8 ร้านที่รับ Ethereum ปี 2023 – ที่ไหนบ้างที่ใช้ ETH ได้

3. Newegg

Newegg เป็นร้านค้าออนไลน์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ซึ่งเชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ คุณสามารถซื้อคอมพิวเตอร์ เครื่องเล่นเกม อุปกรณ์ภายในบ้าน และอื่น ๆ อีกมากมายได้ที่ Newegg ซึ่งทั้งหมดนี้รองรับการชำระเงินแบบคริปโตอย่างเต็มรูปแบบ

ในฐานะหนึ่งในร้านที่รับ Ethereum รายแรก ๆ Newegg ได้กลายเป็นช่องทางสำหรับผู้ที่ต้องการซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทางออนไลน์ด้วยคริปโตเคอเรนซี่ โดยสามารถชำระเงินโดยใช้ ETH และสกุล เงินดิจิทัลอื่น ๆ ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด เช่น DOGE และ LTC ได้

การจ่ายเงินด้วย Ethereum ผ่าน BitPay เป็นหนึ่งในช่องทางการชำระเงินที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุดในโลก ซึ่งช่วยให้ร้านค้าสามารถรับคริปโตได้อย่างง่ายดาย

สิ่งที่ผู้ซื้อจำเป็นต้องทำ คือ เลือกตัวเลือกการชำระเงินใน BitPay จากนั้นจึงโอน ETH ไปยังที่อยู่กระเป๋าเงินที่ให้ไว้ BitPay จะแสดง QR Code ที่ผู้ซื้อสามารถสแกนเพื่อโอนเงินได้ โดยไม่จำเป็นต้องกรอกตัวเลขด้วยตนเอง

4. Namecheap

ร้านที่รับ Ethereum ที่ดีที่สุดอีกแห่ง คือ Namecheap ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทรับจดทะเบียนโดเมนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก และมีบริการที่หลากหลาย เช่น การโฮสติ้ง อีเมล และการรับรอง SSL

Namecheap เริ่มรับชำระด้วยคริปโตเคอเรนซี่ตั้งแต่ปี 2013 และทำให้เป็นหนึ่งในร้านค้า “pro-crypto” มากที่สุดในรายการของเรา แม้ว่า Namecheap จะรับเฉพาะ Bitcoin ในตอนแรก แต่ตอนนี้ได้เพิ่มตัวเลือกคริปโตที่ดีที่สุด อย่าง Ethereum เข้าไปด้วยแล้ว

ผู้ใช้สามารถเติมเงินในบัญชี Namecheap ได้อย่างง่ายดาย โดยอาศัยความร่วมมือกับ BitPay ซึ่งต้องโอนเหรียญไปยังที่อยู่กระเป๋าเงินที่ BitPay ให้ไว้ หรือสแกน QR Code เพื่อจ่ายเงิน

การจ่ายด้วยคริปโตขั้นต่ำของ Namecheap เริ่มต้นที่ 1 ดอลลาร์ และต้องยืนยัน ID สำหรับผู้ที่จ่ายเงินตั้งแต่ 3,000 ดอลลาร์ขึ้นไป นี่จึงเป็นข่าวดีสำหรับนักช้อปที่ไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนเมื่อต้องการซื้อโดเมนและใช้บริการอื่น ๆ บนเว็บไซต์

5. Bitrefill

Bitrefill เป็นร้านที่รับ Ethereum ที่ค่อนข้างพิเศษ เพราะแทนที่จะนำขายผลิตภัณฑ์/บริการโดยตรง แต่ Bitrefill กลับขายเป็นบัตรของขวัญจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก เช่น Uber, Amazon และ Just Eat แทน

แบรนด์ต่าง ๆ มากมายที่ซื้อได้ใน Bitrefill ไม่รองรับการชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัลโดยตรง แต่ Bitrefill สนับสนุนสิ่งนี้อย่างเต็มที่ ซึ่งหมายความว่า ผู้ซื้อสามารถซื้อสินค้าทางอ้อมจากแบรนด์เหล่านี้ผ่านบัตรของขวัญที่ซื้อได้จากคริปโตเคอเรนซี่

