Ledger Nano S Plus เป็น Hardware Wallet สำหรับจัดเก็บ XRP แบบออฟไลน์ โดยไพรเวทคีย์จะส่งไปยังกระเป๋าเงินที่ถูกเข้ารหัส และมีเพียงผู้ใช้เท่านั้นที่สามารถเข้าถึงไพรเวทคีย์ได้ ดังนั้น จึงเป็นตัวเลือก Non-custodial โดยสมบูรณ์ และ Ledger Nano S Plus คือ หนึ่งในวิธีที่ปลอดภัยที่สุดในการเก็บโทเค็น XRP ในระยะยาว
นอกจาก cold storage แล้ว ผู้ใช้จะต้องป้อน PIN บนอุปกรณ์ เพื่ออนุญาตให้มีการโอน ด้วยเหตุนี้ แม้ว่ากระเป๋าเงินจะถูกขโมย การทำธุรกรรมก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ Ledger Nano S Plus ยังมีการกู้คืนระยะไกล ซึ่งสามารถทำได้โดยการกรอกรหัสผ่าน 24 คำไปยังกระเป๋าเงินอื่น
ซึ่งเป็นอุปกรณ์ Ledger อื่น หรือกระเป๋าซอฟต์แวร์ที่รองรับไพรเวทคีย์ ทั้งนี้ Ledger Nano S Plus ขายในราคา 79 ดอลลาร์ และซื้อได้โดยตรงจากเว็บไซต์ผู้ผลิต ซึ่งรองรับ XRP และบล็อกเชนอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งรวมถึง Bitcoin, Ethereum และ Binance Smart Chain
7. Coinomi – XRP Wallet สำหรับผู้ใช้บนมือถือและเดสก์ท็อป
Coinomi คือ ผู้ให้บริการที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2014 และรองรับบล็อกเชนมากกว่า 125 รายการ ตั้งแต่ XRP, Bitcoin, Ethereum, Nem และ Binance Smart Chain ผู้ใช้สามารถเลือกใช้ได้ทั้ง แอพ Coinomi หรือซอฟต์แวร์เดสก์ท็อป ผ่านระบบปฏิบัติการ Android, iOS, Windows และ Mac
Coinomi ไม่มีค่าธรรมเนียมในการดาวน์โหลด การใช้ Coinomi จะมีค่าธรรมเนียม GAS ที่ชำระให้กับนักขุดโดยตรง โดยไม่มีการบวกเพิ่มใด ๆ นอกจากนี้ ผู้ใช้สามารถปรับค่าธรรมเนียม GAS เพื่อให้ธุรกรรมดำเนินไปได้เร็วขึ้นด้วย เราชอบที่ Coinomi ตรงที่ให้ผู้ใช้ได้ดูพอร์ตการลงทุนคริปโตของพวกเขาใน 168 สกุลเงินที่แตกต่างกัน ทำให้การติดตามประสิทธิภาพการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลเป็นไปอย่างราบรื่น
ในแง่ของความปลอดภัย Coinomi เป็น Non-custodial ที่มีการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตอยู่เสมอ และผู้ใช้มีหน้าที่รับผิดชอบไพรเวทคีย์ของตัวเองให้ปลอดภัย กระเป๋าเงินบนเดสก์ท็อปจะได้รับการป้องกันด้วยรหัสผ่าน ในขณะที่แอพจะมี PIN หรือการเข้าสู่ระบบแบบไบโอเมตริกซ์ สุดท้ายนี้ แม้ว่า Coinomi จะซื้อด้วยเงิน Fiat ได้ แต่ Simplex คิดค่าธรรมเนียมการชำระเงินสูงถึง 5%
