รีวิว Exodus Wallet: กระเป๋าเงินคริปโตที่จะมาปฏิวัติวงการ!
- ส่งและรับสินทรัพย์คริปโตแบบ P2P ได้อย่างราบรื่น
- ไม่จำเป็นต้องยืนยันตัวตนหรือลงทะเบียน
- พร้อมบริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน
Exodus Wallet เป็น “กระเป๋าเงินคริปโต” ที่เริ่มให้บริการในปี 2015 และได้กลายมาเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่กำลังมองหาที่เก็บสินทรัพย์คริปโตเคอร์เรนซีอย่างปลอดภัย แล้วกระเป๋าเงินคริปโตนี้ปลอดภัยมากแค่ไหน? “รีวิว Exodus Wallet” นี้จะเจาะลึกถึงฟีเจอร์ต่างๆ วิธีการรักษาความปลอดภัยสินทรัพย์ และขั้นตอนการตั้งค่าและการใช้งานกระเป๋าเงินใบนี้ด้วยตัวคุณเองโดยใช้เวลาน้อยกว่า 5 นาที ถ้าพร้อมแล้ว มาเริ่มกันเลยดีกว่า!
การมองหาโซลูชันที่น่าเชื่อถือจากบรรดากระเป๋าเงินซอฟต์แวร์ที่มีอยู่มากมายในตลาดอาจจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนกำลังฝ่าเขาวงกตอันซับซ้อน ที่ CryptoNews เราได้ทำการศึกษาข้อมูลต่างๆ มาแล้วอย่างละเอียดเพื่อช่วยให้คุณสามารถเลือกสิ่งที่ดีที่สุดได้อย่างแน่นอน
ภาพรวมของ “รีวิว Exodus Wallet”
Exodus Wallet เป็นหนึ่งในกระเป๋าเงินคริปโตแบบซอฟต์แวร์ที่ดีที่สุดที่มีอยู่ในปัจจุบัน และยังเป็นกระเป๋าเงินแบบ Self-Custody
ซึ่งหมายความว่า คุณจะมีอำนาจในการดูแลและจัดการสินทรัพย์ของคุณได้อย่างเต็มที่ ผู้ใช้งานสามารถซื้อ, แลกเปลี่ยน, และรับคริปโตได้อย่างง่ายดาย พร้อมด้วยตัวเลือกในการ Staking, การผสานรวม dApps บน Web3, และตลาดซื้อขาย NFT ทำให้กระเป๋าเงินนี้มีบริการที่เหมาะสมกับนักลงทุนคริปโตทุกคน
กระเป๋าเงินคริปโตนี้มีตัวเลือกสำหรับการสำรองข้อมูลเพื่อความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง ถึงแม้ว่าโค้ดความปลอดภัยจะเป็นแบบ Closed-Source แต่กระเป๋าเงินนี้ก็สามารถใช้งานได้ฟรี ถึงแม้ว่าการซื้อคริปโตโดยตรงในแอปอาจจะมีค่าธรรมเนียมที่สูงอยู่บ้างก็ตาม
นี่คือกระเป๋าเงินที่ใช้งานได้ง่ายและปลอดภัยสำหรับทั้งเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์และมือใหม่ที่พึ่งจะเริ่มต้นลงทุนในคริปโต พวกเขามีการสนับสนุนลูกค้าที่ยอดเยี่ยม รองรับเหรียญคริปโตจำนวนมาก และมีทีมพัฒนาที่กระตือรือร้น โดยรวมแล้ว จากการ “รีวิว Exodus Wallet” เราพบว่านี่คือกระเป๋าเงินอเนกประสงค์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน
ข้อดี
- Interactive UI
- รองรับการซื้อสกุลเงินดิจิทัลด้วยเงินสด
- มีตัวเลือกสำหรับการ Staking ให้ใช้งาน
- สามารถเพิ่มสกุลเงินทางเลือกได้ด้วยตนเอง
- ทีมสนับสนุนเฉพาะพร้อม Live Chat ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน
ข้อเสีย
- ฟีเจอร์ความปลอดภัยมีจำกัด
- ค่าธรรมเนียมสูงสำหรับการซื้อด้วยบัตรเครดิต/เดบิต
Exodus Wallet คืออะไร?
Exodus Wallet เป็นกระเป๋าเงินแบบ Self-Custody ที่มีความยืดหยุ่น เหมาะสำหรับการเก็บรักษา จัดการ และแลกเปลี่ยนคริปโตเคอร์เรนซีสกุลต่างๆ
นอกจากนี้ มันยังทำหน้าที่เป็นประตูสู่โลกของ Web3 และสามารถเข้าถึงแอปพลิเคชัน Web3 ยอดนิยม เช่น Aave, Compound Finance, Magic Eden และ OpenSea ได้ ผู้ใช้งานสามารถกู้ยืม, ซื้อขาย NFT, Staking, และรับดอกเบี้ยผ่านแอปเหล่านี้ได้
Exodus Wallet ก่อตั้งขึ้นในปี 2015 โดย Daniel Castagnoli และ JP Richardson โดยที่ Richardson เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังผลิตภัณฑ์นี้ และมี Castagnoli ทำงานในส่วนของผู้ใช้งาน โดยการทำให้มั่นใจว่าประสบการณ์การใช้งานจะราบรื่นและรวดเร็ว พวกเขาคือผู้นำของทีมพัฒนาที่มีความกระตือรือร้นซึ่งทำการอัพเดตอย่างสม่ำเสมอ หลังจากเปิดตัวไปได้ไม่นาน Exodus Wallet ก็ได้รับการยอมรับอย่างรวดเร็วในด้านดีไซน์ที่สวยงามและอินเทอร์เฟสที่ใช้งานง่าย
Exodus Wallet ให้บริการแก่ผู้ใช้งานที่หลากหลาย ตั้งแต่นักลงทุนทั่วไปไปจนถึงเทรดเดอร์ประสบการณ์สูงที่กำลังมองหาโซลูชันสำหรับการซื้อขายรายวันที่น่าเชื่อถือและปลอดภัย จากการรีวิว Exodus Wallet ครั้งนี้ เราพบว่านี่คือกระเป๋าเงินที่ยอดเยี่ยมสำหรับมือใหม่ที่กำลังมองหาวิธีที่สะดวกสบายในการซื้อขายคริปโต
สกุลเงินดิจิทัลใดบ้างที่ Exodus Wallet รองรับ?