ในขณะที่เขียนนี้ Bitrefill รองรับสกุลเงินดิจิทัลชั้นนำมากมาย เช่น BTC, ETH และ USDT ยิ่งไปกว่านั้น Bitrefill ยังเป็นหนึ่งในร้านค้าที่ใช้คริปโตได้ง่ายที่สุดในรายการของเรา ซึ่งรองรับการโอนเงินจากผู้ให้บริการกระเป๋าเงินชั้นนำเกือบทั้งหมด เช่น Ledger, Trust Wallet และ Coinbase Wallet

เมื่อการโอนเสร็จสิ้น Bitrefill จะส่งบัตรของขวัญผ่านทางอีเมลให้คุณทันที และบัตรของขวัญจะใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถนำบัตรเหล่านี้ไปซื้อสินค้าออนไลน์ได้ในทันที

6. Rakuten

Rakuten เป็นบริษัทอีคอมเมิร์ซจากญี่ปุ่นที่นำเสนอบริการที่หลากหลาย ตั้งแต่การช้อปปิ้งออนไลน์ไปจนถึงการจองการเดินทาง บริษัทนี้คล้ายคลึงกับ Amazon เนื่องจากมีแนวทางที่หลากหลาย และขยายไปสู่ตลาดใหม่อย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการเป็นร้านที่รับ Ethereumด้วย

ร้านค้าออนไลน์แห่งนี้สามารถจ่ายเงินด้วย Ethereum และเหรียญ Web3 ที่ดีที่สุดได้ โดย Rakuten จะใช้สกุลเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่เรียกว่า “Rakuten Cash” ซึ่งใช้ในธุรกรรมทั้งหมดภายในระบบนิเวศ และผู้ซื้อสามารถเติมเงินใน Rakuten Cash โดยใช้สกุลเงินดิจิทัลได้

ขั้นตอนการเติมเงินผ่านแอป Rakuten Wallet จะเป็นเหมือนกระดานแลกเปลี่ยนคริปโตที่มีเหรียญ Rakuten เป็นหลัก ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้จะต้องซื้อหรือจัดเก็บคริปโตของตนด้วย Rakuten Wallet หากต้องการแปลงเหรียญให้เป็น Rakuten Cash

อย่างไรก็ตาม เมื่อแปลงเป็น Rakuten Cash แล้ว จะสามารถนำมาใช้เพื่อซื้อสินค้าต่าง ๆ ได้ นอกจากนี้ Rakuten Cash ยังใช้ได้ที่ร้านค้าทั่วประเทศญี่ปุ่นผ่านแอป Rakuten Pay ซึ่งเป็นวิธีทางอ้อมสำหรับผู้ถือคริปโตที่ต้องการใช้เหรียญของตนเอง

7. eGifter

eGifter เป็นหนึ่งในร้านที่รับ Ethereum และเสนอทางเลือกที่เป็นคู่แข่งกับ Bitrefill โดย eGifter ถือเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่จำหน่ายบัตรของขวัญจากแบรนด์ดังมากกว่า 300 แบรนด์ในสหรัฐอเมริกา เช่น Amazon, Apple, Macy’s Dominos และ Walmart

ร้านค้ารายนี้มีแอปเดสก์ท็อปและมือถือ ซึ่งช่วยให้กระบวนการจัดซื้อง่ายดายมากขึ้น นอกจากนี้ ผู้ซื้อจะได้รับ “คะแนน eGifter” ทุกครั้งที่ซื้อบัตรของขวัญด้วยสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งสามารถใช้เพื่อรับบัตรของขวัญฟรีในอนาคตได้

การซื้อบัตรของขวัญด้วยสกุลเงินดิจิทัลไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม โดย eGifter รองรับเหรียญชั้นนำมากมาย เช่น ETH, BTC, XRP และ LTC ซึ่งทุกการชำระเงินจะทำผ่าน BitPay ซึ่งใช้งานง่าย

eGifter จึงเหมาะสำหรับคนที่ชอบซื้อบัตรของขวัญในลักษณะนี้ เนื่องจากไม่ต้องใช้รายละเอียดในการชำระเงิน และเมื่อธุรกรรมเสร็จสิ้น บัตรของขวัญก็จะถูกส่งทางอีเมลและใช้งานได้ทันที

8. Jomashop

ปิดท้ายร้านที่รับ Ethereum ด้วย Jomashop ซึ่งเป็นร้านขายสินค้าออนไลน์ที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์หรูหราหลากหลายประเภท เช่น กระเป๋าถือ ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม นาฬิกา และแว่นกันแดด

