เอลซัลวาดอร์อาจกลายเป็นหนึ่งในประเทศที่รวยที่สุดในโลกจากการถือบิทคอยน์
เอลซัลวาดอร์ – เป็นหนึ่งในประเทศที่เล็กที่สุดและมีประชากรหนาแน่นมากที่สุดในอเมริกากลาง – อาจกลายเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลกจากการถือบิทคอยน์
เพื่ออธิบายเพิ่มเติม เอลซัลวาดอร์ได้เป็นประเทศแรกของโลกที่ยอมรับบิทคอยน์ให้เป็นสกุลเงินที่ชำระได้ตามกฎหมายเมื่อเดือนกันยายน 2021 จากนั้นในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2022 ประธานาธิบดีของเอลซัลวาดอร์ Nayib Bukele ก็ได้ประกาศว่ารัฐบาลจะเริ่มซื้อ 1 BTC ต่อวัน
แม้ว่าการตัดสินใจของประธานาธิบดี Bukele จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ แต่ก็มีรายงานว่าบิทคอยน์ที่ทางรัฐบาลถือเอาไว้มีมูลค่ามากกว่า 2,000 BTC ซึ่งคิดเป็นมูลค่ามากกว่า 150 ล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน
BREAKING NEWS: Emir of Qatar and President of El Salvador announce “No more easy buying or dips for laggards #Bitcoin full send to 70K” pic.twitter.com/UIvDUVow6m
— RŌNIN (@ronin21btc) March 3, 2024
ถึงแม้จะน่าประทับใจ แต่ประธานาธิบดี Bukele ก็ยังระบุด้วยว่าเขาไม่มีแผนที่จะขายบิทคอยน์ของประเทศที่ถือไว้มากมาย ด้วย Bitcoin Halving ที่ใกล้จะมาถึง เอลซัลวาดอร์อาจสร้างกำไรได้เพิ่มมากขึ้น หากราคา BTC ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอยู่
เอลซัลวาดอร์อาจกลายเป็นหนึ่งในประเทศที่ร่ำรวยที่สุด
ด้วยเหตุนี้ ฝั่งผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมจึงคาดการณ์ว่า สุดท้ายแล้ว เอลซัลวาดอร์อาจกลายเป็นหนึ่งในประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลก
Tim Draper ผู้ร่วมลงทุนจาก Silicon Valley ได้อธิบายไว้ในรายการพ็อดคาสท์ Web3 Deep Diveเมื่อเร็วๆ นี้ว่า เอลซัลวาดอร์กำลังก้าวเข้าสู่การเป็นประเทศแห่งนวัตกรรม โดยให้สังเกตว่าในอีกไม่นาน ประเทศดังกล่าวอาจเป็นหนึ่งในสถานที่ที่น่าอยู่ที่สุดในโลก
“ภายใน 30 หรือ 40 ปีข้างหน้า เอลซัลวาดอร์จะเปลี่ยนจากประเทศที่ยากจนที่สุดและเต็มไปด้วยอาชญากรรม ไปสู่ประเทศที่ร่ำรวยที่สุดและมีนวัตกรรมมากที่สุดในโลกในตอนนั้น” Draper กล่าว “และนี่เป็นเพราะพวกเขายอมรับบิทคอยน์เท่านั้น”
Draper ชี้เพิ่มเติมว่าหากบิทคอยน์แตะ 100,000 ดอลลาร์ ประเทศเอลซัลวาดอร์ก็สามารถชำระหนี้เงินกู้ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้