ประเภท |
รูปแบบการฝาก |
เหรียญที่รองรับ |
ค่าธรรมเนียม |
มีแอพ? |
stake / ดอกเบี้ย? |
stake /อัตราดอกเบี้ย |
กระเป๋าซอฟต์แวร์บนเดสก์ท็อป และแอพมือถือ |
Non-custodial |
125 บล็อกเชน เช่น XRP, Bitcoin, Ethereum, Nem และ Binance Smart Chain |
สูงถึง 5% เนื่องจากธุรกรรมประมวลผลโดย Simplex |
มี |
มี แต่ไม่รองรับ XRP |
ไม่ระบุ ขึ้นอยู่กับเครือข่าย PoS |
ข้อดี
- XRP wallet ที่รองรับบล็อกเชนมากกว่า 125 รายการ
- ซอฟต์แวร์บนเดสก์ท็อปหรือแอพมือถือ
- ผู้ใช้สามารถปรับค่าธรรมเนียม GAS เพื่อการทำธุรกรรมที่รวดเร็วยิ่งขึ้นได้
- เครื่องมือการจัดการพอร์ตการลงทุนที่รองรับสกุลเงิน Fiat 168 สกุลเงิน
ข้อเสีย
- ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่จำกัด
- ค่าธรรมเนียมสูงถึง 5% สำหรับการชำระเงินแบบ Fiat
8. XRP Paper Wallet – Paper Wallet ใช้ฟรีสำหรับจัดเก็บ Ripple แบบออฟไลน์
XRP Paper Wallet เป็นทางเลือกฟรีสำหรับ Hardware Wallet เนื่องจากผู้ให้บริการอนุญาตให้ผู้ใช้สร้างที่อยู่กระเป๋า XRP และไพรเวทคีย์ได้ฟรี จากนั้น ผู้ใช้จะพิมพ์ข้อมูลประจำตัว และเก็บไว้บนPaper Wallet
และด้วยเหตุนี้โทเค็น XRP จึงไม่สามารถถูกแฮ็กจากระยะไกลได้ ตัวเลือกนี้จะเหมาะกับนักลงทุน XRP ในระยะยาวเท่านั้น เนื่องจากกระบวนการนำโทเค็นกลับมาออนไลน์เป็นสิ่งที่ยุ่งยาก ทั้งนี้ ผู้ใช้จะต้องดาวน์โหลดซอฟต์แวร์กระเป๋า XRP เช่น Exodus ก่อน
จากนั้น จะต้องนำเข้าไพรเวทคีย์พิมพ์ลงบนแผ่นPaper Wallet สิ่งนี้จะอนุญาตให้ผู้ใช้ควบคุมโทเค็น XRP จากกระเป๋าเงินใหม่ และทำการโอนได้ตามนั้น อย่างไรก็ตาม XRP Paper Wallet ใช้งานได้ฟรีโดยสมบูรณ์
ประเภท |
รูปแบบการฝาก |
เหรียญที่รองรับ |
ค่าธรรมเนียม |
มีแอพ? |
stake / ดอกเบี้ย? |
stake /อัตราดอกเบี้ย |
Paper wallet |
Non-custodial |
XRP |
ไม่ระบุ |
ไม่มี |
ไม่มี |
ไม่ระบุ |
ข้อดี
- กระเป๋าเงินฟรีที่ใช้เก็บโทเค็น XRP แบบออฟไลน์
- สร้างที่อยู่กระเป๋าเงินและไพรเวทคีย์ใหม่ได้ทันที
- นำเข้าไพรเวทคีย์ไปยังกระเป๋าเงินอื่นได้ตลอดเวลา
ข้อเสีย
- ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ซื้อและขาย XRP เป็นประจำ
- เข้าถึงเครื่องมือหารายได้ XRP ไม่ได้
- ไม่สามารถเรียกคืนเงินได้หากกระเป๋าสูญหายหรือเสียหาย
เกณฑ์การจัดอันดับ XRP wallet ที่ดีที่สุด
เราจัดอันดับกระเป๋าเงินตามเกณฑ์ที่เข้มงวด ซึ่งพิจารณาความปลอดภัย, ประเภทของอุปกรณ์, การดูแล, ค่าธรรมเนียม และเครือข่ายที่รองรับ
ตรวจสอบเกณฑ์ด้านล่างเมื่อต้องการหากระเป๋าเงิน Ripple ที่ดีที่สุดในปี 2023
- ความปลอดภัย : หนึ่งในความสำคัญหลักสำหรับนักลงทุน XRP คือ ความปลอดภัยของกระเป๋าเงิน ซึ่งรวมทุกอย่างตั้งแต่ Cold storage, การตรวจสอบแบบ 2FA ไปจนถึงรายการที่อยู่กระเป๋าเงินที่อนุญาตพิเศษ
- เครือข่ายที่รองรับ : นอกจาก XRP แล้ว กระเป๋าเงินต้องรองรับเครือข่ายบล็อคเชนอื่น ๆ เช่น Bitcoin, Ethereum, Binance Smart Chain และบล็อกเชนหลักอื่น ๆ
- Custodial หรือ Non-Custodial : นักลงทุนควรพิจารณาว่า พวกเขาต้องการให้ Custodian ดูแลโทเค็น XRP ของตนหรือไม่ หรือต้องการ Non-custodial ซึ่งหมายความว่า ผู้ให้บริการกระเป๋าเงินจะไม่สามารถเข้าถึงไพรเวทคีย์ของผู้ใช้ได้
- ฟีเจอร์ DeFi : XRP wallet ที่ดีที่สุด จะช่วยให้ผู้ใช้เชื่อมต่อกับเว็บที่ Decentralized ได้ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถสลับ XRP กับโทเค็นอื่น ๆ ได้โดยไม่ต้องมีกระดานแลกเปลี่ยนแบบ Centralized กระเป๋า XRP บางใบจะมีบัญชีออมทรัพย์ด้วย ทำให้ผู้ใช้สามารถรับรางวัลแบบพาสซีฟได้
- อุปกรณ์ที่รองรับ : นักลงทุนควรเลือกกระเป๋าเงินที่เข้ากันได้กับอุปกรณ์ที่ต้องการ ตัวอย่างเช่น Best Wallet เข้ากันได้กับสมาร์ทโฟนและเดสก์ท็อป ในขณะที่ Ledger มีวางจำหน่ายในรูปแบบอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์
- ค่าธรรมเนียม : กระเป๋าเงิน XRP ส่วนใหญ่ใช้งานได้ฟรี ซึ่งรวมบริการจัดเก็บและรับโทเค็น XRP จากที่อื่น และกระเป๋าเงิน XRP ที่ดีที่สุดไม่ควรเรียกเก็บเงินเพิ่มจากธุรกรรมขาออก
แม้ว่าการค้นหากระเป๋า XRP ที่ดีที่สุดอาจใช้เวลานาน แต่สิ่งสำคัญคือ นักลงทุนจะต้องตัดสินใจอย่างถูกต้อง ตัวอย่างเช่น ในขณะที่นักลงทุนที่เทรดบ่อย จะเหมาะกับกระเป๋าซอฟต์แวร์ แต่ HODLers ระยะยาว อาจชอบการจัดเก็บแบบ Cold storage
XRP wallet ทำงานอย่างไร?