Jomashop มีสินค้าจากแบรนด์ชั้นนำมากมาย ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกาแบรนด์เนมอย่าง Tudor และ Bulova หรือแว่นกันแดดอย่าง Gucci และ Hugo Boss

นี่เป็นหนึ่งในหลาย ๆ ร้านที่รับ Ethereum ร่วมกับ Coinbase Commerce นักช้อปไม่จำเป็นต้องมีบัญชี Coinbase เพื่อใช้กับเกตเวย์การชำระเงิน – ข้อกำหนดออนไลน์คือกระเป๋าเงินดิจิตอลเข้ารหัสที่เข้ากันได้

Jomashop รองรับ BTC, ETH และ Utility token ที่ดีที่สุด มากมาย ทำให้การซื้อสินค้าด้วยคริปโตเป็นเรื่องง่าย และมีส่วนลดพิเศษสำหรับผู้ที่ซื้อสินค้าด้วยสกุลเงินดิจิทัล ดังนั้น จึงเป็นความคิดที่ดีที่จะตรวจสอบโปรโมชั่นเป็นประจำ

รายชื่อร้านที่รับ Ethereum อื่น ๆ

ร้านค้าที่มีชื่อเสียงอื่น ๆ ที่รับชำระเงินด้วย Ethereum ในปี 2023 ได้แก่:

• Travala ใน Travala.com สามารถใช้ ethereum เพื่อชำระค่าเดินทางได้
• CheapAir.Com โปรแกรมเที่ยวบินนี้สามารถชำระเงินด้วย ethereum ได้
• Overstock ร้านที่รับ Ethereum ที่มีสิ่งต่าง ๆ ให้เลือกซื้อมากมาย เช่น พรม ที่นอน และเครื่องประดับ และจัดส่งให้ฟรี
• Cryptoholic ร้านขายอุปกรณ์หลากหลายประเภท เช่น กระติกน้ำร้อน เสื้อสเวตเตอร์ เคสโทรศัพท์ เครื่องประดับ กระเป๋า และอื่น ๆ ที่ออกแบบให้เหมาะสมกับระบบการชำระเงินแบบ decentralized
• The House of Coky ร้านเสื้อผ้าสตรีในไมอามี่ที่ยินดีให้คุณชำระเงินด้วยคริปโต โดยใช้ CoinPayments
• Weshopwithcrypto เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจ และอนุญาตให้ใช้ ethereum และสกุลเงินอื่น ๆ ได้
• Ethlance ฟรีแลนซ์ที่มั่นใจใน ETH สามารถใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อช่วยให้พวกเขารับงานด้วยสกุลเงินดิจิทัลได้
• Freelanceforcoins.com คล้าย ๆ กับ Ethlance คุณสามารถรับเงินเป็นคริปโตบนเว็บไซต์นี้ได้ อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่เพียง ethereum เท่านั้น แต่ยังสามารถรับเงินเป็น bitcoin และสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ ได้ด้วย
• Cryptokitties เกมคริปโตบนบล็อกเชน Ethereum
• Purism บริษัทแห่งนี้สามารถจ่ายเงินด้วย Ethereum หรือสกุลเงินดิจิทัลสกุลอื่น ๆ ได้
• Giftoff คุณสามารถซื้อบัตรของขวัญด้วยการชำระเงินผ่าน ethereum ได้
• Destinia นอกจาก bitcoin cash, litecoin และสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ แล้ว คุณสามารถใช้ ethereum เพื่อจองโรงแรม แพ็คเกจเที่ยวบิน และตั๋วรถไฟได้
• Gipsybee.com ร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ออนไลน์แห่งนี้ เป็นที่รู้จักจากการรับชำระด้วยสกุลเงินดิจิทัลจำนวนมาก
• Cryptoart แพลตฟอร์มนี้อนุญาตให้คุณใช้สกุลเงินดิจิทัลหลายสกุล รวมถึง ethereum เพื่อซื้องานศิลปะได้
• Cryptocove ร้านที่รับ Ethereum ที่เน้นไปที่ลูกค้าที่ใช้คริปโตเป็นหลัก
• AirBrushCustoms ร้านขายเสื้อผ้าแห่งนี้ช่วยให้คุณสามารถชำระเงินโดยใช้สกุลเงินดิจิทัลได้หลายสกุล เช่น ethereum
• Bitmedia.io บริษัทแห่งนี้พยายามเพิ่มบริการที่สามารถ ชำระด้วย ETH ได้
• Moonbet สปอร์ตบุ๊ค คาสิโน และแพลตฟอร์มการพนันออนไลน์นี้ ที่มี ETH เป็นวิธีการชำระเงิน
• 1xBet สปอร์ตบุ๊คและคาสิโนออนไลน์ ที่คุณสามารถชำระเงินด้วย ETH ได้
• Toro Coffee Co บริษัทขายกาแฟที่อนุญาตให้ชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัลได้หลากหลาย รวมถึง ETH ด้วย
• Renjer Wild Jerky ผู้สร้าง Deer and Elk Jerky ได้ให้ทางเลือกในการชำระเงินด้วยคริปโตรวมถึง ETH ตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา
• Elephant Chateau การมีโทเค็นรางวัลบนบล็อกเชน Ethereum จึงไม่น่าแปลกใจที่ผู้ขายรายนี้จะอนุญาตให้คุณชำระเงินด้วย ETH ได้
• Headphones.com คุณสามารถซื้อหูฟังผ่านร้านค้านี้โดยมีตัวเลือกการชำระเงินที่หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ETH และสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ
• Bitdial เป็นบริษัทขายนาฬิกาแบรนด์เนมสุดหรู และเป็นร้านที่รับ Ethereum เช่นกัน
• Pita Barcelona ผู้สร้างนาฬิกาจักรกลสั่งทำพิเศษ ซึ่งมีชิ้นส่วนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ก็รับ ETH ด้วยเช่นกัน
• Bono Shop ร้านขายเครื่องประดับจากอิตาลี ที่ให้บริการแหวน สร้อยคอ กำไล และเครื่องประดับอื่น ๆ ถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ชื่นชอบตัวเลือกการชำระเงินด้วย ETH
• Natural Pet Shop ร้านค้าที่ต้องการเปลี่ยนวิธีการเข้าถึงผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยง และยอมรับ ETH เช่นกัน
• Play-asia.com ด้วยเป้าหมายในการเป็นผู้นำในวงการผลิตภัณฑ์ความบันเทิงชั้นนำ แพลตฟอร์มนี้จึงรับชำระเงินด้วย Ethereum เช่นกัน
• Trippki มีโรงแรมให้เลือกมากกว่า 1.5 ล้านแห่ง ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการวางแผนการเดินทาง รวมถึงมีตัวเลือกการชำระผ่านคริปโตที่หลากหลาย รวมถึง ETH ด้วย

