง Charlie Lee ได้อธิบายสั้นๆ ว่า: “BTC คือทองคำดิจิทัล ส่วน LTC คือเงินดิจิทัล”
อ่านคำแนะนำ Litecoin ของเราเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม
Ethereum (ETH). Ether เป็นสกุลเงินดิจิทัลแบบกระจายอำนาจรุ่นที่สองที่ล้ำหน้ากว่า บนแพลตฟอร์ม Ethereum ซึ่งเรียกอีกอย่างว่า “คอมพิวเตอร์ของโลก” โดยถูกใช้สำหรับสัญญาอัจฉริยะ, แอพพลิเคชันกระจายอำนาจ (dApp), และยังเป็นเหรียญคริปโตที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเพื่อเป็นทุนสำหรับเหรียญ ICO ซึ่งก็เหมือนกันกับเหรียญคริปโตเคอเรนซี่อื่นๆ เหรียญ Ether ก็ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางให้เป็นวิธีการชำระเงินเช่นกัน
อ่านคู่มือ Ethereum ฉบับย่อของเราเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม
EOS Token (EOS). EOS เป็นอีกหนึ่ง Blockchain รุ่นที่สองและเหรียญคริปโตแบบกึ่งกระจายอำนาจที่ออกแบบมาเพื่อขับเคลื่อน DApps และ DAO (องค์กรแบบกระจายอำนาจ) และยังแข่งขันกับ Ethereum เพื่อชิงตำแหน่งแพลตฟอร์มสัญญาอัจฉริยะที่ดีที่สุดในโลก โดยพื้นฐานแล้ว EOS นั้นเร็วกว่าและปรับขยายเครือข่ายได้มากกว่า Ethereum แต่จะต้องเสียสละการกระจายอำนาจเพื่อฟังก์ชันดังกล่าวไป ด้วยเหตุนี้ EOS จึงถูกควบคุมโดย Delegated Proof of Stake (DPoS) และใช้งานข้อตกลง EOS เพื่อกำหนดกฎเกณฑ์ของแพลตฟอร์ม นอกจากนี้ EOS ยังอายุน้อยกว่า Ethereum มากและยังไม่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง
ดูข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับ EOS สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมของแพลตฟอร์ม
Bitcoin Cash (BCH). เหมือนกับ Litecoin เหรียญ Bitcoin Cash คือการอัพเกรดของ Bitcoin ซึ่งถือกำเนิดมาจากการอัพเกรดในช่วงฤดูร้อนปี 2017 โดยผู้ก่อตั้งเรียกเหรียญว่า “Bitcoin ที่แท้จริง” และในท้ายที่สุด BCH จะจัดการกับเวลาในการทำธุรกรรมที่ช้าของ Bitcoin การใช้พลังงานที่สูง และปัญหาค่าธรรมเนียม แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการยอมรับจากชุมชน เช่นเดียวกับ Bitcoin เหรียญถูกตั้งใจให้เป็นเหรียญคริปโตสำหรับการชำระเงิน
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Bitcoin Cash ที่นี่
Ripple (XRP). XRP เป็นอีกหนึ่งเหรียญคริปโตสำหรับการชำระเงิน นอกจากนั้น Ripple Labs ยังใช้เป็นแหล่งสภาพคล่องสำหรับการชำระเงินข้ามพรมแดนแบบเรียลไทม์ ด้วยเหตุนี้ จึงมักเรียกกันว่าเป็น “Banksters Coin” โดยตัวเหรียญได้รับการออกแบบให้เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่รวดเร็วและปรับขยายเครือข่ายได้มากที่สุด
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ XRP ที่นี่
Tether (USDT). Tether เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีเสถียรภาพและได้รับความนิยมมากที่สุดในตลาด นี่คือ Stablecoin โดยผูกกับสกุลเงินดอลลาร์ในอัตราส่วน 1:1 โดยหนึ่ง Tether จะมีค่าเท่ากับ 1 ดอลลาร์เสมอ และสามารถแลกเป็นสกุลเงินทั่วไปได้ตลอดเวลา โดยพื้นฐานแล้ว จะเป็นการผสมผสานประโยชน์ของเทคโนโลยี Blockchain และความเสถียรของสกุลเงินทั่วไป ซึ่งช่วยลดความผันผวนในตลาดคริปโตลงไป เทรดเดอร์มักจะใช้เหรียญเพื่อป้องกันความเสี่ยงทางการเงินในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอน นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นวิธีการชำระเงินได้ เนื่องจากสามารถส่งได้ทุกที่ในโลกผ่าน Blockchain อย่างไรก็ตาม เหรียญจะไม่เหมือนกับ Bitcoin หรือ Ethereum ตรงที่ Tether มีการรวมศูนย์สูงและธุรกรรมสามารถหยุดได้ตลอดเวลาโดยบริษัท Tether Limited