พื้นฐานการทำงานของกระเป๋าเงิน Ripple มีดังนี้:
- กระเป๋าเงิน Ripple ใช้สำหรับจัดเก็บโทเค็น XRP
- ผู้ใช้สามารถส่งและรับโทเค็น XRP ได้ผ่านบล็อคเชน
- ฟีเจอร์เพิ่มเติมอาจรวมถึงกระดานแลกเปลี่ยนโทเค็น และการฝากเงิน Fiat
ก่อนเริ่มต้นใช้งาน ผู้ใช้ควรเรียนรู้วิธีการทำงานของการทำธุรกรรมขาเข้าและขาออกด้วย
ขั้นตอนแรก การทำธุรกรรม XRP จะประมวลผลจากกระเป๋าเงินสู่กระเป๋าเงิน การรับ XRP จะต้องส่งเงินไปยังที่อยู่กระเป๋าเงินของผู้ใช้ ซึ่งที่อยู่กระเป๋า XRP แต่ละอันจะไม่ซ้ำกัน เพื่อให้แน่ใจว่าการโอนเงินจะไปถึงเจ้าของกระเป๋าโดยตรง
ธุรกรรมขาออกก็ทำงานคล้ายกัน โดยผู้ส่งจะโอนโทเค็น XRP ไปยังที่อยู่ของกระเป๋าเงินของผู้รับ และเฉพาะผู้ส่งเท่านั้นที่ต้องชำระค่าธรรมเนียม ซึ่งคงที่ที่ 0.00001 XRP หรือประมาณ 0.000047 ดอลลาร์ ทำให้การทำธุรกรรม XRP มีประสิทธิภาพ และรวดเร็วมากภายในเวลาไม่กี่วินาที
เมื่อสร้าง XRP wallet มันจะยังคงใช้งานไม่ได้ จนกว่าจะฝากเงินเข้าไปอย่างน้อย 10 XRP ซึ่งเงินนี้จะไม่สามารถถอนออกได้
นอกจากนี้ จะรักษาความปลอดภัยด้วยไพรเวทคีย์ ซึ่งอาจมีทั้งแบบเข้าถึงคีย์ได้หรือไม่ได้
- กระเป๋า XRP แบบ Custodial จะ ไม่ แชร์ไพรเวทคีย์ให้แก่ผู้ใช้
- กระเป๋า XRP แบบ Non-custodial จะแชร์ ไพรเวทคีย์ให้แก่ผู้ใช้ ผ่านข้อความรหัสผ่านสำรอง
ไพรเวทคีย์ ช่วยให้สามารถเข้าถึง XRP wallet จากอุปกรณ์ใดก็ได้ ดังนั้น ผู้ที่เลือกใช้ Non-custodial ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า ไพรเวทคีย์ถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยแล้ว
ประเภทของ Ripple Wallet
นอกจากนี้ นักลงทุน XRP ควรเข้าใจประเภทของกระเป๋าเงินต่าง ๆ ด้วย
อ่านต่อเพื่อแยกความแตกต่างระหว่างกระเป๋าซอฟต์แวร์, ฮาร์ดแวร์ และ Paper Wallet
กระเป๋าซอฟต์แวร์
นักลงทุน XRP ส่วนใหญ่ เลือกใช้กระเป๋าซอฟต์แวร์ที่ปลอดภัย เพื่อการจัดเก็บโทเค็น XRP และยังคงเข้าถึงตลาดคริปโตได้
ตัวเลือกที่สะดวกที่สุด คือ การดาวน์โหลดแอพ XRP wallet ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงโทเค็น XRP ได้อย่างอิสระตลอดเวลา กระเป๋าเงินมือถือจะปลอดภัยด้วยรหัส PIN หรือลายนิ้วมือ และทำให้การถ่ายโอน XRP เป็นไปได้อย่างราบรื่น เนื่องจากโดยปกติแล้ว จะมีเครื่องสแกน QR มาให้ด้วย
กระเป๋าเงินบนเดสก์ท็อปก็ได้รับความนิยมเช่นกัน สิ่งนี้เป็นซอฟต์แวร์ที่ดาวน์โหลดได้ หรือส่วนขยายของเบราว์เซอร์ กระเป๋าเงินเดสก์ท็อปจะได้รับการรักษาความปลอดภัยด้วยรหัสผ่าน และอนุญาตให้ผู้ใช้จัดเก็บ XRP บนแล็ปท็อปหรือพีซีได้