การใช้ Ethereum ผ่านการชำระเงินด้วย Crypto Debit Card

นอกเหนือ จากการค้นหาร้านที่รับ Ethereum แล้ว ไม่เพียงแค่การจ่ายผ่านบัตร Visa หรือ Mastercard ที่เชื่อมต่อกับบัญชีแลกเปลี่ยนของคุณเท่านั้น แต่การจ่ายด้วย Crypto Debit Card ก็สามารถชำระค่าสิ่งของ ๆ ได้ในเกือบทุกที่ในระหว่างการเดินทาง

บัตรเดบิตคริปโตมีข้อได้เปรียบมากกว่าแค่การเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคตของการ decentralized ที่กำลังจะมาถึง โดยประโยชน์ประการแรก คือ การที่คริปโตยังเป็นนวัตกรรมใหม่ ที่แม้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างยังต้องใช้วิธีชำระเงินด้วยสกุลเงิน fiat แต่บัตรเดบิตคริปโตจะให้ความยืดหยุ่นที่ดีแก่คุณ

นอกจากนี้ ยังมีประโยชน์ในทางปฏิบัติอีกด้วย เนื่องจากสกุลเงินดิจิทัลเป็นอุตสาหกรรมใหม่ จึงมีข้อเสนอดี ๆ มากมายเพื่อให้ลูกค้าหันมาใช้บัตรเดบิตของตน เช่น ไม่มีค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม และค่าธรรมเนียมการบำรุงรักษา และเนื่องจากจำนวนผู้ใช้คริปโตเริ่มเพิ่มขึ้น การชำระเงินด้วย Ethereum ก็จะกลายเป็นบรรทัดฐานหนึ่งเช่นกัน