Exodus รองรับสกุลเงินดิจิทัลหลากหลายประเภท
โดย ณ เวลาที่เขียนบทความนี้ พวกเขารองรับเหรียญคริปโตกว่า 315 สกุล และมีการเพิ่มเหรียญใหม่ๆ อย่างสม่ำเสมอโดยทีมพัฒนาที่กระตือรือร้นของพวกเขา ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหาเหรียญคริปโตมาใหม่ที่ดีที่สุดเพื่อซื้อในปี 2024
สกุลเงินดิจิทัลชั้นนำบางส่วนที่ Exodus Wallet รองรับ ได้แก่:
- Bitcoin (BTC)
- Lightning Network (LNBTC)
- Ethereum (ETH)
- Tether USD (USDT)
- BNB (BNB)
- Solana (SOL)
- XRP (XRP)
- USD Coin (USDC)
- Cardano (ADA)
- Avalanche (AVAX)
- Dogecoin (DOGE)
- Tron (TRX)
- Chainlink (LINK)
- Polkadot (DOT)
- Polygon (MATIC)
- Shiba Inu (SHIB)
Exodus รองรับเครือข่ายใดบ้าง?
Exodus รองรับมากกว่า 50 เครือข่าย รวมถึง Bitcoin, Ethereum, Binance Smart Chain และ Solana ความหลากหลายนี้ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงเหรียญที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดบางส่วนได้อย่างง่ายได้ รวมถึง เหรียญมีมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปี 2024 ด้วยเช่นกัน ผู้ใช้งานสามารถเพิ่มเหรียญด้วยตนเองได้ ตราบเท่าที่เหรียญอยู่บนหนึ่งในเครือข่ายเหล่านี้ที่รองรับโดย Exodus Wallet ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงคริปโตเคอร์เรนซีอื่นๆ ได้อีกนับไม่ถ้วน
ผู้ใช้งานยังสามารถเก็บและซื้อขาย NFT จากเครือข่ายเหล่านี้ผ่านแอปพลิเคชั่นได้อีกด้วย
Exodus Wallet ปลอดภัยหรือไม่? มาดูในเรื่องความปลอดภัยกันบ้างดีกว่า!
ในฐานะ Software Wallet แล้ว Exodus Wallet ถือเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยด้วยฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยต่างๆ ที่สามารถใช้เพื่อปกป้องผู้ใช้งานได้ Exodus ใช้โปรโตคอลการเข้ารหัสแบบใหม่ล่าสุดเพื่อปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อน (เช่น Private Key ของคุณ) จากการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต และเนื่องจากมันเป็นกระเป๋าเงินแบบ Self-Custody ผู้ใช้งานจึงมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมากในด้านความปลอดภัย
ข้อเสียหนึ่งก็คือ Code Base ของกระเป๋าเงินนี้เป็นแบบ Closed-Source ซึ่งอาจจะทำให้ผู้ที่ต้องการความโปร่งใสอย่างสมบูรณ์แบบเกิดความกังวลได้ นอกจากนี้ มันก็ยังไม่รองรับการยืนยันตัวตนแบบ 2 ปัจจัย (2FA) อย่างไรก็ตาม Exodus ไม่ได้มีการเก็บข้อมูลลูกค้าไว้ (เพราะเป็นกระเป๋าเงินแบบ Self-Custody) ซึ่งหมายความว่า พวกเขาไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลที่จำเป็นสำหรับ 2FA ได้อยู่ดี
การกำหนด “รหัสผ่าน” อย่างเข้มงวด
Exodus ได้นำระบบ “รหัสผ่าน” มาใช้เพื่อปกป้องผู้ใช้งาน เมื่อคุณสมัครกระเป๋าเงินคริปโตของคุณแล้ว คุณสามารถกำหนดรหัสผ่านที่เข้มงวดและจดจำได้ง่าย สำหรับผู้ที่กังวลเกี่ยวกับการถูกแฮ็ก เราขอแนะนำให้ใช้รหัสผ่านที่คุณไม่เคยใช้ที่อื่นมาก่อน
อย่างไรก็ตาม ในการรีวิว Exodus Wallet ของเรา เราพบว่านี่ไม่ใช่ข้อกำหนดที่บังคับให้ทำ ซึ่งอาจจะทำให้ผู้ใช้งานบางรายเสี่ยงต่อการถูกโจมตีได้ เว้นแต่ว่าพวกเขาจะตั้งค่าคุณสมบัติความปลอดภัยนี้อย่างจริงจังด้วยตนเองภายหลัง
Recovery Seed Phrase 12 คำ
หลังจากตั้งรหัสผ่านแล้ว คุณจะได้รับ Recovery Seed Phrase 12 คำ ชุดคำเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงกระเป๋าเงินของคุณได้หากคุณลืมรหัสผ่านหรือทำอุปกรณ์ของคุณสูญหาย ลำดับของชุดคำเหล่านี้มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ดังนั้นโปรดจดชุดคำเหล่านี้ไว้อย่างปลอดภัยและถูกต้อง
เมื่อคุณใช้มันร่วมกับรหัสผ่าน มันจะช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงเงินทุนของตนได้อีกครั้ง ถึงแม้ว่าฮาร์ดแวร์จะขัดข้องหรือสูญหายก็ตาม
โค้ดแบบ Closed-Source
ซอฟต์แวร์ที่อยู่เบื้องหลัง Exodus เป็นโค้ดแบบ Closed-Source