คลิกที่นี่เพื่ออ่านเกี่ยวกับ Tether เพิ่มเติม
TRON (TRX). TRON เป็นเหรียญคริปโตแบบกึ่งรวมศูนย์สำหรับความบันเทิงทางอินเทอร์เน็ตและระบบการสร้างเนื้อหา โดยโปรโตคอล TRON นำเสนอความสามารถในการปรับขยายเครือข่าย ความพร้อมใช้งานสูง และการสนับสนุนการประมวลผลความเร็วสูง (HTC) สำหรับการสร้างแอพพลิเคชันแบบกระจายอำนาจในระบบนิเวศของ TRON นอกจากนี้ยังเข้ากันได้กับสัญญาอัจฉริยะของ Ethereum โดยเป้าหมายหลักของเครือข่ายคือการกระจายอำนาจการจัดส่งบนเว็บ ซึ่งเหรียญ TRX จะใช้เพื่อแบ่งปันเนื้อหาบนเครือข่ายและเป็นรางวัลให้กับผู้สร้างเนื้อหาที่มีส่วนร่วมในเครือข่าย ดังนั้นจึงสามารถจัดให้เป็นได้เหรียญคริปโตและ Utility Token นั่นเอง
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ TRON ที่นี่
ที่มาของภาพ: BeatingBetting.com / flickr
Monero (XMR). นี่เป็นเหรียญคริปโตที่มุ่งเน้นความเป็นส่วนตัวแบบกระจายอำนาจ ถูกออกแบบมาเพื่อการชำระเงินที่ไม่สามารถติดตามได้ และเป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตที่เก่าแก่ที่สุดในตลาดซึ่งเปิดตัวในปี 2014 โดยผู้ใช้ XMR ทุกคนสามารถควบคุมระดับการมองเห็นและข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองได้ นอกจากนี้ยังเร็วกว่าและปรับขยายเครือข่ายได้มากกว่า Bitcoin อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวของเหรียญกลับไม่ได้ถูกนำมาใช้เพื่อสร้างประโยชน์เสมอไป เนื่องจากเหรียญได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นมาจากดาร์กเว็บและเรื่องไม่ดีอื่นๆ
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Monero ที่นี่
Cardano (ADA). ADA เป็นโทเค็นหลักของแพลตฟอร์ม Cardano โดยได้รับการออกแบบให้เป็นเหรียญคริปโตรุ่นที่สามที่สามารถขับเคลื่อนสัญญาอัจฉริยะ, DApps, Side Chain, Metadata, และ Multi-Party Computation แม้ว่าจะยังอยู่ในการพัฒนา แต่โปรเจกต์ก็มีเป้าหมายที่จะมาเป็น Bitcoin ใหม่ โดยมีความสามารถมากขึ้น เร็วขึ้น ปรับขยายได้ และประหยัดพลังงาน พร้อมความปลอดภัยที่ไร้ข้อจำกัด
คลิกที่นี่เพื่ออ่านเกี่ยวกับ Cardano เพิ่มเติม
IOTA (MIOTA). IOTA เป็นโปรเจกต์ใหม่สำหรับ Internet of Things (IoT) ในอนาคต โดยทำให้สามารถทำธุรกรรมแบบเครื่องต่อเครื่องระหว่างอุปกรณ์ IoT ได้อย่างรวดเร็วและไม่มีค่าธรรมเนียม แม้ว่าฟังก์ชันการทำงานดังกล่าวจะยังล้ำยุคเกินไปสักหน่อย แต่ MIOTA ก็ยังสามารถใช้เป็นเหรียญคริปโตสำหรับการชำระเงินปกติได้ ซึ่งทำให้เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ยอดเยี่ยม
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ IOTA ที่นี่
จากที่เห็นในตัวอย่างข้างต้น เหรียญคริปโตเคอเรนซี่ที่ได้รับความนิยมส่วนใหญ่ล้วนมีไอเดียและกรณีการใช้งานที่แตกต่างกันไป แม้ว่าบางเหรียญจะมีช่องทางเฉพาะมากกว่าเหรียญอื่นๆ แต่ส่วนใหญ่ก็ต่างพยายามที่จะมีข้อดีเหนือกว่า Bitcoin ด้วยการใช้เทคโนโลยีบางอย่าง และเมื่อเจาะลึกเหรียญไปมากกว่าสิบอันดับข้างต้น คุณก็อาจจะได้พบแพลตฟอร์ม dApp และเหรียญคริปโตที่ใช้สำหรับชำระเงินเพิ่มเติม รวมถึง Utility Token และเหรียญที่ได้รับการสนับสนุนจากสินทรัพย์พร้อมกรณีการใช้งานที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้นก็ได้
ตอนนี้คุณคุ้นเคยว่า Altcoin มีอะไรบ้างและเหรียญใดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแล้ว เรามาดูวิธีซื้อ Altcoin กันบ้างดีกว่า