1. Crypto.com Card มีเงินคืนสูงสุด 8% สำหรับการใช้จ่าย ให้รางวัลมากมาย (โดยเฉพาะเมื่อคุณ stake CRO) และไม่มีค่าธรรมเนียม Crypto.com จะมอบบัตร VISA แบบชำระเงินล่วงหน้า ที่มาพร้อมสิทธิประโยชน์จากบัตรเดบิตทั้งหมด พร้อมกับความสามารถเพิ่มเติมในการใช้จ่ายด้วยคริปโต คุณจะต้องเติมเงินในบัตรให้เพียงพอหากคุณต้องการสมัครใช้บริการ และจะต้อง stake CRO เป็นเวลา 180 วัน
2. Binance Card ประโยชน์ของบัตร Binance คือ การไม่มีค่าธรรมเนียม ดังนั้น คุณจึงไม่ต้องกังวลกับค่าธรรมเนียมการดำเนินการหรือค่าธรรมเนียมการจัดการ พร้อมด้วยเงินคืนสูงถึง 8% สำหรับการให้บริการและการรักษาความปลอดภัยของกระดานแลกเปลี่ยน นอกจากนี้ Binance ยังมีบัตรเติมเงิน ที่คุณสามารถใช้ได้กับ Binance Funding Wallet และคุณสามารถถือคริปโตไว้ได้จนกว่าคุณจะต้องการใช้จ่ายด้วยบัตร Binance
3. Nuri Card เดิมชื่อว่า Bitwala เงินที่คุณมีในยอดคงเหลือในบัญชี คือ จำนวนเงินที่คุณสามารถใช้จ่ายในบัตรเดบิตได้ หากคุณมีเงินยูโรอยู่ในบัญชี คุณจะสามารถใช้ยอดเงินนั้นได้มากกว่า 30 ล้านแห่งทั่วโลก
4. Bitpanda Card นอกจากคริปโตแล้ว บัตร Bitpanda ยังช่วยให้คุณใช้จ่ายได้อีกด้วย นี่เป็นบัตรวีซ่าที่ได้รับการยอมรับจากร้านค้ากว่า 54 ล้านรายทั่วโลก พร้อมให้เงินคืน 0.5% ถึง 2% ในทุกการทำธุรกรรม รวมถึงการชำระเงินด้วยแอป Bitpanda ที่มีโซลูชั่นที่สามารถแข่งขันได้เท่ากับตัวเลือกอื่น ๆ ในตลาด

การจ่ายเงินด้วย Ethereum เป็นวิธีที่ดีใช่หรือไม่?

ข้อมูลจาก National Retail Federation กล่าวไว้ว่า มีร้านค้าเพียง 2% ที่ยอมรับการจ่ายด้วยคริปโตเคอเรนซี่ที่ไม่ใช่ Bitcoin อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาถึงประโยชน์ของการอนุญาตให้มีการจ่ายด้วยสกุลเงินนี้ได้ ตัวเลขนี้ก็มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

ลองมาดูเหตุผลบางประการ ว่าทำไมร้านที่รับ Ethereum จึงได้เปรียบผู้อื่น รวมถึงวิธีที่คุณสามารถใช้ ETH ในปี 2023 ได้

ทำธุรกรรมได้อย่างรวดเร็ว

ประโยชน์ที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งของการใช้ Ethereum คือ การทำธุรกรรมได้ภายในไม่กี่นาที ซึ่งตรงกันข้ามกับธุรกรรมของเงิน Fiat ที่อาจต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง (หรือหลายวัน) ระยะเวลาในการทำธุรกรรมของเงิน Fiat จะยิ่งช้ามากหากเป็นการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ แต่การใช้ ETH จะช่วยแก้ปัญหาได้รวดเร็วกว่ามาก

ค่าธรรมเนียมลดลง

สำหรับธุรกรรมระหว่างประเทศ ETH ก็มีข้อได้เปรียบเช่นกัน เนื่องจากมีความคุ้มค่ามากกว่า โดยทั่วไปแล้ว การทำธุรกรรมต่างประเทศด้วยบัตรเครดิต/เดบิตอาจมีค่าธรรมเนียมสูงถึง 3% ซึ่งสร้างความแตกต่างอย่างมากสำหรับผู้ที่ซื้อสินค้าเป็นประจำ