บางคนชอบซอฟต์แวร์แบบ Open-Source เพื่อที่จะสามารถตรวจสอบปัญหาต่างๆ ได้อย่างอิสระ อย่างไรก็ตาม ในฐานะบริษัทแล้ว Exodus ไม่เคยถูกแฮ็กและมีชื่อเสียงในฐานะผู้ให้บริการกระเป๋าเงินที่น่าเชื่อถือมายาวนาน ดังนั้น สำหรับหลายๆ คนแล้ว ประเด็นนี้จึงไม่ใช่ปัญหาใหญ่ซักเท่าใด
เพื่อความโปร่งใส Exodus เผยแพร่โค้ด Open-Source บางส่วนบน GitHub เพื่อให้ตรวจสอบได้ นอกจากนี้ Exodus Wallet ยังมีประวัติการตอบสนองต่อช่องโหว่ด้านความปลอดภัยอย่างรวดเร็ว โดยออกแพทช์และอัพเดตอย่างรวดเร็วเพื่อแก้ไขภัยคุกคามที่อาจจะเกิดขึ้น
สามารถเชื่อมต่อกับ Trezor ได้
คุณอาจจะสงสัยว่า “Exodus เป็น Cold Wallet ใช่หรือไม่?” ที่จริงแล้ว มันเป็นกระเป๋าเงินซอฟต์แวร์ที่เป็น “Hot Wallet” ซึ่งหมายความว่า ผู้ใช้งานบางรายอาจจะไม่ต้องการเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลจำนวนมากเอาไว้ในนั้น อย่างไรก็ตาม คุณสามารถเชื่อมต่อกระเป๋าเงินคริปโตของ Exodus กับ Trezor ได้ Trezor คือหนึ่งในกระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในปัจจุบัน ในฐานะกระเป๋าเงินคริปโตเชิงกายภาพที่ไม่มีการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตใดๆ แฮกเกอร์จะไม่สามารถเข้าถึงสินทรัพย์ใดๆ ของคุณได้เลย
ผู้ใช้งานสามารถโอนสินทรัพย์ระหว่าง Exodus Wallet และ Trezor Wallet ได้อย่างง่ายดาย ทำให้สะดวกสบายมากๆ ในการเก็บสินทรัพย์จำนวนมากไว้ใน Trezor ในขณะที่ใช้ Exodus สำหรับการซื้อขายในชีวิตประจำวันและการเข้าถึงโลกของ Web3 ได้อย่างสะดวก ผู้ถือเหรียญคริปโตจะได้รับความปลอดภัยเพิ่มขึ้นจาก Trezor ในขณะที่ยังคงใช้ฟีเจอร์ต่างๆ ของ Exodus ได้อย่างเต็มที่
วิธีการสมัครและใช้งาน Exodus Wallet
เนื่องจากไม่ต้องลงทะเบียน การสมัครและใช้งานกระเป๋าเงินใบนี้จึงใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น กระเป๋าเงินนี้มีอินเทอร์เฟสที่ใช้งานได้ง่าย ทำให้การใช้งานได้สะดวก แม้แต่สำหรับผู้ที่เข้าสู่พื้นที่คริปโตเองก็ตาม
ผู้ใช้งานมีตัวเลือกให้ใช้งานมากมาย ไม่ว่าจะเป็นส่วนขยายบนเบราว์เซอร์ แอปบนมือถือ หรือ แอปบนเดสก์ท็อป ส่วนขยายบนเบราว์เซอร์จะมีฟังก์ชั่นการทำงานที่จำกัด สำหรับประสบการณ์การใช้งานที่สมบูรณ์ เราแนะนำให้ติดตั้งแอปโดยตรงจะดีที่สุด ต่อไป เราจะมาแนะนำวิธีการสมัครและตั้งค่า Exodus Wallet ทีละขั้นตอน รวมถึง วิธีการตั้งค่าความปลอดภัยที่ดีที่สุดเพื่อรักษาสินทรัพย์ของคุณให้ปลอดภัย
การสมัครใช้งานแอปเดสก์ท็อป: PC หรือ Mac
แอปเดสก์ท็อปมีให้บริการสำหรับ PC, Mac และ Linux โดยสามารถดาวน์โหลดและสมัครใช้งานได้อย่างง่ายดาย ทำให้คุณเข้าถึงโลกของ Web3 ได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที
ขั้นตอนที่ 1: ดาวน์โหลดแอปเดสก์ท็อป
ขั้นตอนแรก ดาวน์โหลดแอปเดสก์ท็อปจากเว็บไซต์ Exodus Wallet จากแถบเครื่องมือด้านบน คลิกที่ดาวน์โหลด คุณสามารถเลือกแอปที่เหมาะสมกับระบบปฏิบัติการของคุณได้
ขั้นตอนที่ 2: ติดตั้งแอปพลิเคชั่น
เมื่อดาวน์โหลดไฟล์เรียบร้อยแล้ว ให้เปิดไฟล์และเริ่มการติดตั้ง ขั้นตอนนี้จะใช้เวลาเพียงครู่เดียวเท่านั้น
ขั้นตอนที่ 3: เปิดแอปพลิเคชั่น
จากนั้น ให้เปิดแอปพลิเคชั่น ซึ่งจะทำการสมัครกระเป๋าเงินคริปโตให้โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ คุณยังสามารถเชื่อมต่อกับกระเป๋าเงินคริปโตที่มีอยู่แล้วได้ด้วยเช่นกัน
ขั้นตอนที่ 4: กำหนดค่าฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย
ขั้นตอนต่อไปที่คุณจะต้องทำก็คือ การตั้งค่าตัวเลือกการสำรองข้อมูลและจดบันทึก Recovery Phrase ของคุณ ขั้นแรก ให้คลิกที่ไอคอนการตั้งค่าที่มุมบนขวา จากนั้น ไปที่ส่วนการสำรองข้อมูล ซึ่งคุณจะได้รับการแจ้งเตือนให้สร้างรหัสผ่านที่ปลอดภัยและจดจำได้ง่าย
หลังจากนี้ คุณจะได้เห็น Recovery Phrase 12 คำของคุณ สิ่งสำคัญคือต้องจดและจัดเก็บชุดคำเหล่านี้ไว้แบบออฟไลน์เพื่อความปลอดภัย ในสถานที่ที่ผู้อื่นไม่สามารถเข้าถึงมันได้
ขั้นตอนที่ 5: เสร็จสิ้นการตั้งค่า!