โดยปกติแล้ว XRP wallet จะอยู่บนเว็บไซต์ของผู้ให้บริการ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงกระเป๋าเงินได้โดยการลงชื่อเข้าใช้ ซึ่งมักจะได้รับการรักษาความปลอดภัยด้วยการตรวจสอบสิทธิ์แบบ 2FA
กระเป๋าฮาร์ดแวร์
ผู้ที่ชื่นชอบความปลอดภัยมากกว่าความสะดวกสบาย อาจชอบกระเป๋าฮาร์ดแวร์ ซึ่งเก็บโทเค็น XRP ไว้ใน Cold storage ซึ่งหมายความว่า ไพรเวทคีย์จะไม่เสี่ยงต่อการถูกแฮ็กจากระยะไกล
หนึ่งในกระเป๋าสตางค์ฮาร์ดแวร์ที่ดีที่สุด คือ Ledger Nano S Plus ที่มีราคาขายอยู่ที่ 79 ดอลลาร์ และรองรับโทเค็นยูทิลิตี้ที่ดีที่สุด เช่น XRP, Ethereum และ BNB
กระเป๋า Paper Wallet
ผู้ที่ไม่มีงบประมาณในการซื้อกระเป๋าฮาร์ดแวร์ อาจพิจารณาแนวทางอื่นอย่าง Paper Wallet แทน
วิธีนี้จะมีการเก็บไพรเวทคีย์ไว้บนแผ่นPaper Wallet ซึ่งไม่มีความเสี่ยงที่จะถูกแฮ็กจากระยะไกล เนื่องจากข้อมูลประจำตัวของ XRP wallet จะไม่ถูกจัดเก็บไว้ที่อื่น
แต่โปรดจำไว้ว่า Paper Walle tไม่เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่เทรดบ่อย เพราะการย้ายโทเค็น XRP จาก Paper Wallet ไปยังกระเป๋าอื่น ๆ ทำได้ไม่สะดวกนัก
XRP wallet ปลอดภัยแค่ไหน?
เราได้พูดคุยถึงกระเป๋า XRP มาหลายประเภท แต่อันไหนที่ปลอดภัยที่สุด?
เราไม่ได้บอกว่า Cold Storage เป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด เพราะท้ายที่สุดแล้วก็เคยมีการขโมยคริปโตเคอเรนซี่กันมาก่อน ซึ่ง Cold Wallet แก้ปัญหานี้โดยการคงสถานะออฟไลน์ไว้ตลอดเวลา
แต่ Cold Wallet ไม่ได้ทำให้การเข้าถึงสกุลเงินดิจิทัลสะดวกมากนัก ผู้ที่ต้องการย้ายโทเค็น XRP บ่อย ๆ จึงต้องการ Hot wallet ที่มีการรักษาความปลอดภัยมากกว่า
ตัวอย่างเช่น eToro ที่มีพื้นที่จัดเก็บกระเป๋าที่มีการควบคุม นอกเหนือจากการให้สิทธิ์ใช้งานในระดับหนึ่งแล้ว eToro ยังมีแผนกดูแลความเสี่ยงภายใน และอนุญาตให้ผู้ใช้ตั้งค่าการตรวจสอบสิทธิ์แบบ 2FA ได้
กระเป๋าเงิน Non-custodial เช่น Best Wallet และ Trust Wallet ทำสิ่งที่แตกต่างออกไป เนื่องจากมีเพียงผู้ใช้เท่านั้นที่สามารถเข้าถึงไพรเวทคีย์ของกระเป๋าเงินได้ จึงมีหน้าที่รับผิดชอบในการดูแลให้ปลอดภัย ซึ่งสามารถรักษาความปลอดภัยได้โดยใช้รหัสผ่าน PIN หรือรหัสไบโอเมตริกซ์ ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ
ท้ายที่สุดแล้ว ไม่มี XRP wallet ใดที่ปราศจากความเสี่ยง 100% ดังนั้น ผู้ใช้ควรมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ เกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดก่อนเลือกผู้ให้บริการ
วิธีการตั้งค่า ADA Wallet
คุณกำลังมองหาการจัดเก็บโทเค็น XRP ในกระเป๋าเงิน Ripple ที่ปลอดภัยอยู่ไหม?