ร้านที่รับ Ethereum นั้น “ไร้ขอบเขต” อย่างแท้จริง ซึ่งหมายความว่า การทำธุรกรรมระหว่างประเทศจะมีค่าใช้จ่ายเพียงเล็กน้อย หรือเทียบเท่าการทำธุรกรรมในประเทศ ทั้งนี้ มีข้อกังวลเพียงอย่างเดียวสำหรับการใช้ Ethereum ก็คือ ค่าธรรมเนียมเครือข่าย (ค่าก๊าซ) ในการทำธุรกรรม ซึ่งขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของการใช้งานเครือข่าย

การรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด

บทความจาก Entrepreneur.com ระบุว่า คริปโตเคอเรนซี่มี “ความปลอดภัย” มากกว่าธนาคารด้วยเหตุผลหลายประการ เนื่องจากแอปธนาคารอาจถูกแฮ็กได้ และนำไปสู่การฉ้อโกงและการยักยอกเงิน

ส่วนธุรกรรมบน Ethereum ได้รับการสนับสนุนโดยเทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่งสร้างมาเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ด้วยเหตุนี้ การใช้ ETH ที่ร้านที่รับ Ethereum เพื่อชำระเงินออนไลน์ จึงอาจเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยมากกว่าการใช้เงิน Fiat

การเข้าถึงบริการทางการเงิน

ตามบทความจาก The World Economic Forum พบว่า ปัจจุบันผู้คน 1.4 พันล้านคนไม่สามารถเข้าถึงธนาคารได้ ซึ่งจะทำให้พวกเขาซื้อสินค้าและบริการออนไลน์โดยใช้สกุลเงิน Fiat ได้ยากขึ้น

อย่างไรก็ตาม การใช้ Ethereum เพื่อทำธุรกรรมออนไลน์ สามารถช่วยให้คนเหล่านี้เข้าถึงบริการทางการเงินได้โดยไม่ต้องมีบัญชีธนาคาร เพราะใครก็ตามที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ ก็สามารถชำระเงินโดยใช้ Ethereum ได้ทั้งสิ้น และทำให้ประชากรที่ “ไม่มีบัญชีธนาคาร” ทั่วโลก สามารถเข้าถึงเศรษฐกิจโลกได้

การซื้อของด้วย Ethereum เป็นเรื่องถูกกฎหมายหรือไม่?

การซื้อของในร้านที่รับ Ethereum กับการปฏิบัติตามกฎหมาย เป็นเรื่องที่หลายคนกังวล เพราะตลาดคริปโตมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งหมายความว่ากฎและข้อบังคับก็จะมีการปรับเปลี่ยนอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ กฎหมายเหล่านี้ก็มักจะแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ

ในประเทศเขตตะวันตก (เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และแคนาดา) การใช้ Ethereum เพื่อซื้อสินค้าและบริการนั้นถูกกฎหมาย โดยประเทศต่าง ๆ เหล่านี้จะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดการทําความรู้จักลูกค้า (KYC) ดังนั้น ผู้ซื้อจึงต้องสร้างบัญชีที่ร้านค้าที่เกี่ยวข้องก่อนตัดสินใจซื้อ

ในทางกลับกัน หลายประเทศในส่วนอื่น ๆ ของโลกมีหลักเกณฑ์ที่เข้มงวดมากขึ้นเกี่ยวกับการใช้คริปโตเคอเรนซี่ เช่น จีนและอินเดีย เนื่องจากทั้งสองประเทศได้เคยห้ามไม่ให้มีการใช้คริปโตในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ลูกค้าในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร แคนาดา และประเทศตะวันตกอื่น ๆ ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะในขณะที่เขียนบทความนี้ การซื้อสิ่งของด้วย Ethereum นั้นถูกกฎหมายอย่างสมบูรณ์ แต่สิ่งเดียวที่ผู้ซื้อต้องกังวล คือ การชำระเงินอย่างปลอดภัย และตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีเหรียญคริปโตที่เพียงพอที่จะจ่ายค่าสินค้าและค่าธรรมเนียมเครือข่าย (ก๊าซ) ที่เกี่ยวข้อง

วิธีใช้ Ethereum ซื้อสินค้า

ก่อนที่จะถึงบทสรุปของคู่มือร้านที่รับ Ethereum สิ่งสำคัญเรื่องสุดท้าย คือ การทราบวิธีการซื้อ เนื่องจากมีความแตกต่างจากกระบวนการซื้อ “แบบดั้งเดิม” เป็นอย่างมาก