สะท้อนเรื่องนี้ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น Alexander Mamasidikov ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ CrossFi ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มตัวกลางที่เชื่อมการธนาคารแบบดั้งเดิมด้วย Blockchain บอกกับ Cryptonews ว่าเขาเชื่อว่าเอลซัลวาดอร์จะเป็นอิสระทางการเงินในอีกไม่ช้า
“สิ่งนี้จะช่วยให้ประเทศมุ่งเน้นไปที่เรื่องภายในประเทศได้เต็มที่ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในโลกสมัยใหม่ของเรา” Mamasidikov กล่าว “การยอมรับบิทคอยน์เป็นสกุลเงินอย่างเป็นทางการทำให้ทางรัฐบาลสามารถเปลี่ยนรูปแบบทางการเงินได้อย่างสมบูรณ์และดำเนินไปในแนวทางของตน”
บิทคอยน์เปิดโอกาสให้ชาวเอลซัลวาดอร์เข้าถึงบริการทางการเงิน
แน่นอนว่าบิทคอยน์ถูกพิสูจน์แล้วว่าเป็นสินทรัพย์ประเภทที่สำคัญสำหรับเอลซัลวาดอร์
Joe Nakamoto – นักข่าวคริปโตที่เพิ่งถ่ายทำสารคดีเกี่ยวกับบิทคอยน์ในเอลซัลวาดอร์ บอกกับทาง Cryptonews ว่า บิทคอยน์ได้นำการเข้าถึงบริการทางการเงินและอธิปไตยมาสู่ประเทศ
“ในประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าถึงบริการธนาคารแบบดั้งเดิม และหลายครอบครัวต้องพึ่งพาการส่งเงินผ่านจดหมาย BTC จะเปิดโอกาสให้ชาวเอลซัลวาดอร์กลายเป็นธนาคารของตนเองและรับเงินได้จากทุกที่ในโลกด้วยค่าธรรมเนียมที่ต่ำอย่างไม่น่าเชื่อ” Nakamoto กล่าว
✨ When you pay with #Bitcoin #Lightning in El Salvador…
..you get high fives, laughs and a hug 🧡⚡️ 🇸🇻 @nayibbukele pic.twitter.com/pqjnlOafRd
— Joe Nakamoto ⚡️ (@JoeNakamoto) July 17, 2023
แม้ว่าประธานาธิบดี Bukele ยืนยันว่าจะไม่ขายบิทคอยน์ที่ถือโดยรัฐบาล แต่ Nakamoto ก็อธิบายว่า BTC ได้ถูกใช้เป็นเงินในประเทศโดยประชากรส่วนน้อย
“ในโครงการเศรษฐกิจหมุนเวียน ซึ่งรวมถึง เบอร์ลิน, เอลแซนเต, และบางส่วนของซานซัลวาดอร์ มีชาวเอลซัลวาดอร์ที่ถือเหรียญบิทคอยน์ที่ต้องการใช้บิทคอยน์มากกว่าสกุลเงินดอลลาร์” เขากล่าว
Mamasidikov ชี้ให้เห็นว่าเอลซัลวาดอร์ละทิ้งดอลลาร์ให้เป็นสกุลเงินสำรองเมื่อปี 2021 และเริ่มใช้บิทคอยน์ เขาเชื่อว่าการใช้ BTC จะทำให้ความมั่งคั่งของประเทศเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป
“บิทคอยน์เป็นทองคำดิจิทัลสำหรับเอลซัลวาดอร์ พร้อมสร้างความเชื่อมั่นในหมู่ประชาชนและในเวทีโลก พร้อมแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าประเทศมีเงิน” Mamasidikov กล่าว
นี่เป็นสิ่งสำคัญสำหรับเอลซัลวาดอร์ เนื่องจากธนาคารโลกได้ค้นพบแล้วว่าประเทศนี้ยังคงเผชิญกับปัญหาอัตราความยากจนที่สูง ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่านับตั้งแต่ปี 2019 และยังมีฐานะทางการคลังที่เปราะบาง
เหตุผลที่เอลซัลวาดอร์ไม่ควรขายบิทคอยน์คืออะไร?