ตอนนี้ คุณก็สามารถซื้อ แลกเปลี่ยน และโอนสินทรัพย์คริปโตผ่านแอปพลิเคชั่น Exodus Wallet ของคุณได้แล้ว
การติดตั้ง Exodus Wallet บนอุปกรณ์เคลื่อนที่
คุณสามารถดาวน์โหลดและติดตั้งแอปสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้โดยใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที
ขั้นตอนที่ 1: ติดตั้งแอปพลิเคชั่น Exodus Wallet บนโทรศัพท์ของคุณ
ไปที่ Google Play Store หรือ Apple App Store และค้นหา Exodus Wallet จากนั้น ให้คลิก “ติดตั้ง” หรือ “รับ” เพื่อเริ่มการดาวน์โหลด
ขั้นตอนที่ 2: สร้างกระเป๋าเงินคริปโตของคุณ
เมื่อติดตั้งแอปเสร็จแล้ว คุณสามารถเปิดใช้งานและเลือก “Create Wallet” ซึ่งจะทำการสร้างกระเป๋าเงินคริปโตใหม่ให้กับคุณโดยอัตโนมัติ
ขั้นตอนที่ 3: ตั้งค่าฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย
บนหน้าหลัก เลือก “Security” แล้วเลือก “Backup” เพื่อเข้าถึง Recovery Phrase 12 คำของคุณ โปรดทำให้แน่ใจว่าคุณได้จดบันทึกชุดคำเหล่านี้ไว้ในที่ปลอดภัย และหลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในการจัดเก็บ
นอกจากนี้ คุณยังสามารถตั้งค่าการจดจำใบหน้าและรหัสผ่านของคุณได้ที่นี่ด้วยเช่นกัน
ขั้นตอนที่ 4: ใช้งานแอป Exodus Wallet บนอุปกรณ์เคลื่อนที่
ตอนนี้ คุณสามารถใช้กระเป๋าเงินของคุณในการซื้อ ขาย และโอนสินทรัพย์คริปโต รวมถึง เข้าถึงฟีเจอร์อื่นๆ ของแอปได้แล้ว! นอกจากนี้ คุณยังสามารถซิงค์แอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่กับแอปบนเดสก์ท็อปโดยใช้ QR Code เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องดังกล่าว
รีวิว Exodus Wallet: ฟีเจอร์ต่างๆ
Exodus Wallet มาพร้อมกับฟีเจอร์ต่างๆ ที่หลากหลาย
เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานคริปโตทุกราย โดยสามารถเข้าถึงแอปพลิเคชั่นแบบกระจายศูนย์ (dApps) บน Web3 รวมถึง สามารถซื้อ แลกเปลี่ยน และโอนเหรียญคริปโตสกุลต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ มันยังมีตลาดซื้อขาย NFT ที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานจัดการพอร์ต NFT ของตนได้อีกด้วย
ฟีเจอร์ที่ทำให้กระเป๋าเงินใบนี้โดดเด่นก็คือการสนับสนุนลูกค้าอย่างสมบูรณ์แบบ Exodus มีช่องทางการให้บริการที่หลากหลาย รวมถึง อีเมล, Live Chat ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน, และ FAQ ที่ครอบคลุม นอกจากนี้ พวกเขายังมีชุมชนที่แอ็คทีฟอย่างมากบน Reddit และ Discord อีกด้วย
การเทรดคริปโตภายใน Exodus Wallet
Exodus นำเสนอการเทรดแบบ P2P (Peer-to-Peer) ภายในกระเป๋าเงินคริปโตของพวกเขา
การเทรดคริปโตภายใน Exodus Wallet เป็นกระบวนการที่ไม่ยุ่งยาก และสามารถดำเนินการภายในแอปพลิเคชั่นได้โดยตรง ผู้ใช้งานสามารถไปที่แท็บ “Exchange” เลือกคริปโตที่ต้องการเทรด เลือกคูาเทรด และกรอกจำนวนที่ต้องการเทรดได้
จะมีค่าธรรมเนียมเล็กน้อยสำหรับการเทรดนี้ ซึ่งอาจจะแตกต่างกันไปตามปริมาณ แต่โดยปกติจะอยู่ที่ประมาณ 1% ถึง 3% อย่างไรก็ตาม การใช้กระดานเทรดแบบรวมศูนย์ (CEX) อาจจะช่วยให้คุณเข้าถึงคู่การซื้อขายที่หลากหลายกว่า, คุณสมบัติการซื้อขายขั้นสูง (เช่น การใช้เลเวอเรจ), และอาจจะมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่าสำหรับผู้ซื้อขายในปริมาณสูง