นี่เป็นขั้นตอนที่จำเป็นเมื่อใช้ eToro
ขั้นตอนที่ 1: ลงทะเบียนบัญชี eToro
ขั้นแรกไปที่ เว็บไซต์ eToro และคลิก ‘Sign Up’
กรอกอีเมล, ชื่อผู้ใช้ และรหัสผ่าน
คลิกที่ปุ่ม ‘Create Account’ eToro จะรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลบางส่วน รวมถึงสำเนาบัตรประจำตัวที่ออกโดยหน่วยงานราชการ ตามกฎระเบียบป้องกันการฟอกเงิน
ขั้นตอนที่ 2: ดาวน์โหลดแอพ eToro Wallet
ขั้นตอนต่อไป คือ การดาวน์โหลดแอพกระเป๋าเงิน eToro
แอพนี้สามารถใช้ได้ทั้ง iOS และ Android
เปิดแอพ eToro แล้วเข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านเดียวกันกับที่กำหนดก่อนหน้า
ขั้นตอนที่ 3: โอนหรือซื้อ Ripple
ตอนนี้กระเป๋าเงิน eToro พร้อมใช้งานแล้ว
วิธีโอน Ripple ไปยังกระเป๋าเงิน ทำดังนี้:
- คลิกที่ปุ่ม ‘Receive’
- เลือก ‘Ripple’
- คลิกที่ไอคอน ‘Copy’
- โอนโทเค็น XRP ไปยังที่อยู่กระเป๋าเงิน Ripple ที่คัดลอกไว้
- เมื่อธุรกรรมได้รับการยืนยันโดยบล็อกเชน โทเค็นจะปรากฏในกระเป๋าเงิน eToro
หรือผู้ใช้สามารถซื้อ Ripple ในแอพ eToro หนึ่งใน XRP wallet ที่ดีที่สุดได้ :
- เลือกวิธีการชำระเงิน ได้แก่ Visa, MasterCard, Maestro, PayPal และกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ
- กรอกเงินฝากตั้งแต่ 10 ดอลลาร์ขึ้นไป
- ค้นหา ‘Ripple’ และคลิก ‘Invest’
- กรอกจำนวนเงินลงทุนตั้งแต่ 10 ดอลลาร์ขึ้นไป
- ยืนยันการซื้อ
โทเค็น XRP จะปรากฏในกระเป๋าเงิน eToro ทันที
บทสรุป
นักลงทุน XRP มีตัวเลือกกระเป๋าเงิน Ripple มากมาย ซึ่งต้องพิจารณาตามความปลอดภัย, ฟีเจอร์ และการใช้งาน ลองดู Best Wallet
Best Wallet เป็น XRP wallet ใหม่ล่าสุด ที่จองได้ล่วงหน้าตอนนี้ก่อนที่จะเปิดตัว
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ XRP wallet
สถานที่จัดเก็บ Ripple ที่ปลอดภัยที่สุด คือที่ไหน?
สถานที่จัดเก็บ Ripple ที่ปลอดภัยที่สุด คือ Hardware Wallet เนื่องจากป้องกันการแฮ็กได้ดี
การจัดเก็บ XRP บน XUMM ปลอดภัยหรือไม่?
การจัดเก็บ XRP บน XUMM ปลอดภัย แต่ต้องรักษาไพรเวทคีย์ให้ปลอดภัยด้วย
ฉันสามารถรักษา XRP ให้ปลอดภัยได้อย่างไร?
คุณสามารถรักษา XRP ให้ปลอดภัยได้ด้วยการเลือกกระเป๋าเงิน Ripple ที่มีการรักษาความปลอดภัย เช่น Cold storage, การตรวจสอบสิทธิ์แบบ 2FA และการเข้าสู่ระบบด้วยไบโอเมตริกซ์
XRP wallet ที่ดีที่สุด คือแบบไหน?
XRP wallet ที่ดีที่สุด คือ ผู้ให้บริการที่ได้รับการควบคุม เช่น eToro ซึ่งเทรดได้อย่างปลอดภัยและมีต้นทุนต่ำ