แม้ว่าปัจจุบันเอลซัลวาดอร์จะเผชิญกับความยากลำบากทางเศรษฐกิจ แต่ก็มีเหตุผลที่รัฐบาลควรยึดมั่นในต่อไป
ตัวอย่างก็คือ Nakamoto เชื่อว่าการขาย BTC ที่ถือในประเทศอาจช่วยในเรื่องการทำกำไรในระยะสั้น แต่ก็อาจบ่อนทำลายความเชื่อมั่นในการเริ่มยอมรับบิทคอยน์ของเอลซัลวาดอ
“ผมสงสัยว่าชุมชนบิทคอยน์ที่จริงจังจะมองเอลซัลวาดอร์อย่างไรถ้าประธานาธิบดี Bukele ขายทรัพย์สินบางส่วนของประเทศ” เขากล่าว “โดยส่วนตัวแล้ว ผมคงไม่สนใจ แต่ ‘HODLing’ ที่เด็ดเดี่ยวของเขาก็ได้บ่งบอกว่า Bukele กำลังส่งข้อความบางอย่างให้เห็น”
Mamasidikov กล่าวเสริมว่าบิทคอยน์ไม่ใช่วิธีการเก็งกำไรและการเทรดสำหรับเอลซัลวาดอร์ เนื่องจากเป็นบิทคอยน์หุ้นสำรองของประเทศ
“หากพวกเขาต้องการขาย BTC พวกเขาจะประสบปัญหาเนื่องจากได้ละทิ้งสกุลเงินสำรองอย่างเป็นทางการอย่างดอลลาร์และทองคำไป” เขากล่าว “สิ่งนี้จะทำให้ทุนสำรองของพวกเขาหมดลง รัฐบาลจะไม่ทำแบบนี้”
เอลซัลวาดอร์ได้สร้างตัวอย่างสำหรับประเทศอื่น ๆ
ไม่ว่าสุดท้ายแล้ว ประธานาธิบดี Bukele มีแผนจะทำอะไรกับบิทคอยน์ของรัฐบาล แต่เอลซัลวาดอร์ก็เริ่มเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับประเทศอื่น ที่วางแผนใช้งานสินทรัพย์ดิจิทัล
ตัวอย่างเช่น พันธบัตรบิทคอยน์หรือที่รู้จักในชื่อ “Volcano Bonds” ของเอลซัลวาดอร์ที่รอคอยมานาน มีรายงานว่าถูกอนุมัติตามกฎระเบียบและกำลังจะเปิดตัวในปีนี้ หลังจากถูกอนุมัติแล้ว เอลซัลวาดอร์จะเป็นประเทศแรกในโลกที่ใช้พันธบัตรบิทคอยน์“
โดยส่วนตัวแล้ว ผมมองว่าการนำบิทคอยน์มาใช้ในประเทศจะเป็นอีกหนึ่งก้าวสู่อิสรภาพทางการเงิน ในขณะที่ผู้สนับสนุนบิทคอยน์ทั่วโลกก็จะสามารถยกเอลซัลวาดอร์ให้เป็นเรื่องราวความสำเร็จได้จริงๆ” Mamasidikov กล่าว
แม้ว่าความพยายามของประธานาธิบดี Bukele จะน่าประทับใจ แต่ Nakamoto ก็ชี้ให้เห็นว่าประชาชนจำนวนมากในประเทศยังขาดความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับคอนเซ็ปต์ของบิทคอยน์
“ผมสัมภาษณ์ชาวเอลซัลวาดอร์มากกว่า 30 คนบนถนนในซานซัลวาดอร์เพื่อถามพวกเขาว่าพวกเขาเคยใช้บิทคอยน์หรือไม่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสารคดีที่ผมถ่ายทำในปี 2022” เขากล่าว “
คนส่วนใหญ่ใช้บิทคอยน์ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา แต่เมื่อพูดถึงคอนเซ็ปต์พื้นฐานเกี่ยวกับบิทคอยน์ เช่น บิทคอยน์ทั้งหมดมีจำนวนเท่าไหร่ หลายคนไม่สามารถตอบได้”
ด้วยเหตุนี้ Nakamoto ได้เล่าว่าเขาวางแผนที่จะเดินทางกลับไปที่เอลซัลวาดอร์ในปีนี้เพื่อศึกษาการยอมรับบิทคอยน์เพิ่มเติม“
ผมหวังว่าจะถามคำถามซ้ำเพื่อทำความเข้าใจว่าประเทศมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับบิทคอยน์และเงินหรือไม่” เขากล่าว “ในฐานะที่บิทคอยน์เป็นทั้งเทคโนโลยีและเงินถือเป็นการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ และด้วยเหตุนี้ จึงต้องใช้เวลา ความพยายาม และความเต็มใจที่จะเรียนรู้และทำความเข้าใจ”