ซื้อคริปโตด้วยเงินเฟียต
กระเป๋าเงินคริปโตแบบ Self-Custody ส่วนใหญ่จะอนุญาตให้ผู้ใช้งานทำได้แค่เพียงถือครองและโอนคริปโตเท่านั้น ซึ่งหมายความว่า ผู้ใช้งานอาจจะต้องไปที่กระดานเทรดแบบรวมศูนย์ เช่น Binance หรือ Coinbase เพื่อซื้อคริปโตเคอร์เรนซี อย่างไรก็ตาม Exodus Wallet มีการผสานรวมกับ MoonPay ทำให้ผู้ใช้งานสามารถซื้อคริปโตโดยใช้บัตรเดบิต/เครดิต, Apple Pay, Google Pay, หรือการโอนเงินผ่านธนาคารได้ อย่างไรก็ตาม จากการทดสอบของเรา เราพบว่า ค่าธรรมเนียมสำหรับธุรกรรมประเภทนี้ค่อนข้างสูง
การ Staking เหรียญคริปโต
Exodus Wallet มีตัวเลือกในการ Staking เหรียญคริปโตด้วย
ผู้ถือสกุลเงินดิจิทัลสามารถแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ของตน เช่น Algorand (ALGO), Cosmos (ATOM), Solana (SOL), VeChain (VET), Cardano (ADA) และ Tezos (XTZ) ฯลฯ ผลตอบแทนที่ได้รับอาจจะแตกต่างกันไปและอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ ปัจจุบัน คุณสามารถฝาก Cosmos (ATOM) เพื่อรับผลตอบแทนรายปี (APY) ได้ที่ 18.97% ในขณะที่ Solana มี APY ที่ 7%
การ Staking เหรียญของคุณผ่าน Exodus นั้นทำได้อย่างง่ายดาย หากคุณถือเหรียญคริปโตไว้ในกระเป๋าเงินนี้ คุณสามารถนำสินทรัพย์ไปเก็บในพอร์ตและคลิกที่ปุ่มในมุมขวาบน ตามที่เราได้ทำไฮท์ไลท์สีแดงเอาไว้
คุณจะถูกนำไปยังหน้า Staking (หมายเหตุ: Staking ได้เฉพาะสินทรัพย์ที่ได้รับการรับรองจาก Exodus เท่านั้น) คลิก “Stake” เพื่อเริ่ม Staking สินทรัพย์ของคุณ
หลังจาก Staking สินทรัพย์ของคุณไว้ประมาณ 20 วัน คุณจะเริ่มได้รับผลตอบแทนในรูปแบบของโทเค็นที่คุณฝากไว้ ถึงแม้ว่าอาจจะมีอัตราผลตอบแทนที่ต่ำกว่าวิธีอื่นๆ แต่นี่เป็นวิธีที่ง่ายและมีความเสี่ยงต่ำในการสร้าง Passive Income ให้กับคุณ
ตลาดซื้อขาย NFT
สำหรับผู้ชื่นชอบศิลปะดิจิทัล Exodus Wallet เป็นหนึ่งในกระเป๋าเงินแบบ Non-Custodial ไม่กี่รายที่มีตลาดซื้อขาย NFT และแกลเลอรีในตัว ทำให้คุณสามารถชมคอลเลกชั่น NFT ของคุณได้ภายในแอปพลิเคชั่นได้โดยตรง
ตลาดซื้อขาย NFT ที่ผสานรวมอยู่ในแอปพลิเคชั่นคือ Magic Eden ซึ่งเป็นตลาด NFT ที่อยู่บนเครือข่าย Solana แม้ว่าเรื่องนี้อาจจะเป็นข้อจำกัดสำหรับผู้ที่มี NFT จากหลายๆ เครือข่าย ผู้ใช้งานยังสามารถเข้าถึง OpenSea ซึ่งเป็นตลาดซื้อขาย NFT ที่ใหญ่ที่สุดผ่าน dApp ของพวกเขาได้
UI ของ Exodus เข้าใจง่ายหรือไม่?
Exodus Wallet โดดเด่นในเรื่องส่วนต่อประสานกับผู้ใช้งาน (UI) ที่ใช้งานได้ง่ายและมีความทันสมัย
เราประทับใจกับความสะดวกในการเริ่มต้นใช้งานในแอปพลิเคชั่น รีวิวออนไลน์จำนวนมากยังกล่าวถึงความสะดวกในการเข้าใช้งานของแอปนี้ ซึ่งทำให้เหมาะสมสำหรับทั้งมือใหม่และเทรดเดอร์คริปโตที่มีประสบการณ์
ทั้ง 2 แอป (เดสก์ท็อป และ อุปกรณ์เคลื่อนที่) นำเสนอประสบการณ์การใช้งานที่เรียบง่าย พร้อมคำแนะนำและไกด์ที่เป็นประโยชน์ตลอดการใช้งานของคุณ อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์ที่มีความเชี่ยวชาญบางรายอาจจะชื่นชอบประสบการณ์การใช้งานที่สามารถปรับแต่งเองได้มากกว่า
ค่าธรรมเนียมของ Exodus Wallet ถูกหรือแพงอย่างไร?