รายการด้านล่างนี้คือ 5 ขั้นตอนง่าย ๆ สำหรับซื้อสินค้า/บริการออนไลน์ด้วย Ethereum โดยเราจะใช้ Crypto Emporium เป็นตัวอย่าง เนื่องจากตลาดนี้มีสินค้าคุณภาพสูงมากมาย และจัดส่งไปในกว่า 125 ประเทศทั่วโลก

ขั้นตอนที่ 1 – ตั้งค่ากระเป๋าคริปโต

ขั้นตอนแรก คือ การตั้งค่ากระเป๋าเงินที่เข้ากันได้กับ Ethereum ซึ่ง Crypto wallet ที่ดีที่สุด เช่น eToro Money, MetaMask และ Trust Wallet สามารถรับและจัดเก็บ ETH ได้

ขั้นตอนที่ 2 – ซื้อ ETH

ขั้นตอนต่อไป คือ การซื้อ ETH เพื่อนำใช้ซื้อสินค้า หากคุณมี ETH อยู่แล้ว สามารถข้ามขั้นตอนนี้ไปได้เลย แต่สำหรับผู้ที่ยังไม่มี สามารถซื้อโทเค็นได้อย่างง่ายดายจากโบรกเกอร์และกระดานแลกเปลี่ยนชั้นนำ ซึ่งหลังจากซื้อแล้วจะต้องโอน ETH ไปยังกระเป๋าเงินในขั้นตอนที่ 1 ด้วย

ขั้นตอนที่ 3 – ตั้งค่าบัญชี Crypto Emporium

ไปยังหน้าแรกของ Crypto Emporium คลิก “ลงทะเบียน” และกรอกรายละเอียดส่วนบุคคลที่จำเป็นเพื่อสร้างบัญชี Crypto Emporium

ร้านที่รับ Ethereum นี้ จะส่งลิงก์ยืนยันที่คุณจำเป็นต้องคลิกเพื่อตรวจสอบบัญชี

ขั้นตอนที่ 4 – เลือกรายการสินค้า

เลือกรายการสินค้าที่ต้องการซื้อ Crypto Emporium เมื่อผู้ซื้อหยิบสินค้าหรือบริการที่ต้องการแล้วใส่ตะกร้าแล้ว ให้ไปที่หน้า “ชำระเงิน”

ขั้นตอนที่ 5 – จ่ายด้วย ETH

ในหน้านี้ คุณจะต้องกรอกรายละเอียดที่อยู่การจัดส่ง และเลือก “ETH” จากช่องสกุลเงินที่ต้องการจ่าย Crypto Emporium จะอัปเดตยอดรวมสุดท้าย เพื่อชำระค่าธรรมเนียมการจัดส่ง

จากนั้น ผู้ซื้อจะต้องโอน ETH ไปยังที่อยู่กระเป๋าเงินคริปโตที่ให้ไว้ เมื่อการโอนเสร็จสมบูรณ์ ร้านที่รับ Ethereum นี้จะส่งอีเมลยืนยัน และเริ่มจัดส่งสินค้าให้แก่ลูกค้าตามกำหนด โดยสามารถติดตามการจัดส่งสินค้าได้ด้วยลิงก์ในอีเมล หรือ SMS

บทสรุปเกี่ยวกับร้านที่รับ Ethereum

การใช้ Ethereum เป็นวิธีการชำระเงินได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากกว่าการชำระเงินด้วยสกุลเงิน Fiat และเนื่องจากมีร้านค้าจำนวนมากที่รองรับ Ethereum ทำให้การชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัลนี้ จะกลายเป็น “บรรทัดฐาน” ต่อไปในอนาคต

สำหรับผู้ที่รักการช้อปปิ้งด้วยคริปโตเคอเรนซี่ เราขอแนะนำให้คุณใช้ Crypto Emporium ที่มีสินค้า/บริการที่มีคุณภาพมากมาย และจ่ายได้ด้วย Ethereum

Crypto Emporium เป็นร้านที่รับ Ethereum ที่ไม่เพียงแต่รองรับการชำระเงิน ETH เท่านั้น แต่ยังรับ BTC, DOGE, LTC และ altcoin อื่น ๆ อีกด้วย และด้วยการสนับสนุนลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน รวมถึงตัวเลือกการจัดส่งไปกว่า 125 ประเทศ ทำให้ Crypto Emporium เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการใช้ประโยชน์จากการถือครองคริปโตของตนอย่างปลอดภัย