Exodus Wallet เป็นกระเป๋าเงินซอฟต์แวร์ที่สามารถใช้งานได้ฟรี ไม่มีค่าลงทะเบียนหรือค่าสมาชิกในการใช้งานแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม มันก็มีค่าธรรมเนียมในการใช้คุณสมบัติบางอย่างอยู่เช่นกัน
ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม
เช่นเดียวกับกระเป๋าเงินดิจิทัลอื่นๆ ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมสำหรับ Exodus คือค่าธรรมเนียมจากเครือข่ายสกุลเงินดิจิทัลเอง ซึ่งเป็นค่าธรรมเนียมที่จำเป็นในการทำธุรกรรมโดยใช้บล็อกเชน ค่าธรรมเนียมเหล่านี้ใช้สำหรับการดูแลรักษาเครือข่ายและการตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรม โดยอาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละเครือข่ายและมักจะเปลี่ยนแปลงไปตามความแออัดของเครือข่าย
เมื่อทำธุรกรรม ค่าธรรมเนียมเครือข่ายที่เฉพาะเจาะจงมักจะแสดงขึ้นมาก่อนที่คุณจะยืนยันการทำธุรกรรม ช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน กระเป๋าเงินนี้ยังไม่รองรับการปรับแต่งค่าธรรมเนียม
ค่าธรรมเนียมการเทรดคริปโตในตัว
Exodus Wallet เรียกเก็บค่าธรรมเนียมเล็กน้อยผ่านการเทรดคริปโตของพวกเขา
ซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลักของบริษัท ค่าธรรมเนียมนี้อยู่ในรูปแบบของค่าสเปรด — ส่วนต่างระหว่างราคาซื้อที่แสดงต่อผู้ซื้อและราคาที่แสดงต่อผู้ขาย ส่วนต่างนี้จะถูกรวมอยู่ในราคาที่คุณจะเห็น ทำให้เป็นเรื่องยากที่จะรู้ได้ว่า คุณจะถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเท่าไหร่
ค่าธรรมเนียมเหล่านี้จะแตกต่างกันไปตามสภาวะตลาด แต่จากรายงานของผู้ใช้งาน โดยทั่วไปแล้วมักจะอยู่ระหว่าง 1% ถึง 3% ถึงแม้ว่าอาจจะสูงไปหน่อยสำหรับการซื้อขายขนาดใหญ่ แต่สิ่งนี้ก็จะช่วยให้บริษัทสามารถดูแลทีมพัฒนาที่กระตือรือร้นให้สามารถทำการอัพเดตอย่างต่อเนื่อง และให้บริการลูกค้าได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่กระเป๋าเงินและแพลตฟอร์มเทรดหลายๆ แห่งขาด
การชำระเงินด้วยบัตรเดบิต/เครดิต: ค่าธรรมเนียมสูงสุด 5.45%
Exodus Wallet จะมีบริการการแลกเปลี่ยนแบบ “On-Ramp” ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถซื้อสกุลเงินดิจิทัลโดยใช้สกุลเงินเฟียตได้ด้วยบัตรเดบิต/เครดิตผ่านการผสานรวมกับ MoonPay
ค่าธรรมเนียมนี้จะประกอบไปด้วย “ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม” และ “ค่าธรรมเนียมสำหรับการประมวลผล” (คำนวณโดยผู้ให้บริการของคุณ)
รีวิว Exodus Wallet ของเราพบว่า ค่าธรรมเนียมนี้ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับกระเป๋าเงินอื่นๆ (สูงถึง 5.45%) ถึงแม้ว่าจะมีการลดลงบ้างในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็ตาม ดังนั้น ผู้ใช้งานบางรายจึงชอบที่จะซื้อสกุลเงินดิจิทัลโดยใช้แพลตฟอร์มอื่นๆ ที่รองรับสกุลเงินเฟียต แล้วจึงโอนไปยังกระเป๋าเงินคริปโตของพวกเขา การศึกษาข้อมูลของแพลตฟอร์มเทรดต่างๆ เพื่อหาวิธีที่สะดวกและคุ้มค่าที่สุดจึงเป็นสิ่งที่ควรพิจารณาเช่นกัน
การโอนเงินไปยัง Exodus Wallet
หลังจากที่คุณได้อ่าน “รีวิว Exodus Wallet” ของเราแล้ว คุณอาจจะสงสัยว่าจะเพิ่มสกุลเงินดิจิทัลลงไปในกระเป๋าเงินของคุณได้อย่างไร การโอนเงินเข้าและออกจากกระเป๋าเงินใบนี้นั้นค่อนข้างง่าย เราจะแนะนำวิธีการต่างๆ ในการเพิ่มเงินเข้าและถอนเงินออกจากบัญชีของคุณ
การโอนจาก CEX หรือ กระเป๋าเงินอื่นๆ
คุณสามารถโอนเงินที่เก็บไว้ในกระเป๋าเงินอื่นๆ หรือในกระดานเทรดแบบรวมศูนย์ (CEX) ไปยัง Exodus Wallet ได้ในไม่กี่ขั้นตอนดังนี้:
ขั้นตอนที่ 1: ไปที่ส่วน “การโอน”
ขั้นตอนแรกคือการไปที่กระดานเทรดแบบรวมศูนย์หรือกระเป๋าเงินที่เก็บเงินของคุณไว้และเข้าสู่ระบบ จากนั้น ให้ไปที่ส่วน “ถอน” หรือ “ส่ง” ของแพลตฟอร์ม ซึ่งโดยปกติแล้วจะอยู่ในหน้ากระเป๋าเงิน จากนั้น เลือกสกุลเงินดิจิทัลที่คุณต้องการจะส่ง
ขั้นตอนที่ 2: กรอกรายละเอียด
ในการโอนสินทรัพย์ไปยังบัญชี Exodus ของคุณ คุณจะต้องระบุ Public Address ของ Exodus ซึ่งสามารถพบได้ในแอป Exodus Wallet ของคุณ เปิดแอปของคุณและไปที่กระเป๋าเงินของคุณ จากนั้น เลือกสกุลเงินดิจิทัลที่คุณต้องการโอน
คุณจะเห็นลูกศรทั้งสองด้าน (ด้านหนึ่งสำหรับการส่งและอีกด้านหนึ่งสำหรับการรับ) แตะที่ลูกศรสำหรับการรับ และคุณจะเห็น Public Address ของคุณและ QR Code การแตะที่ Address จะช่วยคัดลอกที่อยู่ดังกล่าวไปยังคลิปบอร์ดของคุณ
จากนั้นให้วาง Address นั้นลงในส่วน Public Address บนแอปกระดานเทรดของคุณ ใส่จำนวนสกุลเงินดิจิทัลที่คุณต้องการจะส่งให้เรียบร้อย จากนั้น ตรวจสอบรายละเอียดของธุรกรรมอย่างละเอียด รวมถึงจำนวนเงิน แอดเดรสของผู้รับ และค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง
ขั้นตอนที่ 3: ยืนยันการโอน
เมื่อตรวจสอบรายละเอียดเรียบร้อยแล้ว คุณสามารถยืนยันและเริ่มต้นการทำธุรกรรมได้ คุณอาจจะต้องทำการยืนยันการถอนผ่านอีเมลหรือการยืนยันตัวตนแบบ 2 ปัจจัย (ขึ้นอยู่กับกระดานเทรดของคุณ) หลังจากเริ่มการถอนแล้ว ให้ติดตามความคืบหน้าของธุรกรรมบนแพลตฟอร์มกระดานเทรดและยอดคงเหลือของคุณบน Exodus Wallet
การซื้อสกุลเงินดิจิทัลภายใน Exodus Wallet
ตามที่ได้กล่าวไว้ในส่วนของฟีเจอร์ คุณสามารถซื้อสกุลเงินดิจิทัลจากในแอปได้ ผ่านหน้า “buy Crypto” อย่างไรก็ตาม ค่าธรรมเนียมสำหรับการซื้อนี้อาจจะสูงถึง 5.45% ดังนั้น เราจึงแนะนำให้ซื้อสกุลเงินดิจิทัลของคุณจากที่อื่นและโอนมายัง Exodus Wallet ของคุณ
วิธีถอนเงินจาก Exodus Wallet ไปยังบัญชีธนาคารของคุณ
คุณสามารถถอนเงินจากกระเป๋าเงินไปยังบัญชีของคุณได้โดยตรง แต่ค่าธรรมเนียมก็ค่อนข้างสูงเช่นกัน ดังนั้น เราขอแนะนำให้ถอนเงินไปยังกระดานเทรดแบบรวมศูนย์เพื่อให้ได้มูลค่าสูงสุด และนี่คือขั้นตอนที่คุณต้องปฏิบัติตาม:
ขั้นตอนที่ 1: เลือกกระดานเทรดแบบรวมศูนย์
เริ่มต้นด้วยการเลือกกระดานเทรดคริปโตแบบรวมศูนย์ที่น่าเชื่อถือซึ่งรองรับการถอนเงินไปยังบัญชีธนาคารของคุณ กระดานเทรดคริปโตแบบรวมศูนย์ยอดนิยมเช่น Coinbase, Kraken และ Binance มักจะมีตัวเลือกให้คุณสามารถถอนเงินสกุลเฟียตได้
ขั้นตอนที่ 2: ตั้งค่าบัญชีบนกระดานเทรดแบบรวมศูนย์
สมัครบัญชีบนกระดานเทรดคริปโตแบบรวมศูนย์ที่คุณเลือกและทำกระบวนการยืนยันบัญชีให้เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะเกี่ยวข้องกับการให้ข้อมูลส่วนบุคคลและการยืนยันตัวตนของคุณ คุณยังสามารถเชื่อมโยงบัญชีธนาคารของคุณในส่วนการตั้งค่าหรือการกำหนดค่าบัญชีได้
ขั้นตอนที่ 3: โอนสกุลเงินดิจิทัลจาก Exodus ไปยังกระดานเทรดแบบรวมศูนย์
เปิดแอปพลิเคชัน Exodus Wallet และไปที่กระเป๋าเงินที่มีสกุลเงินดิจิทัลที่คุณต้องการถอนไปยังบัญชีธนาคารของคุณ คลิกที่ปุ่ม “ส่ง”
ขั้นตอนที่ 4: ใส่ Address และรายละเอียดของกระดานเทรดแบบรวมศูนย์
คุณจะได้รับการแจ้งเตือนให้ใส่ Address ของกระดานเทรดแบบรวมศูนย์ของคุณ ซึ่งโดยปกติแล้ว คุณจะพบมันได้ในส่วนการฝากของบัญชีของกระดานเทรดแบบรวมศูนย์ของคุณ ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามันตรงกับสกุลเงินดิจิทัลที่คุณกำลังพยายามส่ง จากนั้น คัดลอกและวางลงในแอป Exodus Wallet ของคุณ คุณจะต้องใส่จำนวนสกุลเงินดิจิทัลที่คุณต้องการส่งด้วย
ขั้นตอนที่ 5: ยืนยันธุรกรรม
ตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดของคุณอีกครั้งแล้วคลิก “ส่ง” เงินของคุณจะถูกโอนไปยังบัญชีของกระดานเทรดแบบรวมศูนย์ของคุณภายในไม่กี่นาที
ขั้นตอนที่ 6: แปลงสกุลเงินดิจิทัลเป็นสกุลเงินเฟียต
เมื่อคุณได้รับสกุลเงินดิจิทัลแล้ว ให้ไปที่ส่วนการซื้อขายหรือขายของแพลตฟอร์ม ที่นี่ คุณสามารถขายสกุลเงินดิจิทัลเป็นสกุลเงินเฟียต เช่น USD หรือ EUR ได้
ขั้นตอนที่ 7: ถอนไปยังบัญชีธนาคารของคุณ
ตอนนี้ คุณสามารถเริ่มการถอนเงินสกุลเฟียตไปยังบัญชีธนาคารของคุณที่เชื่อมต่อเอาไว้ได้ ทำตามคำแนะนำการถอนเงินที่กระดานเทรดแบบรวมศูนย์ให้ไว้และยืนยันธุรกรรม กระบวนการนี้อาจจะใช้เวลาตั้งแต่ไม่กี่นาทีไปจนถึงหลายวันจึงจะเสร็จสมบูรณ์ ขึ้นอยู่กับวิธีการและธนาคารของคุณ
บทสรุปของ “รีวิว Exodus Wallet” ของเรา
บทสรุปส่งท้ายของเรา หากคุณกำลังมองหากระเป๋าเงินซอฟต์แวร์ที่ใช้งานได้ง่าย มาพร้อมกับฟีเจอร์ต่างๆ มากมาย เราคิดว่า Exodus Wallet จะเป็นโซลูชั่นที่ยอดเยี่ยมสำหรับคุณ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุนที่มีประสบการณ์สูงหรือเพิ่งจะเข้ามาสู่โลกของสกุลเงินดิจิทัลก็ตาม กระเป๋าเงินใบนี้จะมอบความปลอดภัยและความสบายใจในการจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลด้วยตัวคุณเองได้อย่างมั่นใจ
นอกจากนี้ คุณยังมีตัวเลือกในการเชื่อมต่อกับ Trezor ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถยกระดับความปลอดภัยของกระเป๋าเงินเพิ่มเติมได้หากกังวลเกี่ยวกับการถูกแฮก อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะใช้งานได้สะดวกและง่ายดาย แต่เพื่อระดับความปลอดภัยที่สูงขึ้น ผู้ใช้งานอาจจะต้องตั้งค่าคุณสมบัติความปลอดภัยเพิ่มเติม ซึ่งอาจจะเป็นข้อเสียสำหรับมือใหม่ที่อาจจะไม่ทราบในเรื่องนี้
คำถามที่พบบ่อย
ใครกันที่เป็นเจ้าของ Exodus Wallet?
Exodus ก่อตั้งขึ้นในปี 2015 โดย Daniel Castagnoli และ JP Richardson บริษัทผู้ให้บริการกระเป๋าเงินนี้คือ Exodus Movement, Inc. ตั้งอยู่ที่รัฐเนแบรสกา ประเทศสหรัฐอเมริกา
Exodus Wallet ใช้งานได้ฟรีหรือไม่?
Exodus Wallet เป็นกระเป๋าเงินที่ใช้งานฟรี แต่คุณสมบัติบางอย่างก็มีค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง เช่น การซื้อสกุลเงินดิจิทัลด้วยบัตรเดบิตหรือเครดิต และค่าธรรมเนียมธุรกรรมเครือข่าย
Exodus Wallet ดีกว่า Trust Wallet หรือไม่?
Exodus Wallet รองรับสกุลเงินดิจิทัลมากกว่า Trust Wallet และใช้งานง่ายกว่าสำหรับผู้เริ่มต้น ผู้ใช้บางรายชอบคุณสมบัติด้านความปลอดภัยของ Trust Wallet มากกว่า
Exodus Wallet ปลอดภัยหรือไม่?
Exodus เป็นกระเป๋าเงินซอฟต์แวร์ที่มาพร้อมคุณสมบัติด้านความปลอดภัยหลายอย่าง รวมถึงการจดจำใบหน้า การเข้ารหัส และตัวเลือกการสำรองข้อมูล แม้ว่ากระเป๋าเงินนี้จะเป็นแบบ Closed-Source และไม่ใช้การยืนยันตัวตนแบบ 2 ปัจจัย แต่ก็มีความปลอดภัยเทียบเท่ากับกระเป๋าเงินซอฟต์แวร์อื่นๆ ในตลาด
ข้อเสียของ Exodus Wallet คืออะไร?
Exodus Wallet มีค่าธรรมเนียมที่สูงสำหรับการซื้อด้วยบัตรเครดิต/เดบิต และขาดการยืนยันตัวตนแบบ 2 ปัจจัยและความโปร่งใสในโค้ดพื้นฐาน แม้ว่าจะมีฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยเป็นทางเลือกให้ใช้งานอยู่ แต่สำหรับผู้ใช้งานบางรายอาจจะถือว่านี่เป็นข้อเสียได้
ข้อมูลอ้างอิง
- สิ่งที่นักลงทุนต้องรู้เกี่ยวกับการ ‘Staking’ (CNBC.com)
- ค่าธรรมเนียมธุรกรรมบล็อกเชน: มันสำคัญอย่างไร? (learn.bybit.com)